หรือว่าทักษิณกำลังกลายเป็นอริราชศัตรู?

วันเวลายิ่งผ่านไปก็ยิ่งเห็นเด่นชัดเจนขึ้นทุกที


ว่าที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พยายามพูดหวังจะให้ผู้คนทั้งหลายเชื่อว่าต้องการวางมือทางการเมือง ต้องการมีชีวิตอยู่กับครอบครัวอย่างสุขสงบ และต้องการทำกุศลสาธารณะนั้นเป็นเรื่องโกหก

เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นและปรากฏการณ์ทั้งหลายที่เกี่ยวเนื่องยึดโยงกัน

ล้วนมีความชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีวันที่จะยอมวางมือทางการเมือง ไม่มีวันที่จะหยุดการแสวงหาอำนาจ และยังคงต้องการกลับมามีอำนาจในบ้านเมืองเหมือนเดิม

ผิดวิสัยบรรดานักการเมืองและบรรดาผู้เคยสูญเสียอำนาจทั้งหลาย

ที่เคยเป็นมาในประเทศไทย เพราะท่านเหล่านั้นไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นว่าประเทศไทยเป็นของตัวเอง เข้ามามีอำนาจชั่วครั้งชั่วคราวแล้วก็ต้องผ่านพ้นไป

จึงไม่มีใครตั้งตนเป็นปรปักษ์กับชาติบ้านเมือง


และไม่มีใครเคลื่อนไหวที่จะกลับเข้ามาครองบ้านครองเมืองยึดเอาเป็นของตนเองเพราะเหตุนี้การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทุกครั้งที่ผ่านมาจึงไม่เป็นพิษร้ายกับบ้านเมือง

ขั้วอำนาจใหม่จึงสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงประเทศชาติให้เข้าสู่สถานะเดิมและพัฒนาให้ก้าวรุดหน้ามาเป็นลำดับ

หลังการยึดอำนาจการปกครองแล้ว

คนไทยก็ได้เห็นปรากฏการณ์มากหลาย ซึ่งจะขอยกมาทบทวนความทรงจำพอเป็นสังเขปให้ได้รู้ได้เห็นกันว่าได้เกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมืองและประชาชน

มันเกิดขึ้นเพราะความยึดมั่นถือมั่นในอำนาจ


ที่ติดยึดลุ่มหลงว่าประเทศไทยเป็นของตนเอง ไม่ยอมปล่อยปละละวาง คิดว่าของรักของหวงของตนถูกแย่งยึดเอาไป จะต้องแย่งยึดกลับคืนมาให้จงได้

ดังนั้นเรื่องราวเลวร้ายที่ทำความเสียหายและความเจ็บช้ำให้กับบ้านเมืองและประชาชนในประการดังต่อไปนี้จึงเกิดขึ้น

เกิดเหตุการณ์ข่มขู่ว่าจะมีการเกณฑ์ประชาชนในชนบท

เข้ามาล้มล้างรัฐบาล จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์เผาโรงเรียนในภาคเหนือและภาคอีสาน ลามลงมาถึงภาคกลางเป็นลูกระนาด

จากนั้นก็มาถึงเหตุการณ์วางระเบิดกรุงเทพฯ


ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และยังมิหนำแก่ใจก็มาเกิดเหตุยิงลูกระเบิดใส่สำนักงานหนังสือพิมพ์ ข่มขวัญผู้คนไปทั้งบ้านทั้งเมือง

สภาพดังกล่าวนี้คือการสร้างสถานการณ์เพื่อบั่นทอนไม่ให้รัฐบาลปกครองบ้านเมืองให้เป็นไปตามปกติได้ ต้องการทำลายความเชื่อมั่น ต้องการที่จะทำให้ประชาชนหวนคิดถึงอดีตเพื่อปูลู่ทางการกลับมามีอำนาจใหม่

แต่หาได้คำนึงถึงความฉิบหายวายวอดของบ้านเมืองและประชาชน

ตลอดจนลูกเด็กเล็ก ๆ ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่แต่ประการใดไม่ ทำอย่างนี้แล้วคิดหรือว่าประชาชนจะยอมรับนับถือยื่นมือรับเข้ามาปกครองบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่ง มันเป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด

สภาพเช่นนี้ยังฉิบหายไม่พอ และคงยังไม่สะใจเท่าใดนัก


จึงเกิดเหตุการณ์ก่อความปั่นป่วนวุ่นวายจากภายนอกประเทศ หวังให้กดดันเข้ามายังภายในประเทศ และสร้างเหตุให้เกิดความพิพาทบาดหมางระหว่างประเทศต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

รัฐบาลต่างประเทศที่มีนิสัย

เป็นโจรก็ร่วมไม้ร่วมมือทำความเดือดร้อนให้กับประเทศไทยและคนไทยอย่างหน้าตาเฉย แต่รัฐบาลต่างประเทศส่วนใหญ่ที่ไม่มีเถยจิตคิดเป็นโจรเขาก็ไม่เล่นด้วย

นี่คือปรากฏการณ์ที่ก่อไฟนอกบ้านหวังให้ลุกลามเข้ามาในบ้าน ประสานกับไฟภายในบ้านที่บรรดาลิ่วล้อช่วยกันก่อช่วยกันจุดไม่หยุดไม่หย่อน

คนคิดอ่านทำการอย่างนี้หรือที่จะมีหน้ามาปกครองบ้านเมือง


หรือคิดอ่านว่าจะกลับมามีอำนาจได้อีก ช่างเป็นความฝันลม ๆ แล้ง ๆ โดยแท้ คนไทยใน พ.ศ. นี้ไม่ได้โง่เขลาเบาปัญญาอีกแล้ว และข้อมูลข่าวสารก็ไม่ได้จำกัดขัดสนเหมือนแต่ก่อนแล้ว

จึงสามารถรู้และเข้าใจว่า

อะไรเกิดขึ้นกับบ้านเมือง และรู้กระจ่างด้วยว่าใครคิดคดทรยศต่อบ้านเมือง สร้างเรื่องเดือดร้อนให้ผู้คนจนทุกวันนี้ ดังนั้นแทนที่การสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายทำร้ายบ้านเมืองจะเกิดผลดีแก่การฟื้นคืนระบอบเผด็จการทรราชขึ้นมาใหม่

กลับเป็นผลร้ายอย่างหนัก

เพราะว่าทั้งข้าราชการ ทั้งประชาชน ทั้งนักการเมือง


เมื่อรู้เช่นเห็นชาติเช่นนี้แล้วก็พากันขยาด เอาตัวเอาใจออกห่าง หันมาร่วมสร้างร่วมฟื้นฟูบ้านเมืองกันอย่างคึกคัก

แม้ว่าจะอึดอัดขัดใจกับคนจำพวกขิงแก่

ที่อืดอาดยืดยาดบ้างก็ยังดีกว่าที่จะไปฝากความหวังไว้กับอนาคตอันมืดมนอนธการ ราวกับตกอยู่ในอุ้งมือมารอีกต่อไป

แค่นี้ยังไม่พอแก่ใจ

ยังปรากฏข่าวการจ้างวางบริษัทล็อบบี้ยิสต์ของสหรัฐถึง 2 บริษัทเพื่อปฏิบัติงาน 2 อย่าง คือสร้างข่าวคราวให้เด่นดัง หวังเป็นประโยชน์แก่ตน แต่ชาติบ้านเมืองจะฉิบหายอย่างไรไม่ต้องคำนึง

ประการหนึ่ง และปูลู่ทางด้านต่างประเทศให้ได้กลับมามีอำนาจอีกประการหนึ่ง

หลังปรากฏข่าวดังกล่าวแล้ว


จะสั่ง จะจ้างวาน จะบอกทิศชี้ธงกันอย่างไรไม่มีใครรู้ แต่ปรากฏว่าบังเกิดข่าวสารในต่างประเทศ กล่าวหาว่าร้ายประเทศไทย รัฐบาลไทย และคณะทหารของกองทัพไทย

ยกย่องเชิดชูระบอบเผด็จการทรราชที่ล้างผลาญชาติว่าเป็นสิ่งดีงาม เป็นประชาธิปไตยไปโน่น !

คนมีเงินและยังไม่ถูกยึดทรัพย์คิดอ่านทำอะไรก็ทำได้อย่างนี้แหละ แต่เรื่องหนึ่งซึ่งไม่พึงเป็นเลย และไม่เคยมีคนไทยคนใดในประวัติศาสตร์บังอาจหาญกล้าถึงขนาดนี้ นั่นคือการก้าวล่วงจ้วงจาบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ไอ้ฝรั่งมันอาจจะไม่รู้


ได้เงินเป็นค่าจ้างก็พอใจ แต่ไอ้คนไทยที่ไปจ้างไอ้ฝรั่งนั้นต่างหากที่ต้องรับผิดชอบ บังอาจพาดหัวข่าวว่าขอสัมภาษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและประธานองคมนตรีแล้วได้รับการปฏิเสธ

หวังจะหลอกคนทั้งโลกว่า

การปฏิเสธนั้นเพราะไม่กล้าสู้หน้านักข่าวหรือสู้หน้าความจริง ซึ่งเป็นสิ่งผิดมหันต์ เพราะพระมหากษัตริย์ไม่ทรงอยู่ในฐานะที่จะให้สัมภาษณ์เพราะไม่ทรงเกี่ยวข้องด้วยการเมือง

แม้ประธานองคมนตรีก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะให้สัมภาษณ์ การปฏิเสธจึงเป็นปกติสำหรับคนไทย แต่ชาวต่างชาติอาจจะถูกหลอกได้โดยง่าย

จาบจ้วงล่วงเกินอย่างนี้แล้วยังมิหนำใจ


สื่อฝรั่งบางสำนักยังจาบจ้วงล่วงเกินกล่าวหาว่าหลักปรัชญาพอเพียงไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ สู้ระบบทักษิโณมิคส์ไม่ได้

โดยปกปิดบิดเบือนความจริงที่ว่า

องค์การสหประชาชาติซึ่งเป็นประชาคมนานาชาติได้ยอมรับนับถืออย่างเป็นทางการมาแล้ว ไฉนยังมาโกหกเช่นนี้อีก

นี่ไม่ใช่การกระทำของคนไทยเสียแล้ว และคนที่บงการเรื่องนี้ก็เห็นจะไม่ใช่คนไทยเสียแล้ว

หากมันคืออริราชศัตรูที่เป็นศัตรูร้ายกาจของประเทศชาติราชบัลลังก์และประชาชน !

เหล่าทหารทุกคนที่เคยถวายสัตย์ปฏิญาณ


และยืนอยู่ใต้ธงชัยเฉลิมพล ตลอดจนคนไทยทั้งประเทศและทั้งที่อยู่นอกประเทศย่อมไม่อาจให้อภัยกับอริราชศัตรูที่ก่อกรรมทำชั่วเช่นนี้ได้อีกต่อไป

จะต้องร่วมกันต่อต้านและกำจัดอริราชศัตรู พิทักษ์ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ดำรงสถาพรอย่างเด็ดเดี่ยวและถึงที่สุด.


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์