ญาติวีรชน พ.ค.ยื่นหนังสือวอน แม้ว เสียสละ หวั่นเกิดพฤษาทมิฬซ้ำสอง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 15 มีนาคม 2549 18:53 น.

ญาติวีรชนเดือนพฤษภา ยื่นหนังสือวอน ทักษิณ เสียสละ หยุดความแตกแยกในสังคม พร้อมเรียกร้องกลุ่มพันธมิตรฯ ใช้ขันติและปัญญา หลีกเลี่ยงความรุนแรง แนะให้นำเหตุการณ์เดือนพฤษภา มาเป็นบทเรียน เตือนสติทุกฝ่ายให้ยอมกันบ้าง เชื่อ หากเกิดเหตุรุนแรงคงไม่มีใครกล้าแสดงความรับผิดชอบแน่นอน ด้าน ชิดชัย ย้ำ นายกฯใช้หลักเมตตาธรรมปรองดอง

วันนี้ (15 มี.ค.) นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานมูลนิธิญาติวีรชน พร้อมตัวแทนญาติวีรชนจากเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 ประมาณ 15 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่าน พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม เพื่อขอให้ยอมเสียสละ เพื่อแก้ไขปัญหาความแตกแยกในสังคม โดยหนังสือร้องเรียนระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ก่อให้เกิดความแตกแยกของประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะเกิดการเผชิญหน้าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ และอาจนำไปสู่ความรุนแรงโดยไม่อาจคาดเดาได้

หนังสือระบุอีกว่า คณะกรรมการญาติวีรชน จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแก้ไขวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ด้วยความอดทน มีเมตตา ยอมเสียสละ เพื่อรักษาความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ เพื่อหยุดยั้งความแตกแยก และความรุนแรงของสังคม เพราะนายกรัฐมนตรีในฐานะที่อาสาเข้ามาเป็นผู้บริหารประเทศทุกคนจะต้องนำพาประเทศชาติและสังคมพัฒนาไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชน แต่หากผู้นำประเทศคนใดต้องปกครองและบริหารประเทศบนซากปรักหักพังของความแตกแยกในสังคมประชาชน ถือเป็นเรื่องที่น่าวิตก

ดังนั้น จึงหวังว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะผู้นำที่อาสาเข้ามาบริหารประเทศจะต้องพิจารณาเสียสละ และเป็นแบบอย่าง เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ในบ้านเมือง นอกจากนี้ ขอเรียกร้องประชาชนทุกฝ่ายรวมทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ใช้ขันติและสติปัญญาในการแก้ไขวิกฤติเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง

นายอดุลย์ กล่าวว่า เหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 เป็นสิ่งที่สร้างความเจ็บปวดให้พวกเราเป็นอย่างมาก และยังไม่สามารถลืมได้จนถึงวันนี้ เราไม่อยากเห็นวิกฤตที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนำไปสู่ความรุนแรง จึงหวังว่า ทุกฝ่ายจะยอมเสียสละ และใช้ขันติ สติปัญญาในการแก้ไขปัญหา อยากให้นำความทุกข์ทรมานที่พวกเราได้รับมาเป็นบทเรียนเพื่อเตือนสติทุกฝ่ายว่าต้องเสียสละ ยอมกันบ้าง เพราะ 10 กว่าปีที่ผ่านมาเรื่องของพวกเรายังไม่ยุติเลย คนหายก็ยังไม่ได้คืน แล้วเราจะปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำสองอีกหรืออย่างไร

การเสียสละที่พวกเราเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีทำนั้น ผมเชื่อว่า ในฐานะผู้บริหารประเทศที่อาสาเข้ามาย่อมรู้ว่าต้องทำอย่างไร เพราะสังคมปัจจุบันมีความแตกต่างทางความคิดมากจนอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าได้ ภารกิจแรกของผู้นำ คือ การสร้างความปรองดองและความสมานฉันท์ให้กับคนในชาติ

ดังนั้น นายกรัฐมนตรีควรรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็แล้วแต่ ผมเชื่อว่า คนเป็นนายกรัฐมนตรีต้องมีวุฒิภาวะที่เหนือกว่าคนธรรมดาอยู่แล้ว เพราะทั้งประเทศมีนายกรัฐมนตรีได้เพียงคนเดียว ส่วนแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น ทางญาติวีรชนได้แจ้งให้ทราบแล้วก่อนหน้านี้ว่า เราไม่พึงประสงค์เหตุการณ์ที่นำไปสู่ความรุนแรง ซึ่งเข้าใจว่า เขาคงระมัดระวัง เพราะหากเกิดเหตุรุนแรงขึ้นแล้ว ผมเชื่อว่าไม่มีใครกล้าแสดงความรับผิดชอบอย่างแน่นอน นายอดุลย์ กล่าว

พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวตอบว่า ขอบคุณที่มาให้สติกับรัฐบาล ในฐานะที่ดูแลด้านความมั่นคง ขอยืนยันว่า ได้ใช้ความอดทน อดกลั้น และหลักสันติสุขตลอดเวลากับการชุมนุมในทุก ๆ ครั้ง เพราะไม่อยากให้ประเทศชาติเกิดความเสียหาย รวมทั้งเฝ้าระวังไม่ให้มีเหตุการณ์แทรกซ้อนที่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับและเน้นให้ใช้หลักเมตตาธรรมกับหลักรัฐศาสตร์

ทั้งนี้ ในการแก้ไขปัญหาคงต้องแก้ด้วยความปรองดองโดยการพูดคุยกัน ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีก็เปิดใจกว้างพยายามที่จะให้มีการมานั่งพูดคุยกันเพื่อให้เกิดสันติสุข โดยมีหลายกลุ่มกำลังเจรจากันอยู่ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย และเคารพกติกา