ปณิธาน อัดกัมพูชาละเมิดข้อตกลง

"ปณิธาน" เผยทหารไทย-เขมรหยุดยิงแล้ว อัด กัมพูชา ละเมิดข้อตกลง พรุ่งนี้ชัดเจนแนวทางช่วยเหลือชาวบ้านภูมิซรอล

 "หลังจากนี้เราก็หวังว่า เราจะได้กลับมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลคนบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนเรื่องสถานการณ์ชายแดนเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมร่วมกันดำเนินการติดต่อประสานงานต่อไป ในส่วนการแก้ปัญหาระหว่างประเทศขณะนี้ยังเป็นระดับรัฐมนตรีอยู่ ขณะเดียวกันเราก็มีข้อตกลงในเรื่องสายด่วน สายตรงอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องให้ท่านนายกฯโทร.สายตรงถึงสมเด็จฮุนเซ็น เพราะเราคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ถึงขั้นกระทบต่อความสัมพันธ์ทั้งหมด ซึ่งปีนี้เป็นปีครบรอบความสัมพันธ์ 60 ปี เรายังมีโอกาสที่จะกระชับความสัมพันธ์ในหลายวิธี" นายปณิธานกล่าว

 นายปณิธานกล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่อพยพออกจากพื้นที่ว่า ในเบื้องต้นรัฐบาลจะดูในเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก

ถ้าสถานการณ์ยังตึงเครียดอยู่ และยังมีความไม่ปลอดภัย รัฐบาลก็จะต้องดุแล ยังไม่ให้กลับเข้าไปในพื้นที่ โดยในเช้าวันพรุ่งนี้นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.สำนักนายกฯ และนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย จะลงพื้นที่ไปพบชาวบ้าน เข้าใจว่าเบื้องต้นจะต้องทำหลุมหลบภัยที่เข้มแข็ง รวมถึงสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆให้ 

 "หลังจากที่รัฐมนตรีทั้งสองท่านลงไปแล้ว คงจะมีความชัดเจนขึ้นว่ารัฐบาลจะช่วยอะไรบ้าง คาดว่าบ่ายวันพรุ่งนี้เราอาจจะได้ข้อมูลชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับความช่วยเหลือในพื้นที่  ขณะเดียวกันวันพรุ่งนี้เราก็ต้องรอดูว่าทางฝั่งกัมพูชาเขาจะตอบกลับมาอย่างไร หลังจากเราทำหนังสือประท้วงไปว่าเขาละเมิดข้อตกลงก่อน" นายปณิธานกล่าว

 ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯนั้น นายปณิธานกล่าวว่า พันธมิตรมีสิทธิเคลื่อนไหว รัฐบาลก็ชี้แจงทำความเข้าใจให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา และนายกรัฐมนตรีก็ยังคงเรียกร้องให้ทางพันธมิตรเข้ามาเจรจาเพื่อแก้ปัญหาและหาทางออกร่วมกัน

.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุปะทะระหว่างกองกำลังทหารไทยกับกองกำลังทหารกัมพูชาที่ยังคงมีการยิงตอบโต้กันไปมาอย่างต่อเนื่องว่า

เมื่อเวลา 18.40 น. ทหารกัมพูชาได้ยิงกระสุนส่องสว่างเข้ามาจำนวน 2 ลูก บริเวณภูมะเขือ  อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมกับระดมยิงปืนใหญ่รถถังเข้ามาตกบริเวณบ้านพรายยาว ทางด้านขวาของเขาพระวิหารประมาณ 5 กิโลเมตร กินพื้นที่บริเวณรอบเขาพระวิหารลงมาทางช่องเขาสะพายโมย ส่งผลให้ฝ่ายไทยได้รับความเสียหาย ทางผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่รับผิดชอบจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการตอบโต้ดวยการสั่งยิงปีนใหญ่ตอบโต้อย่างสมเหตุสมผล

 พ.อ.สรรเสริญกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามสถานการณ์ยังพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ

เมื่อทางกองกำลังทหารกัมพูชาได้ตอบโต้ด้วยการยิงจรวดติดรถแบบ  บีเอ็ม21 อีกจำนวนมากถล่มเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง  ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องระดมยิงปืนใหญ่ตอบโต้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน  ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้จนกระทั่งเวลา 21.00 น.ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะสงบ 

 "ผมมั่นใจว่าทางผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ในระดับรัฐบาลได้พยายามประสานไปยังผู้ใหญ่ฝ่ายกัมพูชาขอให้หยุดยิงซึ่งก็ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นทางฝ่ายทหารไทยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตอบโต้เพื่อไม่ให้เกิดการเสียเปรียบในการเจรจาหยุดยิง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายได้ในที่สุด เพราะฝ่ายไทยไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสียจากการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย" โฆษกทบ.กล่าว