จตุพรซัดมาร์คขอพบธิดาเอง

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นาย จตุพร พรหมพันธุ์ แถลงกรณีที่นายอภิสิทธิ์พบและพูดคุยกับนางธิดาและนายวีระ

ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นการประสานขอให้มีการพูดคุยเพื่อเจรจาให้ปล่อยตัวแกนนำนปช.ว่า ข้อเท็จจริงเรื่องนี้คือนายอภิสิทธิ์เป็นฝ่ายมาขอพบกับนางธิดาที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ โดยส่ง นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาสอบถาม ในระหว่างที่นางธิดาหารือกับนายวีระ และนายวัฒนา เมืองสุข จึงไม่ใช่นางธิดา ไปขอนัดพบแน่นอน

นายจตุพร กล่าวว่า เรื่องนี้จะมาบอกว่าเป็นการเจรจาอย่างเป็นทางการไม่ได้ เพราะไม่มีใครจะไปเจรจาอย่างเป็นทางการในร้านกาแฟ

แต่ที่นางธิดายอมพูดคุยด้วยถือว่าเป็นมารยาทเพราะเป็นผู้ใหญ่กว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์มาขอคุยด้วยก็ต้องพูดด้วยแบบธรรมดา ไม่ใช่คุยเพราะยอมจำนนหรือต่อรองอะไร ส่วนนายอภิสิทธิ์จะมีจุดประสงค์อย่างไรตนไม่ทราบ แต่มองว่ารัฐบาลต้องการแสวงหาผลประโยชน์จากการเข้ามาพูดคุย โดยเฉพาะต้องการกลบประเด็นสำนวนผลการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีผู้เสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม ที่ระบุว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ 5 นาย ยิงปืนเอ็ม 16 ใส่ผู้ชุมนุม ซึ่งคำให้การของทหารระบุว่าเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นไม่มีคนอื่นบนรางรถไฟ อีกทั้งยังลงนามรับสารภาพมา ซึ่งถือว่าปิดสำนวนคดีได้แล้ว รวมทั้งผลสอบของดีเอสไอที่ระบุสาเหตุการเสียชีวิตของช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่ตัวแทนของรัฐบาลญี่ปุ่นถือสำนวนดังกล่าวเข้าพบพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. และผบ.ตร.ยอมรับว่าเป็นไปตามผลการสอบ ซึ่งทั้งหมดนี้ รัฐบาล

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ขอย้ำว่านางธิดาไม่ได้ไปดักรอพบอย่างที่วิจารณ์ แต่คนในรัฐบาลกลับนำมาขยายความต่อ

เริ่มตั้งแต่นายสุเทพที่ให้สัมภาษณ์ในลักษณะแบ่งแยกและทำลายว่าการที่นางธิดามาอยู่คุยกับวีระ จึงไม่รู้ว่าจะถูกใจพ.ต.ท.ทักษิณหรือตนหรือไม่ เพราะเป็น คนละสายกัน ส่วนนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่านางธิดาเป็นหุ่นเชิดของตน และให้เสื้อแดงไปคุยให้ตกผลึกก่อนจึงมาพูดคุยกับรัฐบาล เป็นการพูดที่เห็นแก่ได้ และเสี้ยมเขาแตกแยก เป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้ ยืนยันว่าตนกับนางธิดาได้คุยกันตกผลึก ดังนั้นรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ควรหยุดขยายผล ค้ากำไรให้ตัวเอง หยุดแบ่งแยกและทำลายคนอื่น ส่วนเนื้อหาของการพูดคุย ที่มีการระบุว่าทนายของคนเสื้อแดงขัดขวาง ไม่ให้ความร่วมมือในการยื่นประกันตัวแกนนำ ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง จึงถือว่าการมาพบของนายกฯ มาสร้างความซวยในหมู่คนเสื้อแดง

นายจตุพร กล่าวว่า การพิจารณาปล่อยตัวคนเสื้อแดงในเรือนจำ เป็นหน้าที่ของศาล รัฐบาลหรือนายอภิสิทธิ์ไม่ได้มีหน้าที่มาปล่อยตัว

และมาทวงบุญคุณกับคนเสื้อแดง แต่ถ้าจะทำตัวให้มีประโยชน์ คือนายอภิสิทธิ์ควรสั่งให้ดีเอสไอที่ทำสำนวนเท็จ กล่าวหาว่าคนเสื้อแดงฆ่ากันตายเอง และยื่นสำนวนให้อัยการส่งฟ้องศาล ซึ่งประทับตราตามสำนวนฟ้องของดีเอสไอ รัฐบาลควรไปทำตรงนั้นให้โปร่งใสเพื่อเป็นการไถ่บาป ไม่ใช่ให้พวกตนและคนที่อยู่ในเรือนจำไปกราบกรานเพื่อขอความเมตตาให้ปล่อยตัว เพราะชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่มีทางทำ ส่วนตนหากจะถูกขังก็ไม่วันค้อมหัวให้นายอภิสิทธิ์ และในเมื่อความจริงจากผลการสอบสวนปรากฏชัด ก็ควรจะปล่อยตัว ไม่ใช่ทวงบุญคุณในการปล่อยตัว

นายจตุพรกล่าวว่า ขณะที่การระบุว่าทนายคนเสื้อแดงไม่ให้ความร่วมมือนั้น ตนบอกได้ว่านายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และแกนเสื้อแดงที่อยู่ในเรือนจำยืนยันว่า

 หากจะเอาเสรีภาพของเขาไปแลกกับจุดยืนการต่อสู้ของคนเสื้อแดงนั้น ขอให้พวกเขาอยู่ในคุกยังดีเสียกว่า เพราะคนเสื้อแดงจะไม่ขอความเมตตาจากนายอภิสิทธิ์ รวมทั้งตนด้วยหากจะตายในเรือนจำก็จะไม่ร้องขอความเมตตาจากนายอภิสิทธิ์ ดังนั้น พี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงสบายใจได้ว่าไม่มีใครทรยศแน่นอน หากจะออกจากเรือนจำจะออกมาในฐานะผู้บริสุทธิ์ที่ถูกฟ้องเท็จ ไม่ใช่ขอความเมตตาของใคร แต่ถ้าใครจะไปขอความเมตตาก็ถือว่าคนนั้นเป็นคนเลวและใช้ไม่ได้ เพราะนายอภิสิทธิ์ถูกแจ้งความดำเนินการฐานใช้บงการฆ่า 91 ศพ ดังนั้นจะไปขอความเมตตาก็ผิดวิสัย และไม่ใช่อย่างที่วิพากษ์วิจารณ์

นายจตุพร กล่าวว่า ในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ เวลา 13.00 น. ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว

ตนจะแถลงข่าวเปิดเผยสำนวนผลการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่ามีทหารหน่วยใดบ้าง ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการสลาย การชุมนุม และการตายแต่ละศพของคนเสื้อแดงอย่างไร จากนั้นจะกำหนดว่าจะเดินทางไปยื่นเอกสารคำสั่งของนายสุเทพ ที่สั่งการให้ดีเอสไอสอบสวนข้อเท็จจริงกับทหารทุกคนที่เข้าไปเกี่ยว ข้องกับการเสียชีวิตของประชาชน ซึ่งดีเอสไอดำเนินการเสร็จเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ก่อนที่นาย สุเทพจะกลับมารับตำแหน่งรอบสองในวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเอกสารดังกล่าวชี้ให้เห็นชัดเจนถึงความไว้วางใจระหว่างทหารและรัฐบาล โดยที่ตนไม่จำเป็นต้องเสี้ยมให้แตกกันแต่อย่างใด แต่ถ้าจะบอกว่านายสุเทพไม่รู้เรื่อง ต้องถามว่าหากไม่สั่งการแล้ว ดีเอสไอจะกล้าสอบหรือไม่ เพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.จะได้รู้ว่าคนที่ตัวเองยกย่อง ปฏิบัติต่อทหารอย่างไร จะได้หูตาสว่างและพ้นจากความโง่เสียที

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์