สุเทพไม่รู้ศิริโชคพบวิคเตอร์ บูทในฐานะอะไร

"สุเทพ"ไม่รู้"ศิริโชค"พบ"วิคเตอร์ บูท"ในฐานะอะไร

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีที่ทางการสหรัฐอเมริกาส่งเครื่องบินมาจอดที่ ลานจอดเครื่องบิน กองบิน 6 กองทัพอากาศเพื่อรอรับตัวนายวิคเตอร์ บูท ผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามชาวรัสเชีย ว่า รัฐบาลไทยทำอะไรตรงไปตรงมาตามกระบวนการยุติธรรมทุกอย่างเมื่อมีการจับกุมก็มีการดำเนินคดีในศาล จนศาลได้มีคำวินิจฉัยออกมาซึ่งก็ต้องดำเนินการตามคำสั่งศาล แต่ก็ยังมีประเด็นของคดีอื่นๆที่ฝ่ายสหรัฐอเมริกาได้ร้องมาในภายหลังอีก ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนอยู่ว่าอัยการจะยื่นคำร้องต่อศาลแล้วจะมีการวินิจฉัยต่อหรือไม่อย่างไร ซึ่งเท่าที่ตนฟังฟังตามข่าวคือสหรัฐอเมริกาเอามาจอดไว้รอว่าเมื่อไรรัฐบาลไทยปล่อยตัวจะรับตัวไปทันที เพราะในคำสั่งศาลนั้นระบุว่าไทยจะต้องดำเนินการภายใน 90 วัน ทางสหรัฐอเมริกาจึงมารอ ซึ่งทางสหรัฐอเมริกาอาจจะเร่งรัด แต่ไทยนั้นต้องดำเนินการตามขั้นตอนก่อน


เมื่อถามถึงกรณีที่ นายศิริโชค  โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไปพบนายวิคเตอร์ บูท นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่สงสัยเรื่องนี้ เพราะไม่เคยรู้ว่านายศิริโชค ได้ไปพบนายวิคเตอร์ บูท ซึ่งเรื่องนี้ต้องสอบถามนายศิริโชค เพราะตนไปวิจารณ์ในสิ่งที่ไม่รู้ไม่ได้ เดี่ยวตนจะไปมีปัญหากับนายศิริโชคไม่ได้


"ผมแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ผมไม่ชัดเจนไม่ได้ ผมไม่ทราบว่าคุณศิริโชค ไปพบกับวิคเตอร์ บูท จริงหรือเปล่า ไปฐานะอะไร ไปทำไม แต่ถ้าถามผมว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องของคุณศิริโชคหรือไม่ ผมไม่เกี่ยว ผมรับผิดชอบงานความมั่นคง แต่คุณศิริโชค ไม่ได้ขึ้นกับสายงานผม และคุณศิริโชค ไม่ได้รับมอบหมายจากผม และผมก็เชื่อว่าไม่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล เพราะฉะนั้นผมไม่เชื่อว่านายศิริโชคจะไปพบตามข่าว" นายสุเทพ กล่าว

เมื่อถามว่า ทนายความของนายวิคเตอร์ บูท ยอมรับแล้วว่านายศิริโชค ได้พบกับนายวิคเตอร์ บูท จริง

ซึ่งจะทำให้ถูกมองว่าคดีนี้ถูกการเมืองแทรกแซง นายสุเทพ กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีการเมืองเข้าไปแทรกแน่นอน รัฐบาลไม่เสี่ยงเอาประเทศไทยไปเล่นการเมืองระหว่างประเทศแน่นอน และโดยนิสัยใจคอ นายอภิสิทธิ์ ซึ่งเรียนจบมาทางด้านกฎหมายก็รู้ดีว่ากฎเกณฑ์กติกาเป็นอย่างไรและไม่ใช่วิธีการแบบนี้ และไม่มีประโยชน์อะไรที่ประเทศไทยจะไปเล่นเกมการเมืองกับชะตากรรมของคนเพียงคนเดียว และเมื่อมีข้อกล่าวหาที่ตำรวจสากลแจ้งมาแล้วมีการจับกุม ไทยก็ดำเนินคดี ซึ่งทั้งสหรัฐอเมริกาและรัสเชียต่างก็มีความคิดเห็นกันคนละอย่าง  แน่นอนว่ามีความพยายามกดดันบ้าง แต่ไทยไม่ได้หวั่นไหวและได้ปฏิบัติตามกติกาและนำทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเมื่อศาลได้วินิจฉัยออกมาก็ต้องมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องธรรมดา แต่จะมาบอกว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยไม่ได้มาตรฐานไม่ได้ เพราะเรามีมาตรฐานในระดับสากล และยืนยันได้ว่าไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลจะเอามาทำเป็นเกมการเมืองเด็ดขาด

ย้ำใครจะบังคับไทยไม่ได้

"ส่วนกรณีของนายศิริโชคนั้นจะมีใครยืนยันหรือไม่ยืนยันนั้นผมไม่ทราบข้อเท็จจริง ไม่ได้เกี่ยวข้องจริงๆ และไม่ทราบว่าไปพบเมื่อไร ในฐานะอะไรและคุยกันเรื่องอะไร ผมไม่ทราบเลย และคุณศิริโชค ก็ทำอะไรหลายอย่างที่ผมไม่รู้เรื่อง เพราะผมไม่ได้มีความผูกพันอะไรกันนอกจากจะเป็น ส.ส.พรรคเดียวกัน " นายสุเทพ กล่าว


เมื่อถามว่าการที่ไทยรีบส่งตัวนายวิคเตอร์ บูท ให้สหรัฐอเมริกาจะทำให้เป็นอีกประเด็นที่ทำให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศหรือไม่

นายสุเทพ กล่าวว่า การบอกว่าเร่งรีบนั้นจะทำให้ประเทศไทยขาดทุน  แต่เราไม่ได้รีบร้อนทำอะไร และได้ทำตามกระบวนการ แม้จะเอาเครื่องบินมาจอด 5-10 ลำก็ไม่สามารถทำให้เราส่งตัวได้ภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้ เพราะเราจะทำตามกระบวนการ เมื่อศาลมีคำสั่งเสร็จก็จะเป็นเรื่องของอัยการที่จะดำเนินการต่อไป แต่ขณะนี้สหรัฐอเมริกานั้นยื่นข้อหาอื่นมาในภายหลังอีก อัยการจึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนว่าจะพิจารณายื่นคำฟ้องต่อหรือไม่ ศาลจะรับฟ้องหรือไม่และต้องใช้เวลาเท่าไร ซึ่งตนยืนยันได้ว่าเรามีอธิปไตยของเราโดยไม่อยู่ภายใต้อาณัติของใคร


เมื่อถามว่าบางกลุ่มวิจารณ์ว่าสหรัฐอเมริกาอาจจะใช้ไทยเป็นเครื่องมือในการสร้างความขัดแย้งกับรัสเชีย

นายสุเทพ กล่าวว่า คนก็วิจารณ์ได้ แต่เราต้องไม่หวั่นไหว เพราะเรื่องนี้ไม่มีใครมาบังคับเราได้ เพราะเราทำตามกฎหมาย และเราก็ทราบตั้งแต่ต้นแล้วว่าเรื่องมันจะเป็นปัญหาแน่นอน โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี นั้นทราบตั้งแต่แรก และได้ปรึกษากันแล้วโดยจะยึดหลักว่าเราจะดำเนินการตามขั้นตอนและกฎหมาย
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวมีการคืนอาวุธที่จับได้ที่สนามบินดอนเมืองให้กับเกาหลีเหนือทั้งหมดแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นคนละเรื่องกับกรณีนายวิคเตอร์ บูท แต่เรายังไม่ได้คืนอาวุธให้ใคร ซึ่งที่คืนไปนั้นเฉพาะตัวเครื่องบินที่มีกฎหมายให้คืนกับบริษัทเครื่องบินไปเมื่อบริษัทมาทำเรื่องขอให้คืน ส่วนอาวุธนั้นเก็บเอาไว้โดยมีการรายงานให้สหประชาชาติ (ยูเอ็น)ทราบแล้ว และเมื่อใดที่ยูเอ็นแจ้งให้ทำลายเราก็ทำลาย


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์