สถาบันเทิงจัดเคอร์ฟิวปาร์ตี้ฝ่าวิกฤติ

 

คมชัดลึก : ถึงแม้หลายฝ่ายจะให้ความร่วมมือกับภาครัฐเต็มที่ ในการประกาศใช้เคอร์ฟิวติดต่อกันมาเป็นครั้งที่ 3 แล้วก็ตาม ทว่าวิถีชีวิตคนกลางคืนที่ต้องดิ้นรนทำมาหาเลี้ยงชีพ ไม่อาจทนรอให้สถานการณ์คลี่คลายก่อนได้ พวกเขาจึงต้องปรับตัว เพื่อฝ่าวิกฤติทั้งของประเทศและของตัวเองต่อไปให้ได้


นานกว่าสัปดาห์แล้วที่รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวในเขตกรุงเทพฯ มาตรการจำกัดเวลานี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคนกลางคืนนับพันนับหมื่นชีวิต โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านค้าต่างก็อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น พวกเขาเลยหันมาพูดคุยหาทางออกร่วมกัน จนได้ข้อสรุปออกมาว่าน่าจะปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดเสียใหม่ให้สอดคล้องกับเคอร์ฟิว


"สมศักดิ์" ผู้ประกอบการสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านอาร์ซีเอ บอกว่า หลังวันที่ 19 พฤษภาคมเป็นต้นมา 3 วันแรกสถานบริการเต็มใจปิดให้บริการ ทำตามนโยบายรัฐบาลอย่างเคร่งครัด แต่เมื่อเลยเคอร์ฟิวช่วงแรกรัฐบาลประกาศซ้ำอีกครั้ง ทำให้ผู้ประกอบการต้องมานั่งคิดกันใหม่ เพราะนอกจากเราจะสูญเสียรายได้ขนานใหญ่แล้ว เรายังมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้พนักงานด้วย


รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวช่วงแรกตั้งแต่เวลา 20.00-06.00 น. ต่อมาได้ขยายเคอร์ฟิวต่อและลดเวลาเคอร์ฟิวป็น 22.00-05.00 น. สุดท้ายขยายเวลามาเป็นเที่ยงคืนจนถึง 04.00 น. เวลาที่เพิ่มขึ้นนี้เองที่เปิดช่องให้บรรดาสถานบริการได้หายใจหายคอได้โล่งขึ้นเล็กน้อย


"ผู้ประกอบการในย่านนี้ได้พูดคุยปรึกษาหารือกันตลอด ทุกคนเครียดกับเรื่องนี้มาก เราอยากให้บ้านเมืองสงบสุข แต่มาตรการนี้มันก็บีบรัดพวกเราเหมือนกัน คนกลางคืนมีอยู่มากมายได้รับผลกระทบหมด เราอยากจะขอความอะลุ้มอล่วยจากเจ้าหน้าที่ แต่ก็เข้าใจว่าคงไม่ได้ผล แล้วก็มาได้ข้อสรุปว่าต้องเปิดเร็วขึ้น ซึ่งก็ทำมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว"


สถานบันเทิงประเภทผับ-เธคหาทางออกด้วยการเปิดให้บริการเร็วขึ้น คือ ตั้งแต่ 6 โมงเย็นแล้วไปปิดอีกทีตอน 5 ทุ่ม พร้อมกับจัดโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้าด้วยการให้ส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งแต่ 50-70 เปอร์เซ็นต์ !?!


ไม่เฉพาะการเปิดปิดเร็วและเสนอโปรโมชั่นสูงสุดเท่านั้น ผู้ประกอบการส่วนหนึ่งยังโหมประชาสัมพันธ์ผ่านระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก รวมถึงบีบี เชิญชวนลูกค้าขาประจำกลับมาเที่ยวในช่วงเคอร์ฟิว โดยมีแรงจูงใจสุดๆ เช่น ร้านเหล้าแห่งหนึ่งย่านทองหล่อที่เป็นที่รู้จักในหมู่วัยรุ่นแจ้งว่า ช่วงนี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 5 ทุ่ม ลูกค้าที่เหล้าฝากหมดอายุสามารถนำบัตรฝากมาขอเหล้าได้ทันที


ส่วนร้านเหล้าย่านรัชดาซอย 4 หลายร้านเปิดให้บริการเร็วกว่านั้น
คือ ตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึง 5 ทุ่ม แถมส่วนลด 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนร้านเหล้าตามชานเมือง เช่น ถนนศรีนครินทร์ รังสิต เปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงเย็น 4 โมงเป็นต้นไปจนถึง 5 ทุ่ม และมีส่วนลด 50 เปอร์เซ็นต์ โดยวงดนตรีจะขึ้นเล่นตอน 1 ทุ่มและ 3 ทุ่ม


แม้จะโหมโปรโมทและจัดโปรโมชั่นสูงสุดชนิดในยามปกติไม่มีวันเกิดขึ้นก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถดึงลูกค้ากลับมาเที่ยวได้เหมือนยามบ้านเมืองปกติ ลูกค้ายังคงเข้ามาใช้บริการหลัง 2 ทุ่มเหมือนเดิม


"ถึงแม้เราจะเปิดร้านเร็วกว่าปกติ 3-4 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ได้ช่วยกระตุ้นยอดขายให้กระเตื้องขึ้น เรามีรายได้วันละ 40 เปอร์เซ็นต์ของเมื่อก่อนเท่านั้น ลูกค้าส่วนใหญ่จะเข้าร้านหลัง 2 ทุ่มไปแล้ว มีเวลาดื่มกินช่วงสั้นๆ แค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก" ผู้จัดการฝ่ายการตลาดร้านเหล้าย่านรัชดาซอย 4 เปรย


ผู้จัดการคนนี้อยากให้รัฐบาลประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวทันทีที่คิดว่าสถานการณ์เป็นปกติ เพื่อคนกลางคืนอีกมากจะได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

คนในวงจรนี้มีมากต่างก็ได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งหมด ตั้งแต่นักร้อง นักดนตรี พนักงาน หรือแม้แต่รถแท็กซี่ และร้านข้ามต้มรอบดึก หากวงจรนี้ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ คนกลุ่มนี้ก็ต้องเดือดร้อนไปต่อไม่ได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากสถานบันเทิงจะปรับตัวรับเคอร์ฟิวแล้ว บรรดาสถานบริการประเภทคอกเทลเลานจ์ย่านสุขุมวิท ก็เร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอดเช่นเดียวกัน มีเลานจ์ย่านนี้อย่างน้อย 7 แห่ง ที่แจ้งไปยังสมาชิกประจำ (Member) ว่าทางร้านได้จัด "เคอร์ฟิวปาร์ตี้" โดยให้ลูกค้าเข้าร้านก่อน 4 ทุ่มแล้วกลับออกมาอีกครั้งหลังตีห้า พ้นเวลาเคอร์ฟิวไปแล้ว แถมมีโปรโมชั่นพิเศษส่วนลด 70 เปอร์เซ็นต์สำหรับค่าดริ๊งท์


ส่วนลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการมีกฎอยู่เพียงข้อเดียว คือ "ห้ามนำรถยนต์ส่วนตัวมา" ให้ใช้บริการรถแท็กซี่เท่านั้น

เพราะหน้าร้านและลานจอดรถจะได้ไม่มีรถจอดให้ผิดสังเกต จากนั้นหลัง 4 ทุ่มไปแล้วจะปิดไฟหมดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยกเว้นภายในร้านจะยังคงดื่มกินเที่ยวได้ตามปกติ จากการสุ่มตรวจสอบพบว่ามีลูกค้าที่นิยมชมชอบโคโยตี้จำนวนหนึ่งเข้าไปใช้บริการ เพราะแม้ค่าดริ๊งท์จะลดลง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ระยะเวลารันดื่มถึง 7 ชั่วโมง บวกกับค่าเปิดเมมเบอร์ขั้นต่ำ 2 หมื่นบาท ก็อาจทำให้เสี่ยนักเที่ยวถึงกับกระเป๋าฉีกได้เหมือนกัน


เมื่อเพื่อนๆ ในธุรกิจบันเทิงต่างพากันปรับตัว พี่ใหญ่อย่าง "อาบ อบ นวด" ก็จำเป็นต้องปรับตัวตามไปด้วยเช่นกัน

โดยให้เด็กสาวเข้ามาทำงานเร็วขึ้นกว่าปกติ ตะวันบ่ายคล้อยเที่ยงมาเล็กน้อยก็พร้อมเปิดให้บริการ ส่วนกัปตันก็มีหน้าที่โทรศัพท์ตามลูกค้าประจำของตน คาเฟ่ในอาบ อบ นวด จากเดิมที่นักร้องจะขึ้นร้องเพลงตอน 2 ทุ่มเป็นต้นไป เขาและเธอเหล่านี้ก็ต้องขยับเวลาลงมา แค่ 6 โมงเย็นตะวันยังไม่ทันพ้นขอบฟ้า บรรยากาศในอาบ อบ นวดก็เต็มไปด้วยความคึกคักและกลิ่นหอมจรุงใจใครหลายคนจนเคลิบเคลิ้ม


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์