ศาลชี้ชะตา´3กกต.´วันนี้ ขอตำรวจรักษาความปลอดภัยเข้ม

กรุงเทพธุรกิจ

24 กรกฎาคม 2549 16:00 น.
ศาลอาญานัดชี้ชะตาพิพากษาความผิด "3กกต." ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เตรียมจัดห้องใหญ่รองรับคน 300 คนเข้าฟัง พร้อมขอกำลังตำรวจดูแลความปลอดภัย
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ผู้สื่อข่าวรายงาน จากศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ว่า ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ราชการ ที่นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร กกต. ร่วมกันเป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 และกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2541 มาตรา 24 และ มาตรา 42

สืบเนื่องจากกรณี ที่ กกต.ได้ร่วมกันจัดการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตรอบใหม่เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 49 โดยไม่มีอำนาจ และออกหนังสือเวียนถึง ผอ.กต.เขตเลือกตั้งให้รับผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งไม่ถึงร้อยละ 20 เปลี่ยนเขตลงสมัครในรอบใหม่ อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้สมัครรายเดิมเวียนเทียนลงรับสมัครเลือกตั้งรอบใหม่เพื่อช่วยให้ให้ผู้สมัครรายเดียวพรรคไทยรักไทย หลีกเลี่ยงเกณฑ์ได้รับคะแนนเสียงไม่ถึงร้อยละ 20

โดยศาลอาญาได้จัดเตรียมห้องพิจารณาคดี 704 เป็นห้องใหญ่สุดขนาด 300 ที่นั่ง ไว้รองรับประชาชนและสื่อมวลชนที่จะติดตามมาฟังคำพิพากษาในวันพรุ่งนี้(25ก.ค.) เวลา 10.00 น. ขณะเดียวกันศาลได้ประสานกับ สน.พหลโยธิน และกองปราบปราม ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความปลอดภัยและดูแลความสงบเรียบร้อยภายในบริเวณศาลด้วย

สำหรับคดีนี้ นายถาวร ฟ้องต่อศาล เมื่อวันที่ 18 เม.ย.49 กกต.ทั้ง 4 คน รวมสำนักงาน กตต. และเลขาธิการ กกต. ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1- 6 แต่ภายหลังที่ศาลไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้ว มีคำสั่งให้รับฟ้องเฉพาะ พล.ต.อ.วาสนา , นายปริญญา ,นายวีระชัย, พล.อ.จารุภัทร จำเลยที่ 2 -5 เท่านั้น และให้ยกฟ้องสำนักงาน กกต. และพล.ต.ต.เอกชัย เลขาธิการ กกต.

ต่อมา นายถาวร ได้ขออนุญาตถอนฟ้อง พล.อ.จารุภัทร เนื่องจากเจ้าตัวได้สละตำแหน่งเพราะสำนึกความผิดพลาด ซึ่งศาลอนุญาต

อย่างไรก็ตาม ศาลได้ให้ความสำคัญการพิจารณาคดีนี้โดยจัดให้นายชาญณรงค์ ปราณีจิตต์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เป็นผู้ควบคุมกระบวนพิจารณา และมีนายกมล คำเพ็ญ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลอาญา เป็นเจ้าของสำนวน

โดยมีนายบันดาล ดังขุนทด ผู้พิพากษาศาลอาญา เป็นองค์คณะ ซึ่งคดีนี้ศาลเร่งสืบพยานด้วยความรวดเร็วในระบบพิจารณาคดีต่อเนื่อง เริ่มสืบพยานครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ก.ค.โดยโจทก์นำสืบพยานรวม 6 ปาก ใช้เวลาทั้งสิ้น 4 นัด ส่วนจำเลยนำพยานเข้าสืบหักล้าง 3 ปากใช้เวลา 2 นัดโดย พล.ต.อ.วาสนา , นายปริญญา และนายวีระชัย ขึ้นเบิกความด้วยตัวเอง ซึ่งศาลสืบพยานจำเลยเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 5 ก.ค.

อย่างไรก็ตาม ในการสืบพยาน นอกจากพยานบุคคลแล้วโจทก์- จำเลย ยังนำสืบพยานเอกสารร่วมกันจำนวน 60 ฉบับ ซึ่งประกอบด้วยมติที่ประชุม กกต. ระเบียบประกาศการเลือกตั้ง และ จดหมายเวียนการรับ สมัคร สส. รอบใหม่

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์