"ทักษิณ" ให้สัมภาษณ์นิตยสาร "ซีอีโอ ตะวันออกกลาง" ประจำเดือนธันวาคม โดยยอมรับกำลังถูกต้อนเข้ามุม บ้านแตกสาแหรกขาดแถมถูกประเทศอังกฤษยึดทรัพย์ 1.4 แสนล้านบาท " ... เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่เสียใจกับสิ่งที่ผมได้ทำลงไป ..."
เว็บไซต์ผู้จัดการดอทซีโอดอททีเอช รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร "ซีอีโอ ตะวันออกกลาง" (CEO Middle East) ฉบับที่ 12 ประจำเดือนธันวาคม 2551 ปกหนังสือพาดหัวระบุว่า "ผู้ลี้ภัย - ทักษิณ ชินวัตร ทรรศนะเกี่ยวกับคน อำนาจ และความยากจน" โดยมี Anil Bhoyrul เป็นผู้สัมภาษณ์พิเศษ โดย พ.ต.ท.ทักษิณได้ย้อนถึงชะตากรรมในช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมา พร้อมยอมรับด้วยว่า ประเทศอังกฤษได้อายัดทรัพย์สินของตนมูลค่ากว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 140,000 ล้านบาท) เอาไว้ และระบุว่าตอนนี้ตนถูกต้อนเข้ามุม
"ขณะนี้ประเทศกำลังตกต่ำลงอย่างมาก ผู้คนไร้ความเชื่อมั่นในประเทศไทย ถ้าผมมีโอกาสกุมหางเสือของประเทศ ผมสามารถเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนให้ไทยได้อย่างรวดเร็ว เราต้องหาหนทางที่จะให้ผมกลับประเทศให้ได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงบอกกับคุณว่า ผมจะกลับสู่แวดวงการเมือง"พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
เมื่อถามว่า แล้วจะมีโอกาสกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า
"การรัฐประหารยังคงอยู่ การรัฐประหารถูกเปลี่ยนรูปจากการรัฐประหารโดยกองทัพ เป็นการรัฐประหารโดยตุลาการ ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับประชาชน ถ้าพวกเขารู้สึกว่ากำลังตกอยู่ในภาวะลำบาก และพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมก็จะกลับไป ถ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรู้สึกว่า ผมเป็นประโยชน์ ผมก็จะกลับไป โดยพระองค์ทรงอาจจะพระราชทานอภัยโทษให้ผม แต่ถ้าพวกเขาไม่ต้องการผม และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่า ผมไม่สามารถสร้างความแตกต่างอะไรได้ ผมก็จะอยู่ที่นี่และทำธุรกิจไป ใช้ชีวิตของผมกับเพื่อนๆ"
ตอนท้ายของรายงาน พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันว่า "คุณเห็นไหม ผมรักคนไทย แต่มันก็เกือบทำให้ผมต้องแลกด้วยชีวิต เพราะผมโดนลอบฆ่าหลายครั้ง ครอบครัวผมก็บ้านแตกสาแหรกขาด เราต้องใช้ชีวิตอยู่กันคนละประเทศ ผมไม่สามารถใช้ชีวิตในประเทศตนเองได้ ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่เสียใจกับสิ่งที่ผมได้ทำลงไป"
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
