รบ.มาร์คกรุย 4 ทางหนีม็อบล้อมสภาวันแถลงนโยบาย 3 เกลอเตรียมแฉ ที่มาเงิน 300 ล้านหนุนพันธมิตรฯ


รบ.เตรียม4ทางหนีม็อบล้อมสภาวันแถลงนโยบาย ยันไม่ย้ายสถานที่แค่เลื่อนประชุม "มาร์ค"เชื่อไม่รุนแรง ให้นำเหตุการณ์ 7 ต.ค.เป็นบทเรียน เลี่ยงตอบ"เนวิน"คุมสถานการณ์ได้ ผู้จัดความจริงฯโวยถูกสกัด เสื้อแดงปลอมระบาดขู่แฉที่มาเงิน300ล้านหนุนพันธมิตร "เพื่อไทย"ขอเพิ่มอภิปรายเป็น 18 ชม. ฝ่ายรัฐบาลขอลดเหลือ 5 ชม. "สุเทพ"เจอไล่ที่อุบลฯ

เตรียม3ทางรับมือ"คนเสื้อแดง"
 
วิปรัฐบาล หรือคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ 3-4 รูปแบบ หากกลุ่มม็อบเสื้อแดงปิดล้อมรัฐสภา ไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบาย โดยจะมีการประชุมประเมินสถานการณ์ในเช้าวันที่ 29 ธันวาคมอีกครั้ง ทั้งนี้ นายธนิตพล ไชยนันทน์ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขาธิการวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ว่าขณะนี้ได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ 3-4 รูปแบบ หากเกิดม็อบเสื้อแดงปิดล้อมรัฐสภา ตั้งแต่คืนวันที่ 28 ธันวาคม เพื่อไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบายในวันที่ 29-30 ธันวาคม แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ แต่เชื่อว่าในวันดังกล่าวจะไม่มีเหตุรุนแรง
 
"การที่ฝ่ายค้านจะให้ร.ต.อ.เฉลิม (อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย) เป็นหัวหน้าทีมอภิปราย พรรคก็ไม่กลัว แต่เห็นว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะเป็นรัฐบาลนานเกินไป จึงไม่รู้วิธีทำงานแบบตรวจสอบ เป็นฝ่ายค้านมือใหม่ ที่อาจต้องยกเครื่องกระบวนการทำงานทั้งหมด"นายธนิตพล กล่าว

"มาร์ค"ให้ตร.ยึด7ต.ค.เป็นบทเรียน
 
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปพบกับชมรมคนรักอุดร หลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศปิดล้อมสภาในวันแถลงนโยบายว่า ไม่กังวล เพราะรัฐบาลจะเข้าไปทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า แต่ใครอยากแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิ ซึ่งเท่าที่ดูก็ยังเรียบร้อยดี ไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่ามีนัยยะอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็คงมีความคิดของท่าน แต่รัฐบาลยึดประโยชน์ส่วนรวม
 
เมื่อถามว่ากลุ่มเพื่อนเนวินจะสามารถคุมสถานการณ์ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการก้าวพ้นความขัดแย้ง ซึ่งรัฐบาลก็จะดูแลคนทุกภาค เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยประคับประคอง โดยได้ให้นโยบายกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมหน้าสภาแล้วว่า ให้เก็บเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาเป็นบทเรียน เจ้าหน้าที่จะต้องระมัดระวังในการจัดการชุมนุมให้ได้มาตรฐานสากล
 
"แนวทางทำความเข้าใจกับกลุ่มต่างๆ ขอให้ใช้หลัก 3 ประการคือ 1.เรื่องความยุติธรรมในคดีต่างๆ 2.การปฏิรูปการเมือง และ 3. รัฐบาลต้องทำงานให้กับคนทุกภาค ส่วนเรื่องคดีความของกลุ่มการเมืองต่างๆ นั้น จะปล่อยให้ตำรวจดำเนินการไปตามกระบวนการ"นายอภิสิทธิ์กล่าว

"สุเทพ"ไม่ห่วงลั่นมีแต่ใจใช้ต่อสู้
 
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า การที่นายสมชาย เดินทางไปพบกับนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนรักอุดร เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา น่าจะมีนัยยะทางการเมือง พร้อมระบุว่า สายข่าวรายงานให้ทราบว่า น่าจะมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น ในช่วงระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาล  แต่ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด ไม่ต้องเตรียมรับมือเป็นพิเศษ มีแต่หัวใจที่ใช้ต่อสู้
 
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้บอกให้ตำรวจไม่ใช่ความรุนแรง แต่ถ้าเกิดเหตุอย่างวันเลือกนายกฯ ก็จะดำเนินการเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการย้ายสถานที่ อาจจะแค่เลื่อนเวลาเท่านั้น
 
"ฟังจากแกนนำ นปช.(แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ) ก็บอกว่าจะไม่ปิดไม่ให้มีการประชุม และขณะนี้สถานการณ์เบาลงแล้ว ประชาชนอยากเห็นรัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ หาก นปช.ทำให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ สังคมก็อาจรับไม่ได้ ยืนยันว่าการที่พูดเช่นนี้ไม่ใช่การเรียกแขก" นายสาทิตย์ กล่าว
 
พล.ต.ท. สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล( ผบช.น.) กล่าวว่า จากการประเมินด้านการข่าว เชื่อว่าไม่น่าจะมีผู้ชุมุมมาร่วมมาก เนื่องจากกลุ่มคนรักอุดรได้ประกาศว่าจะไม่มาเข้าร่วม แต่ตำรวจจะมีการประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน เพื่อวางมาตรการในการรักษาความสงบเรียบร้อยอีกครั้ง

"สุริยะใส"ชี้เหตุม็อบเสื้อแดงน้อย

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการชุมนุมของ นปช.ในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล ว่าน่าจะมีคนเข้าร่วมน้อยกว่าทุกครั้ง เพราะขณะนี้ขบวนมวลชนเสื้อแดงเริ่มมีปัญหาทั้งการนำและมวลชนพื้นฐาน เพราะแกนนำเริ่มไม่เป็นเอกภาพ เนื่องจากช่วงระยะหลังๆ ผูกขาดอยู่กับพิธีกรรายการ "ความจริงวันนี้" ทำให้บทบาทของแกนนำคนอื่นหดหายไป ไม่ว่าจะเป็น นพ.เหวง โตจิราการ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นพ.สันต์ หัตถีรัตน์  และอีกหลายคนเริ่มไม่มีบทบาท ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะแกนนำบางกลุ่มไม่ต้องการเอาขบวนการเสื้อแดงไปขึ้นต่อการบัญชาการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มากเกินไป เพราะยิ่งเคลื่อนยิ่งทำให้เกิดแรงต้านจากสังคมว่าเคลื่อนไหวเพื่อคนๆ เดียว ไม่ได้เคลื่อนไหวเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ทำให้แกนนำบางส่วนเริ่มหายหน้าไปจากเวทีจนกระทั่งไม่เข้าร่วมเคลื่อนไหว
 
"มวลชนพื้นฐานเดิมกำลังสำคัญของคนเสื้อแดงมาจากการจัดตั้งของ ส.ส.ในขุมข่ายของนายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งมี ส.ส.และอดีต ส.ส.หลายคนเป็นแกนนำ แต่พอเปลี่ยนขั้วการเมือง คนกลุ่มนี้ก็เป็นแนวร่วมมุมกลับ เกิดแรงต้านภายในของเครือข่ายคนเสื้อแดงไปโดยปริยาย จึงเป็นเรื่องยากที่จะระดมมวลชนได้มากเหมือนที่ผ่านๆ มา"นายสุริยะใส กล่าว และว่า  เมื่อมวลชนมาน้อยจึงอาจจะเลือกใช้วิธีกดดันรุนแรงเหมือนกับช่วงเปิดสภาโหวตเลือกนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระวังโดยเฉพาะพวกฮาร์ดคอที่เคยปฏิบัติการหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์

"จตุพร"โวยถูกสกัด-เสื้อแดงปลอม
 
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำผู้จัดรายการความจริงวันนี้ แถลงที่พรรคเพื่อไทย อาคารบีบีดี บิวดิ้ง ถึงการเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่วันที่ 28 ธันวาคมว่า ขณะนี้กำลังมีความพยายามจากรัฐบาลที่จะใช้กลไกรัฐ เหมือนกับที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)เคยใช้ มาทำลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 28 ธันวาคม ซึ่งไม่เพียงแค่ธนบัตรชนิด 1,000 บาทปลอมระบาดเท่านั้น เพราะขณะนี้กำลังมีเสื้อแดงปลอมระบาดด้วย โดยการออกมาพูดจาว่าจะไม่มีร่วมชุมนุม ทั้งที่ความจริงแล้วคนเหล่านี้ก็ไม่เคยมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีการตั้งด่านสกัด แต่ก็ต้องบอกไปยังรัฐมนตรีกระจงหลงทางว่า การทำอย่างนี้จะยิ่งทำให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมมากขึ้น
 
"การชุมนุมใหญ่วันที่ 28-30 ธันวาคมของคนเสื้อแดงนั้นจะเป็นนรกของรัฐบาลอย่างแท้จริง หากจะใช้กำลังปราบปรามหรือใช้ความรุนแรงก็เชิญ และะในวันนั้นจะมีการเปิดเผยเอกสารเพิ่มเติมจากกรณีที่นายสุนัย จุลพงศกร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เคยแฉกลางสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วว่า มีการโอนเงินจากบริษัทแห่งหนึ่ง ไปยังบริษัทรับทำโฆษณาประชาสัมพันธ์แห่งหนึ่ง 200-300 ล้านบาท แล้วมีการกระจายไปยังกลุ่มพันธมิตร และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งหากส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เห็นหลักฐานแล้วจะตกใจและพูดไม่ออกเลยทีเดียว"นายจตุพร กล่าว และว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตโฆษกรัฐบาล จะเป็นเจ้าภาพในการฉายภาพเอกสารเหล่านี้

จี้"บุญจง"ไขปริศนา"ดิ่ง"เป็นใคร   
 
นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงกรณีบุคคลชื่อ"ดิ่ง"ได้โทรศัพท์หาแกนนำมวลชนคนเสื้อแดงแล้วพาไปเก็บตัวที่ จ.พระนครศรีอยุธยา  เพื่อไม่ให้มาร่วมชุมนุมกับรายการความจริงวันนี้ว่า บุคคลคนนี้เป็นใครนั้น คงต้องไปถามนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กำลังตรวจสอบทุกพื้นที่อยู่ ซึ่งไม่ทราบว่านายบุญจง จะรู้จักคนๆ นี้หรือไม่ แต่หากย้อนกลับไปดูข้อมูลเก่า พบว่ามีการขนคนไปปิดอาคารสำนักพิมพ์เนชั่น ก็เชื่อว่าจะมีความสัมพันธ์กับคนๆ นี้
 
แหล่งข่าว กล่าวว่า นายดิ่ง ถือว่าเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และมีความใกล้ชิดกับนายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. มีสมาชิกกลุ่ม นปช.ประมาณ 50 คน ได้เตรียมนำอุปกรณ์มาตั้งเวทีที่บริเวณทางเดินเท้าฝั่งตรงข้ามรัฐสภา และนำแผงเหล็กมาเตรียมพร้อมไว้บริเวณด้านถนนอู่ทองใน เพื่อที่จะใช้ปิดถนนในแถลงนโยบายรัฐบาลวันที่ 29 ธันวาคม

"ดิ่ง"เปิดตัวบอกเลิกยุ่งการเมืองแล้ว
 
ขณะที่นายสำเริง อดิษะ หรือ"ดิ่ง อยุธยา" นายกสมาคมรถตู้โดยสารต่างจังหวัดแห่งประเทศไทย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิงกับข้อกล่าวหาของนายจตุพร ถือว่านายจตุพร เอาเรื่องเท็จมาพูด ยืนยันว่าไม่มีความคุ้นเคยเป็นการส่วนตัวกับนักการเมืองคนใด ส่วนที่ถูกพาดพิงอาจเป็นเพราะเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ในฐานะนายกสมาคมฯได้จับมือกับชมรมศาลาแท็กซี่มิเตอร์ บขส.หมอชิต 2  และชมรมผู้ขับรถสามล้อกรุงเทพมหานคร สมาคมผู้ขับขี่แท็กซี่สามล้อกรุงเทพมหานคร และกลุ่มผู้ขับขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง เปิดแถลงข่าวประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันว่า ไม่มีแนวคิดที่จะเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงนี้  เพราะบ้านเมืองกำลังมีปัญหาเศรษฐกิจ ถ้าหากเคลื่อนไหวยิ่งจะทำให้สร้างความเสียหายกับประเทศ จึงขอประกาศหยุดการเคลื่อนไหว จุดนี้เองจึงเป็นชนวนให้ นปช.ไม่พอใจได้
 
"บ้านเมืองวุ่นวาย 2-3 ปีที่ผ่านมา มีหลายกลุ่มพยายามติดต่อประสานผม เพื่อให้จัดม็อบไปร่วมชุมนุม แต่ปฎิเสธไป  เพราะตั้งใจไว้แน่วแน่แล้วว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองทั้งสิ้น จะทำมาหากินโดยสุจริตเพียงอย่างเดียว เพราะคนขับรถทุกประเภทที่อยู่ในสมาชิกของผมหาเช้ากินค่ำ จึงขอตั้งหน้าตั้งตาทำกินอย่างเดียว"นายสำเริงกล่าว และว่า ก่อนหน้านี้เคยถูกมองว่าเป็นมาเฟีย  เพราะสนิทสนมกับนักการเมืองบางคน แต่หลังจากมีปัญหาการเมืองและการรัฐประหารก็เลิกหมดทุกอย่าง

กลุ่มแท็กซี่ปัดปิดล้อมรัฐสภา
 
นายชินวัตร หาบุญพาด นายกสมาคมพิทักษ์สิทธิประโยชน์ผู้ขับรถแท็กซี่ ชี้แจงกรณีที่นายไทกร พลสุวรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหากลุ่มคนขับแท็กซี่จะนำรถมาปิดล้อมที่รัฐสภาว่า ไม่เป็นความจริง เพียงแค่จะนำกลุ่มคนรถแท็กซี่ไปร่วมชุมนุมเท่านั้น ไม่ได้ไปปิดล้อมรัฐสภา เพราะต้องการให้นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชนและต้องการให้มีการเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากที่มาของนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นการฉวยโอกาสและไม่ชอบธรรม
 
"หากมีการเลือกตั้งใหม่และประชาชนเลือก พรรคประชาธิปัตย์กลับเข้ามาเป็นรัฐบาล ก็จะยอมรับในกติกา เพราะเป็นการเลือกตั้งโดยประชาชน ในการชุมนุมในครั้งนี้ จะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และจะนำผู้ชุมนุมมาเป็นหมื่นคน"นายชินวัตร กล่าว

"เชียงใหม่-สระบุรี"เข้ากรุงแน่
 
ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในต่างจังหวัด ที่ จ.ยโสธร กลุ่มพังพอนยโสธร ที่มีนายสนอง สมปัญญา และนายวิรัช ทองบ่อ เป็นแกนนำ ได้แจ้งบนเวทีปราศรัยว่าไ ด้จัดเตรียมรถตู้ 1 คัน เพื่อนำมวลชนเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯในวันที่ 28 ธันวาคม โดยจะออกเดินทางวันที่ 27 ธันวาคม
 
ที่ จ.เชียงใหม่ นางกัญญาภัค มณีจักร แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้จัดสถานที่ลงทะเบียนแสดงความต้องการที่จะเดินทางมาร่วมชุมนุม ที่ กทม. โดยแกนนำกลุ่มตั้งเป้าไว้ที่ 500 คน ขณะนี้มีคนมาลงทะเบียนไว้แล้ว 70 คน และมีการเตรียมรถโดยสารปรับอากาศไว้แล้ว 10 คัน โดยจะเดินทางในวันที่ 27 ธันวาคมนี้

อภิปรายเน้นจริยธรรมนายกฯ
 
นายวิทยา บูรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา แกนนำพรรคเพื่อไทย แถลงถึงอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาล ว่าจะหน้าที่เป็นผู้ประสานงานในการจัดสรรผู้อภิปรายและเวลาในการอภิปราย โดยร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน แกนนำพรรคเพื่อไทย จะเป็นหัวหน้าทีมในการอภิปราย ได้รับการอนุญาตจากพรรคให้ใช้เวลาได้นานที่สุด ในการประชุมเพื่อเตรียมการอภิปราย มีนายสมเกียรติ ศรลัมย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน มาเป็นตัวแทนพรรคเพื่อแผ่นดิน และแจ้งว่าพรรคเพื่อแผ่นดินมีตัวแทน ส.ส.ทั้งหมด 9 คนร่วมอภิปรายด้วย อาทิ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรค นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.สัดส่วน นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา และนายนัจมุดดีน อูมาร์ ส.ส.นราธิวาส โดยพรรคเพื่อแผ่นดินจะได้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีพรรคประชาราช และ 2 ส.ส.จากพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ร่วมอภิปรายด้วย
 
"ประเด็นในการอภิปราย พรรคเพื่อไทยจะเน้นหนักไปที่จริยธรรมทางการเมือง โดยเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี เพราะการได้มาซึ่งอำนาจรัฐของพรรคประชาธิปัตย์มีความผิดปกติ  และการวางตัวบุคคลที่เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรี โดยในส่วนของนโยบายรัฐบาลได้พิจารณาแล้วพบว่าหลายส่วนยังไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะการกู้วิกฤติเศรษฐกิจ จากการได้รับผลกระทบจากภัยการก่อการร้ายยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า รัฐบาลจะดำเนินการเช่นไร"นายวิทยา กล่าว

ฝ่ายค้านขอเพิ่มเวลาจ้อเป็น18ชม.
 
นายจตุพร  พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน สมาชิกพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำการอภิปรายนโยบายรัฐบาล กล่าวว่า ขณะนี้นายวิทยา กำลังดำเนินการประสานเจรจาต่อรองให้มีการขยายระยะเวลาการอภิปรายของรัฐบาลออกไปอีกจากเดิม 6 ชั่วโมง เป็น 18 ชั่วโมง
 
"ผมจะอภิปรายเรื่องคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีที่ไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร นายกษิต  ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม"นายจตุพร กล่าว
 
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้มี ส.ส.หลายคน อาทิ นางนันทนา ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย แจ้งว่าจะไม่เข้าประชุมสภา เพื่อแถลงนโยบายรัฐบาล เพราะรับไม่ได้กับรัฐบาลที่ได้มาจากการปล้นประชาธิปไตย จึงไม่ต้องการรับฟังนโยบายรัฐบาลให้ระคายเคืองรูหู

รัฐบาลใจกว้างลดเหลือ5ชั่วโมง
 
นายธนิตพล ไชยนันท์ เลขาธิกาธิการวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปรัฐบาลได้ตัดสินใจลดเวลาการอภิปรายของฝ่ายรัฐบาลเหลือเพียง 5 ชั่วโมง เพื่อให้เวลาฝ่ายค้านได้อภิปรายมากขึ้น ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์จะถือว่า ส.ส.ที่มาจากทุกพรรค ยกเว้นพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาราชเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหมด แม้ส.ส.คนนั้นจะไม่ได้โหวตให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม
 
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันที่ 28 ธันวาคม เวลา 10.00 น. จะมีการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งที่ประชุมจะพิจารณากรอบเวลาในการอภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยให้ส.ส.ที่มีความสนใจในกระทรวงใดก็ให้อภิปรายกระทรวงนั้น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเปิดให้ผู้ที่สนใจทำงานในวิปร่วมรัฐบาลด้วย ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะยึดตามบุคคลเดิมที่เคยอยู่ในวิปฝ่ายค้าน แต่ถ้าคนใดไม่มีผลงานก็อาจจะต้องพิจารณาคนใหม่ขึ้นมาเป็นแทน

เสื้อแดงอุบลฯชุมนุมไล่"สุเทพ"
 
กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 50-60 คน นำโดยนายธีระภัทร วัชรพล หรือ ดีเจต้อย แกนนำกลุ่มชักธงรบ รวมตัวกันที่หน้าโรงแรมลายทอง อ.เมืองอุบลราชธานี เมื่อเวลา 14.15 น.วันที่ 26 ธันวาคม เพื่อขับไล่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมาทำภารกิจที่ อ.พิบูลมังสาหาร และแวะมารับประทานอาหารเที่ยงที่โรงแรมดังกล่าว ซึ่งหน่วยรักษาความปลอดภัยของนายสุเทพ ได้นำนายสุเทพ ออกไปทางด้านหลังโรงแรม โดยนำรถยนต์ตู้สีขาว พร้อมรถยนต์โตโยต้า รุ่นสปอตไรเดอร์สีเขียว มารับนายสุเทพ ออกไปจากโรงแรม ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงพยายามวิ่งไล่ตามแต่ไม่ทัน จากนั้นจึงมารวมตัวที่หน้าโรงแรม ตะโกนด่าทอนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งมาคอยรักษาความสงบเรียบร้อย
 
ต่อมา นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และพล.ต.ต.สมพิศ ชนะมี ผบก.ภ.อุบลราชธานี ได้มาเจรจาขอร้องไม่ให้สร้างความวุ่นวาย สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน แต่ก็พากันสลายตัวไป พร้อมขู่ว่าจะเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวนายสุเทพ และรัฐมนตรีต่อไป

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์