จตุพร ค้านดีเบตตั้งสังฆราช ชี้รัฐหวังถ่วงตั้งสมเด็จช่วง

จตุพร ค้านดีเบตตั้งสังฆราช ชี้รัฐหวังถ่วงตั้งสมเด็จช่วง

จตุพร ค้านดีเบตตั้งสังฆราช ชี้รัฐหวังถ่วงตั้งสมเด็จช่วง

ประธาน นปช. ค้านดีเบตตั้งสังฆราช ชี้ไม่มีความขัดแย้งของพระ แต่เป็นเหตุไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคณะสงฆ์ ระบุนายกฯเสนอดีเบตมุ่งชักใบให้เรือเสีย เบี่ยงแบน และถ่วงรั้งการตั้งสมเด็จช่วง วัดปากน้ำ แนะ "ประยุทธ์" ควรจัดดีเบต รธน. จะสอดคล้องกับประชาชนมากกว่า

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกล เมื่อ 18 ก.พ.ว่า

 การแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่นั้น ไม่ได้เป็นปัญหาความขัดแย้งกันของพระสงฆ์ แต่เป็นกรณีไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี 2535 จึงไม่สมควรให้พระสงฆ์มาแสดงความเห็นต่อสาธารณะ หรือ ดีเบต กัน เพราะเป็นการชักใบให้เรือเสีย อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เสนอให้ดีเบตระหว่างพระสงฆ์ฝ่ายต่อต้านและสนับสนุนการแต่งตั้งสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นสมเด็จพระสังฆราช เพื่อจะได้ยุติความขัดแย้ง อันจะส่งผลให้นายกรัฐมนตรีนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯสถาปนา โดยไม่ระคายเคืองระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

นายจตุพร กล่าวว่า พุทธอิสระเป็นฝ่ายขัดขวางการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช และเป็นพระอาจารย์ของพล.อ.ประยุทธ์ การเสนอให้ดีเบตกับพระเมธีธรรมาจารย์ จึงไม่สมควร เพราะพระกว่า 3 แสนรูป ทั่วประเทศไม่ได้ขัดแย้งกัน แต่มีเพียงพุทธอิสระรูปเดียวเท่านั้น ที่ต่อต้านขัดขวาง และที่สำคัญการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่เป็นเรื่องต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ซึ่งมหาเถรสมาคม (มส.) ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและการปกครองของพระสงฆ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีหน้าที่นำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯเท่านั้น

"รัฐบาลเสนอดีเบตคงต้องการเบี่ยงแบนเท่านั้น แต่ทำไมรัฐธรรมนูญจึงไม่ให้ดีเบตทั้งที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความต้องการของประชาชน ส่วนเรื่อง พ.ร.บ. คณะสงฆ์นั้น จบไปแล้ว กลับจะให้ดีเบต พระสงฆ์ไม่ควรไปยุ่งด้วยกับการดีเบต และปัญหานี้ก็ไม่ใช่เรื่องของเจ้าคุณเมธีธรรมาจารย์ แต่ถ้าเป็นการดีเบตระหว่างมหาเถรสมาคม กับพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นการสมควรกว่า ซึ่งการเสนอให้ดีเบตเป็นการชักใยให้เรือเสีย ดังนั้น ถ้าจะดีเบตควรเป็นเรื่องรัฐธรรมนูญจะดีกว่า แล้วจะกล้าหรือไม่ ให้ฝ่ายรับกับฝ่ายไม่รับมาดีเบตกัน"

นายจตุพร กล่าวว่า การแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่อาจไม่มีทางเกิดขึ้น

 เพราะมีการถ่วงไว้จนกว่าสิ้นอายุขัยของสมเด็จช่วง วัดปากน้ำ สิ่งนี้จึงสะท้อนถึงแนวโน้มว่าประเทศจะตั้งสังฆราชไม่ได้ ส่วนพุทธอิสระได้แจ้งความดำเนินคดีกับพระเมธีธรรมาจารย์ว่า ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามชุมนุมเกิน 5 คน นั้น แต่พระไปพุทธมณฑลซึ่งเป็นสถานที่ของพระสงฆ์กลับถูกกล่าวหา และตำรวจยังกล้ารับแจ้งความ แล้วออกหมายเรียกพระเมธีธรรมาจารย์อีกด้วย

สังคมไทยมาถึงยุคดัดจริตกันมาก ราวกับเล่นละครในบทดาวพระศุกร์ เมื่อพุทธอิสระพาประชาชนไปชุมนุมหน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกา

 และยังประกาศต่อต้านสหรัฐอเมริกา กลับไม่เป็นปัญหากับการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน และยังกล้าไปแจ้งความเล่นงานคนอื่น รวมทั้งทหารเอาลวดหนามไปล้อมทางเข้าพุทธมณฑล ไม่ให้พระสงฆ์ และรถอาหารเข้า สังคมไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เอารูปทหารถูกล็อกคอมาหาเรื่อง โดยไม่รู้ว่า ใครทำใครก่อน ถึงอย่างไรการกระทบกันระหว่างทหารกับพระนั้น ยังเทียบกันไม่ได้กับพุทธอิสระบุกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ยึดหน่วยงานรัฐ และปิดถนนชุมนุม

นายจตุพร กล่าวว่า สังคมไทยขณะนี้ ทำเหมือนพุทธอิสระถูกหมด ทำอะไรไม่ถูกจับ 

แต่พระสงฆ์ 3 แสนรูปผิด พระเมธีธรรมาจารย์ถูกหมายเรียก ดังนั้น จึงแสดงได้ชัดว่า เป็นการเลือกข้าง ทุกอย่างเป็นขบวนการของอำนาจโดยรับลูกกันเป็นทอดๆ ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จึงเป็นบทเรียนของพระที่แผ่เมตตาให้กับพวกคนหน้าดานในสังคมดัดจริต

ส่วนการเล่นงานรถหรูในพิพิธภัณฑ์วัดปากนำนั้น นายจตุพร กล่าวว่า 

รถหรูเป็นรถโบราณ ได้รับบริจาคมาและยังไม่ได้นำมาใช้เป็นพาหนะเดินทาง เมื่อรับบริจาคมาแล้วก็ตั้งโชว์ที่วัด และพระเลือกไม่ได้กับการบริจาค รวมทั้งไม่รู้ถึงสิ่งที่มาบริจาคจะดีหรือชั่ว เมื่อบริจาคพระต้องรับทั้งหมด ดังนั้น การแถลงข่าววันนี้ของ ดีเอสไอ จึงเป็นการเชื่อมโยงกันต่อเพื่อหาเรื่อง จนทำให้แต่งตั้งสังฆราชกันไม่ได้เท่านั้น

นายจตุพร กล่าวถึงกรณีศาลอุทธรณ์ยกฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ว่า การยกฟ้องไม่ได้เกี่ยวกับความผิดหรือไม่ในการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ซึ่งทำให้ประชาชนเสียชีวิต 99 ศพ แต่เป็นการยกฟ้องในเขตอำนาจศาล โดยศาลอุทธรณ์ชี้ว่า เป็นคดีที่ต้องพิจารณาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต้องเป็นผู้ฟ้อง อย่างไรก็ตาม ยังเหลือช่องทางในการยื่นต่อศาลฎีกาอยู่ จึงต้องดำเนินการต่อไป

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์