ไฮโซน้ำหวานเผยถูกแกล้ง ด้านเหยื่อซัดกลับแรงอ้างเป็นหมอ

จากนั้นแนะนำให้ตนไปฉีดวิตามินที่คลินิกปรับโครงหน้าให้หน้าใส  เสริมบุคลิกภาพ ซึ่งไม่ได้บอกว่าเป็นฟิลเลอร์ ครั้งแรก 1 ก.พ. 61 มีหมอผู้ชายคนหนึ่งเป็นคนฉีด ปรากฎว่าเกิดตุ่มแดงขึ้นบนใบหน้าตามรอยเข็มที่ฉีดเข้าไป โดยหมอบอกว่าเป็นปกติเดี๋ยวก็ยุบ ผ่านไป 2 อาทิตย์ก็ไม่ยุบ จึงสอบถามไฮโซน้ำหวานก็บอกว่าต้องใช้เวลา จากนั้น 14 ก.พ.61 นัดให้ตนมาฉีดหน้าใสอีกครั้ง โดยไฮโซน้ำหวานเป็นคนฉีดให้ด้วยตนเอง

ซึ่งก่อนที่ไฮโซน้ำหวานจะฉีดหน้าให้นั้น ตนก็ถามย้ำว่าคุณเป็นหมอเหรอ โฮโซคนดังกล่าวยืนยันว่าเป็นหมอผิวหนังจบจากฝรั่งเศส ตนก็หลงเชื่อเพราะเห็นเป็นคนมีชื่อเสียงระดับโฮโซ มีหน้ามีตาในสังคม เป็นภรรยานักแสดงชื่อดัง และในอินสตาแกรมคลินิกมีการลงภาพดาราชื่อดังหลายคนมาใช้บริการ โดยไฮโซน้ำหวานสวมชุดกาวน์แต่งเป็นหมอถือเข็มฉีดหน้าให้กับดาราเหล่านั้น ทำให้มีความน่าเชื่อถือไม่น่าจะโกหก

ต่อมาให้หมอฉีดยาลดอากการบวม ซึ่งไปฉีดทุกวันประมาณ 1 อาทิตย์จนอาการดีขึ้น พอหมดฤทธิ์ยาอาการกลับมาเป็นเหมือนเดิม โดยระหว่างที่ฉีดยาลดอาการบวมนั้น ไฮโซน้ำหวานได้มาฉีดยาดังกล่าวให้กับตนด้วยโดยฉีดเข้าที่ใบหน้าทำให้รอยไหม้บริเวณแก้มข้างขวา ต่างจากหมอคนแรกที่ฉีดเข้าเส้น ตนถามไฮโซเจ้าของคลินิกก็บอกว่า “มันทำให้เป็นหนักกว่าเดิมหรือเปล่า” เขาบอกว่าถ้ามันยุบก็โอเคแล้ว

ต่อมาเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ตนก็ยังรักษาหน้ากับคลินิกของไฮโซคนดังกล่าวจนอาการดีขึ้น จากนั้นเดือนเมษายนหน้าเริ่มเขียวเป็นจ้ำๆ  ทางคลินิกก็จ่ายยาให้ไปกิน โดยไฮโซน้ำหวานได้วินิจฉัยโรคของตนซึ่งคุยกันทางแชทไลน์ บอกว่าตนน่าจะเป็นโรค SLE (โรคแพ้ภูมิตัวเอง)  จึงถามว่าจะตรวจได้เมื่อไหร่ถึงจะทราบว่าเป็นโรคนี้หรือไม่ เขาบอกต้องใช้เวลานำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศประมาณ 1 เดือน

หน้าของตนพังมากรอไม่ไหวจึงไปตรวจที่โรงพยาบาลผิวหนัง ขอให้หมอเจาะเลือดตรวจอย่างละเอียด ซึ่งหมอบอกว่า “ไม่ต้องตรวจหรอกค่ะ ที่มีอาการแบบนี้น่าจะแพ้สารแปลกปลอมบางอย่างที่ฉีดเข้าไปบนใบหน้า คนที่ฉีดหน้าให้ไม่ใช่หมอเพราะมีคนไข้ไปฉีดหน้าที่คลินิกดังกล่าว มารักษาที่โรงพยาบาลผิวหนังหลายราย”  

ตนเริ่มสงสัยถ้าไม่ใช่หมอแล้วสารที่นำมาฉีดหน้ามันคืออะไร ขณะที่ผลเลือดเป็นปกติ หมอบอกหากอยากทราบว่าติดเชื้ออะไรหรือไม่ ต้องกรีดเอาชิ้นเนื้อที่ใบหน้าไปตรวจ แต่ตนกลัวมีแผลเป็นจึงขอรักษาด้วยการฉีดยาและทานยา หลังจากที่ทราบผลตรวจแล้วได้กลับไปที่คลินิกอีกครั้ง พบไฮโซคนดังกล่าวเพื่อบอกว่าตนให้หมอตรวจแล้วไม่ได้เป็นโรค SLE ซึ่งหมอบอกแพ้สารบางอย่างที่ฉีดบนใบหน้า

เขาบอกว่า “ถ้าพี่เชื่อหมอมากกว่าก็ไปรักษากับหมอคนนั้นละกัน” ถ้ารักษากับคลินิกของเขาก็ไม่ต้องเสียเงิน แต่ถ้าไปรักษาที่อื่นก็รับผิดชอบตัวเอง จึงตัดสินใจรักษากับหมอที่โรงพยาบาลโรคผิวหนัง ใช้เวลารักษานานกว่า 1 ปี หมดเงินไปกว่า 1 ล้านบาท แต่อาการแพ้และอักเสบใต้ผิวหนังยังไม่หายเป็นปกติ ยืนยันก่อนทำการฉีดไม่เป็นวัณโรคผิวหนังมาก่อน และไม่ได้กลั่นแกล้งเพราะมีปัญหาทางธุรกิจ

ต่อมามีการชักชวนให้ตนร่วมลงทุนทำธุรกิจอาหารเสริมอีก ซึ่งที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ยังไม่ได้รับส่วนแบ่งจากการเป็นหุ้นส่วนเลย ไปตรวจเช็คที่กระทรวงพาณิชย์พบว่าตนไม่มีชื่อในบริษัทตั้งแต่ต้น  ซึ่งตนก็เออออตามคำชวนแต่ไม่ร่วมลงทุนอีกเพราะต้องการทราบจากปากเจ้าของคลินิกว่า ยาที่นำมาฉีดหน้าให้นั้นเป็นยาอะไรกันแน่ จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ทราบเพราะเขาไม่บอกและไม่ให้ดูตัวยา

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของไฮโซน้ำหวาน เจ้าตัวได้ออกมาโพสต์ภาพข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว 

ระบุว่า "ถ้าเราตามคนมานวดนมที่บ้านแล้วรู้ว่าเป็นวัณโรคผิวหนัง เราจะกล้าให้นวดต่อหรือไม่คะ ถ้าไม่ให้นวดต่อแล้วโดนแกล้งทำไงดีคะ"