โรงงานผลิตปิโตรเคมี ตูมสนั่นนิคมฯ มาบตาพุด เบื้องต้นเสียชีวิต 5 ราย เจ็บเกือบร้อย

เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 5 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้โรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ภายหลังเกิดระเบิดเสียงดังได้มีควันดำพวยพุ่งขึ้นมา 

โดยควันไฟฟุ้งกระจายปกคลุมไปรอบบริเวณ นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุมีลมแรง ทำให้มีกลิ่นก๊าซแอมโมเนียและกลิ่นสารเคมีกระจายออกมาด้วย เจ้าหน้าที่จึงเร่งอพยพคนงานและกันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห้ามเข้าไปภายในนิคมฯเด็ดขาด

 เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เหตุระเบิดและเพลิงไหม้เกิดจากถังเคมีขนาดใหญ่จำนวนหลายถังของโรงงานกรุงเทพ ซินธิติกส์ (บีเอสที) เกิดระเบิดขึ้น คาดว่ามีผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงระดมรถดับเพลิงภายในนิคมอุตสาหกรรมหลายสิบคัน รถกู้ภัยภายในนิคมเข้าไปดับเพลิง พร้อมอพยพคนงานทั้งหมดออกจากนิคมฯ ทำให้การจราจรติดขัดเป็นทางยาวจนต้องสั่งปิดการจราจรเพื่อเปิดทางให้รถน้ำเข้าไปดับเพลิง

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าฯ ระยองสั่งอพยพคนงานออกจากพื้นที่ เนื่องจากกลิ่นสารเคมีกระจายและลมพัดแรงจนไปถึงตลาดสดมาบตาพุด พร้อมประกาศใช้แผนฉุกเฉินระดับโรงงานอพยพคนงานทั้งหมดออกจากมาบตาพุด และห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่

นายเสนีย์กล่าวว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นว่าที่เกิดเหตุเป็นโรงงานอุตสาหกรรมภายในนิคมฯ เข้าใจว่าประกอบอุตสาหกรรมเกี่ยวกับปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกซึ่งเกิดระเบิดและมีเพลิงลุกไหม้ ทราบว่ามีผู้บาดเจ็บบางส่วนถูกนำส่งโรงพยาบาลมาบตาพุดแล้ว ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ได้รับแจ้งว่าสามารถคุมเพลิงบางส่วนได้ แต่ยังคงมีกลุ่มควันปรากฏอยู่ เนื่องจากวัสดุที่ติดไฟนั้นเป็นของจำพวกพลาสติก ซึ่งจะมีควันมาก ส่วนสารพิษหรือควันพิษที่เกิดจากควันไฟนั้นยังไม่ได้รับการยืนยันว่ามีอันตรายมากน้อยแค่ไหน

 นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า เหตุเพลิงไหม้เกิดจากโรงงานบริษัทกรุงเทพ ซินธิติกส์ ที่อยู่ระหว่างปิดซ่อมบำรุงประจำปีเกิดระเบิดขึ้น สามารถควบคุมเพลิงได้ระดับหนึ่งให้อยู่ในวงจำกัด ไม่ให้ลุกลาม เบื้องต้นทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนงานของบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างที่เข้าไปซ่อมบำรุงโรงงาน โดยนำส่งโรงพยาบาลแล้วทั้งหมด ทั้งนี้ กนอ.ตรวจสอบแล้วว่ามีสารเคมีรั่วไหลในพื้นที่ แต่ไม่ใช่กลุ่มสารพิษฉับพลัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง โดยสั่งให้อพยพประชาชน 3 ชุมชนในพื้นที่ใต้ลมออกจากพื้นที่ไปยังจุดรวมพลของชุมชนที่กำหนดไว้แล้ว

 นายวีรพงศ์กล่าวว่า โรงงานแห่งนี้เป็นผู้ผลิตสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยางสังเคราะห์ ก่อนเกิดเพลิงไหม้ไม่ได้มีการเดินเครื่องผลิต เนื่องจากอยู่ในช่วงการปิดซ่อมบำรุง ดังนั้น ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจึงเป็นพนักงานของบริษัทรับเหมาก่อสร้างเป็นส่วนใหญ่

 ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รมว.อุตสาหกรรมกล่าวว่า ระหว่างเกิดเหตุโรงงานปิดทำการ ไม่มีการเดินเครื่องจักร จึงสันนิษฐานเบื้องต้นว่าสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากสารไวไฟค้างอยู่ในท่อ และเจ้าหน้าที่ที่เข้าซ่อมบำรุงอาจปฏิบัติงานผิดขั้นตอนทำให้เกิดเพลิงไหม้ อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ในจ.ระยอง มีฝนตกหนัก ทำให้สามารถควบคุมเพลิงไว้ไม่ให้ลุกลามไปจุดอื่นได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เร่งอพยพประชาชนในชุมชนที่อยู่ใต้ลม เช่น ชุมชนมาบตาพุด และชุมชนซอยประปา และใช้ระบบเสียงตามสายแจ้งเตือนให้อพยพ ส่วนวงเงินความเสียหายยังประเมินไม่ได้

 น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุขกล่าวว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 5 ราย ที่เหลือส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมาบตาพุด มีอาการไฟไหม้ร่างกว่า 50% รวมบาดเจ็บทั้งหมดประมาณ 80 ราย สำหรับฝนที่ตกลงมามีข้อดีทำให้กลุ่มควันไม่ฟุ้งกระจาย แต่ข้อเสียคือน้ำฝนจะละลายสารพิษต่างๆ ได้ จึงแนะนำประชาชนไม่รองน้ำฝนไว้อุปโภคบริโภค