ฝนยังกระหน่ำภาคเหนือท่วมสูงอีกหลายพื้นที่ น่าน-อุตรดิตถ์อ่วมหนัก สั่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือ เผยบางพื้นที่มิดบาดาลมีผู้สูญหาย เจ้าหน้าที่เร่งระดมช่วยหญิงท้องแก่หนีน้ำ ขณะที่ลำปาง-พิจิตร บ้านเรือนริมฝั่งเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง
เนื่องจากแม่น้ำน่านและลำน้ำสาขา ปริมาณน้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจากฝนตกหนักมาตลอดทั้งคืน ล่าสุดน้ำท่วมฉับพลัน 9 หมู่บ้าน ตำบลสถาน อ.นาน้อย บางพื้นที่น้ำสูงกว่า 10 เมตร ท่วมมิดหลังคา เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำสุด โดยเฉพาะบ้านทุ่ง หมู่ 12 ตำบลสถาน น้ำท่วมตัดขาด 50 ครัวเรือน ซึ่ง นางจารวี คำมินทร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สถาน เร่งขอความร่วมมือจากเทศบาลตำบลนาน้อย หน่วยกู้ภัย อบจ.น่าน จังหวัดทหารบกน่าน และกู้ภัย อปพร. นำเรือท้องแบนเข้าพื้นที่ช่วยอพยพราษฎรมายังจุดปลอดภัย รวมถึงหญิงท้องแก่ใกล้คลอด 1 ราย เพื่อนำส่งโรงพยาบาล นอกจากนี้ วัดบ้านร้องน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร อีกทั้งถนนเส้นทางนาน้อยมีต้นไม้ใหญ่หักโค่นขวางเส้นทางจราจรหลายช่วงและดินสไลด์ ส่วนอำเภอนาหมื่น น้ำป่าหลากท่วม 31 หมู่บ้าน 2 ตำบล คือ ต.นาทะนุง และ ต.บ่อแก้ว โดยบ้านประมงปากนาย ต.นาทะนุง ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ชาวบ้านเร่งขนสัมภาระหนีน้ำ
นายธวัช เพชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน
เตรียมประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำป่าหลาก โดยยังคงนำเรือท้องแบนออกตระเวนช่วยเหลือในแต่ละพื้นที่ และตั้งศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยขึ้นที่ อบต.สถาน และอำเภอนาน้อย
ด้าน นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า
ได้ประสานหลายหน่วยงานนำเรือท้องแบนพร้อมถุงยังชีพนับพันชุด เข้าพื้นที่น้ำท่วมอำเภอฟากท่าอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยกว่า 1,000 ครอบครัว 21 หมู่บ้าน 4 ตำบล เนื่องจากเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ อยู่ในหุบเขาจึงถูกน้ำท่วมสูง การกระบายน้ำลำบาก เพราะต้องรอฝนหยุดตก ให้ไหลลงสู่แม่น้ำน่านเพียงอย่างเดียว อีกทั้งเป็นพื้นที่อยู่ห่างจากตัวจังหวัดถึง 200 กิโลเมตร และขณะนี้พื้นที่ตอนเหนือของจังหวัดอุตรดิตถ์ยังคงมีปริมาณฝนตกหนัก จึงกำชับให้สำนักงานเทศบาลตำบลฟากท่า ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้เดือดร้อน พร้อมประชุมประเมินสถานการณ์ทุก 1 ชั่วโมง จนกว่าระดับน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ
นายธาตรี บุญมี นายอำเภอฟากท่า กล่าวว่า
ระดับน้ำท่วมถือว่ารุนแรงมากในปีนี้ ล่าสุดมีรายงานว่าชาวบ้านหมู่ 4 บ้านวังค้อ ต.บ้านเสี้ยว สูญหายไป 2 ราย หลังเดินทางเข้าไปไร่ข้าวโพด ขณะนี้ยังไม่พบตัว แม้ญาติพยายามติดต่อด้วยโทรศัพท์มือถือ จึงระดมชาวบ้านออกติดตาม นอกจากนี้ ถนนสายบ้านโคก-ฟากท่า น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ระยะทาง 500 เมตร ที่บ้านกกต้อง หมู่ 3 ต.ฟากท่า และมีดินจากภูเขาไหลลงมาทับเส้นทางตัดการสัญจร รถโดยสารประจำทางต้องจอดพักรถที่อำเภอฟากท่า
ส่วน จ.ลำปาง ฝนตกตลอดคืนเช่นกัน
น้ำป่าหลากท่วม 3 ตำบล 2 อำเภอ สูงกว่า 1 เมตร คือ ต.บ้านแลง อำเภอเมือง และ ต.นาสัก กับ ต.จางเหนือ อำเภอแม่เมาะ ราษฎรเดือดร้อนกว่า 100 หลังคาเรือน โดยเฉพาะ ต.บ้านแลง ประสบภัยน้ำท่วมซ้ำซากมาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ กระแสน้ำยังทำให้สะพานเชื่อมหมู่บ้านของ ต.บ้านแลง เสียหาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าช่วยเหลือผู้เดือดร้อน พร้อมรายงานสถานการณ์ถึง นายศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อเตรียมการช่วยเหลือตามระเบียบ
ที่ จ.พิจิตร คลองวังแดง และคลองสาขา
รับน้ำป่าจากเขาเพชรบูรณ์จนเอ่อท่วม 3 หมู่บ้าน ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ กว่า 1,000 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตร อีกทั้งกระแสน้ำยังเชี่ยวกรากขยายวงกว้างเข้าพื้นที่อำเภอตะพานหิน ท่วมทางหลวงหมายเลข 11 อินทร์บุรี–แพร่ เส้นทางหลักขึ้นสู่ภาคเหนือ ช่วงหลักกิโลเมตร 74 – 75 ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ ระดับ 70 เซนติเมตร การสัญจรไม่สะดวก โดยเฉพาะรถยนต์เล็กผ่านไม่ได้.- สำนักข่าวไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง
เนื่องจากแม่น้ำน่านและลำน้ำสาขา ปริมาณน้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจากฝนตกหนักมาตลอดทั้งคืน ล่าสุดน้ำท่วมฉับพลัน 9 หมู่บ้าน ตำบลสถาน อ.นาน้อย บางพื้นที่น้ำสูงกว่า 10 เมตร ท่วมมิดหลังคา เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำสุด โดยเฉพาะบ้านทุ่ง หมู่ 12 ตำบลสถาน น้ำท่วมตัดขาด 50 ครัวเรือน ซึ่ง นางจารวี คำมินทร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สถาน เร่งขอความร่วมมือจากเทศบาลตำบลนาน้อย หน่วยกู้ภัย อบจ.น่าน จังหวัดทหารบกน่าน และกู้ภัย อปพร. นำเรือท้องแบนเข้าพื้นที่ช่วยอพยพราษฎรมายังจุดปลอดภัย รวมถึงหญิงท้องแก่ใกล้คลอด 1 ราย เพื่อนำส่งโรงพยาบาล นอกจากนี้ วัดบ้านร้องน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร อีกทั้งถนนเส้นทางนาน้อยมีต้นไม้ใหญ่หักโค่นขวางเส้นทางจราจรหลายช่วงและดินสไลด์ ส่วนอำเภอนาหมื่น น้ำป่าหลากท่วม 31 หมู่บ้าน 2 ตำบล คือ ต.นาทะนุง และ ต.บ่อแก้ว โดยบ้านประมงปากนาย ต.นาทะนุง ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ชาวบ้านเร่งขนสัมภาระหนีน้ำ
นายธวัช เพชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน
เตรียมประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำป่าหลาก โดยยังคงนำเรือท้องแบนออกตระเวนช่วยเหลือในแต่ละพื้นที่ และตั้งศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยขึ้นที่ อบต.สถาน และอำเภอนาน้อย
ด้าน นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า
ได้ประสานหลายหน่วยงานนำเรือท้องแบนพร้อมถุงยังชีพนับพันชุด เข้าพื้นที่น้ำท่วมอำเภอฟากท่าอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยกว่า 1,000 ครอบครัว 21 หมู่บ้าน 4 ตำบล เนื่องจากเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ อยู่ในหุบเขาจึงถูกน้ำท่วมสูง การกระบายน้ำลำบาก เพราะต้องรอฝนหยุดตก ให้ไหลลงสู่แม่น้ำน่านเพียงอย่างเดียว อีกทั้งเป็นพื้นที่อยู่ห่างจากตัวจังหวัดถึง 200 กิโลเมตร และขณะนี้พื้นที่ตอนเหนือของจังหวัดอุตรดิตถ์ยังคงมีปริมาณฝนตกหนัก จึงกำชับให้สำนักงานเทศบาลตำบลฟากท่า ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้เดือดร้อน พร้อมประชุมประเมินสถานการณ์ทุก 1 ชั่วโมง จนกว่าระดับน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ
นายธาตรี บุญมี นายอำเภอฟากท่า กล่าวว่า
ระดับน้ำท่วมถือว่ารุนแรงมากในปีนี้ ล่าสุดมีรายงานว่าชาวบ้านหมู่ 4 บ้านวังค้อ ต.บ้านเสี้ยว สูญหายไป 2 ราย หลังเดินทางเข้าไปไร่ข้าวโพด ขณะนี้ยังไม่พบตัว แม้ญาติพยายามติดต่อด้วยโทรศัพท์มือถือ จึงระดมชาวบ้านออกติดตาม นอกจากนี้ ถนนสายบ้านโคก-ฟากท่า น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ระยะทาง 500 เมตร ที่บ้านกกต้อง หมู่ 3 ต.ฟากท่า และมีดินจากภูเขาไหลลงมาทับเส้นทางตัดการสัญจร รถโดยสารประจำทางต้องจอดพักรถที่อำเภอฟากท่า
ส่วน จ.ลำปาง ฝนตกตลอดคืนเช่นกัน
น้ำป่าหลากท่วม 3 ตำบล 2 อำเภอ สูงกว่า 1 เมตร คือ ต.บ้านแลง อำเภอเมือง และ ต.นาสัก กับ ต.จางเหนือ อำเภอแม่เมาะ ราษฎรเดือดร้อนกว่า 100 หลังคาเรือน โดยเฉพาะ ต.บ้านแลง ประสบภัยน้ำท่วมซ้ำซากมาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ กระแสน้ำยังทำให้สะพานเชื่อมหมู่บ้านของ ต.บ้านแลง เสียหาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าช่วยเหลือผู้เดือดร้อน พร้อมรายงานสถานการณ์ถึง นายศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อเตรียมการช่วยเหลือตามระเบียบ
ที่ จ.พิจิตร คลองวังแดง และคลองสาขา
รับน้ำป่าจากเขาเพชรบูรณ์จนเอ่อท่วม 3 หมู่บ้าน ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ กว่า 1,000 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตร อีกทั้งกระแสน้ำยังเชี่ยวกรากขยายวงกว้างเข้าพื้นที่อำเภอตะพานหิน ท่วมทางหลวงหมายเลข 11 อินทร์บุรี–แพร่ เส้นทางหลักขึ้นสู่ภาคเหนือ ช่วงหลักกิโลเมตร 74 – 75 ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ ระดับ 70 เซนติเมตร การสัญจรไม่สะดวก โดยเฉพาะรถยนต์เล็กผ่านไม่ได้.- สำนักข่าวไทย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
