อาหาร-น้ำมันแพง โจทย์ใหญ่รอรัฐบาลใหม่

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร คงขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกและฝีมือการบริหารของรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมรับมือราคาอาหารและน้ำมันแพง

นายปานปรีย์ กล่าวว่า ทั่วโลกต่างเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจสหรัฐ-ศก.โลก ยุโรป  อเมริกา  จะฟื้นตัวอย่างแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน

ซึ่งในขณะนี้จะเห็นว่าหนี้ของยุโรปกลับมาเป็นน่ากังวลอีกรอบ ในขณะที่ จีนแม้การส่งออกยังขยายตัว แต่ก็ไม่รู้จะเติบโตจะได้นานเท่าไหร่ ซึ่งจะส่งผลต่อการส่งออกของประเทศ ในขณะที่ราคาสินค้า อาหาร รวมทั้งน้ำมัน มีราคาสูง โอกาสที่น้ำมันจะต่ำกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นเรื่องยาก จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลใหม่จะต้องเตรียมรับมือบริหารเรื่องนี้อย่าไร

“รัฐบาลใหม่จะไม่มีช่วงฮันนีมูน เพราะปัญหาอาหาร-น้ำมันแพง กระทบต่อประชาชน พรรคที่รู้ปัญหาของประเทศต้องเตรียมการ หากยังไม่รู้ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ก็ลำบาก “ นายปานปรีย์ กล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ตรึงราคาแอลพีจี-เอ็นจีวี-ดีเซล จนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ ในขณะที่ต้นทุนพุ่งสูงขึ้น
 
ผลของการตรึงดีเซลรัฐบาลได้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนกว่า  20,000  ล้านบาท จนขณะนี้กองทุนฯ       ติดลบ และเตรียมกู้เงินในวงเงินไม่เกิน 20,000  ล้านบาทมาแก้ปัญหา และรัฐบาลยังได้ลดภาษีดีเซล 5.80 บาทต่อลิตร เป็นวงเงินที่รัฐสูญเสียรายได้  40,000 ล้านบาท ส่วนเอ็นจีวี-แอลพีจี ต้นทุนสูงทางกระทรวงพลังงานเตรียมเสนอรัฐบาลใหม่ปรับฐานราคาให้เหมาะสม

นายปานปรีย์  กล่าวว่า กล่าวว่า หากไปดูนโยบายเศรษฐกิจของแต่ละพรรคการเมือง ล้วนแต่เป็นประชานิยม ลดแลกแจกแถม

ซึ่งประเมินว่าอาจะต้องใช้เงินรวม ๆ 2-3 ล้านล้านบาท สิ่งที่พรรคแต่ละพรรคควรมีคำตอบคือ แต่ละโครงการที่เสนอจะใช้เงินเท่าใด ที่มาของเงินมาจากไหน และหากดำเนินการแล้วจะนำเงินที่ไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเข้ามาสู่ระบบการเงิน-การคลังอย่างไร  โดยแนวทางภาคการคลังที่นำมาใช้ได้ ก็คือ การขึ้นภาษี หรือการกู้เพิ่ม เพื่อให้ได้เงินมากลงทุน โดยหากกู้เพิ่มแล้วติดเพดานหนี้ เพิ่มหนี้สาธารณะมากขึ้น จะชดใช้เงินกู้อย่างไร สิ่งเหล่านี้ยังไม่มีคำตอบจากพรรคการเมือง ในขณะที่จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐจะถูกใช้มาเป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบาย หากเกิดการขาดทุนสะสม จะแก้ปัญหาอย่างไร  โดยในส่วนของประชาชน ก็คงจะต้องพิจารณาด้วยว่า พรรคต่าง ๆ จะบริหารการคลังอย่างมีประสิทธิภาพอย่างไร เมื่อใช้เงินสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ต้องหาเงินให้เป็นด้วย โดยต้องหาเงินเข้าคลังให้ได้มากกว่าการใช้ ในช่วง 4 ปีของการบริการประเทศ ต้อง ทำอย่างไรให้ระบบการคลังของไทยมั่นคงยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์