สิ้นแล้วหลวงพ่อเขียนแห่งเขาคิชฌกูฏ สิริอายุ 82 พรรษา61 จัดพิธีศพ วัดกะทิง


สิ้นแล้ว"หลวงพ่อเขียน"แห่งเขาคิชฌกูฏ สิริอายุ 82 พรรษา61 จัดพิธีศพ "วัดกะทิง"

สิ้นแล้วหลวงพ่อเขียนแห่งเขาคิชฌกูฏ สิริอายุ 82 พรรษา61 จัดพิธีศพ วัดกะทิง


สิ้นแล้ว - หลวงพ่อเขียน ขันธสโร พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเขาคิชฌกูฏ จ. จันทบุรี มรณภาพแล้ว เมื่อเวลา 12.39 น. วันที่ 28 เม.ย. ที่ร.พ.จุฬา ลงกรณ์ สิริอายุ 82 พรรษา 61

สิ้นเทพเจ้าแห่งเขาคิชฌกูฏ สานุศิษย์อาลัยต่อมรณภาพของ"หลวง พ่อเขียน"หรือพระครูธรรมสรคุณ เจ้าอาวาสวัดกะทิง เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี หลังอาพาธเข้ารักษาตัวที่ร.พ.จุฬาฯ ทูลกระหม่อมหญิงประทานน้ำหลวงอาบศพ ในวันที่ 2 พ.ค.ที่วัดกะทิง สวดพระอภิธรรม 30 วัน เก็บศพไม่เผา เผยประวัติเป็นผู้ริเริ่มประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ ได้รับการชื่นชมจนชาวบ้านขนานนามว่า "เทพเจ้าแห่งขุนเขาคิชฌกูฏ"



เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่อาคารพยาธิวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ดร.มนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นผู้แทนพระองค์เดินทางมาสรงน้ำศพ พระครูธรรมสรคุณ หรือหลวงปู่เขียน ขันธสโร เจ้าอาวาสวัดกะทิง บ้านกะทิง ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ซึ่งมรณภาพลงเมื่อเวลา 12.39 น. ด้วยอาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอี หลังจากเดินทางเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมีบรรดาลูกศิษย์ ประชาชน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่ทราบข่าว ต่างพากันทยอยเดินทางมาร่วมพิธีสรงน้ำศพเป็นจำนวนมาก



ดร.มนัสเปิดเผยว่า หลวงปู่เขียนเป็นคนไข้ในพระอุปถัมภ์ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี หลังทราบข่าว จึงเดินทางมาจัดการเรื่องศพของหลวงปู่เขียน โดยทางโรงพยาบาลจะเปิดให้ลูกศิษย์และประชาชนทั่วไปมาร่วมสรงน้ำในศพตั้งแต่เวลา 15.00-18.00 น. ของวันที่ 28 เม.ย.นี้เท่านั้น หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลจะนำรูปภาพของหลวงปู่เขียน ผูกสายสิญจน์ ตั้งไว้ที่อาคารพยาธิวิทยา เพื่อให้ประชาชนเดินทางนำพวงมาลัยมาถวาย ก่อนจะเคลื่อนศพของหลวงปู่ไปตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดกะทิง ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เป็นเวลา 30 วัน พร้อมทั้งเก็บสรีระไว้ไม่มีการฌาปนกิจแต่อย่างใด



ในการนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาโปรดให้นายมนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ เป็นผู้แทนพระองค์ ในพิธีประทานน้ำหลวงอาบศพ พระครูธรรมสรคุณในวันพุธที่ 2 พ.ค. ณ วัดกะทิง



นายนิพนธ์ หนองริมบ้าน ศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อเขียน และเป็นเลขานุการมูลนิธิอนุสรณ์สถานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งหลวงพ่อเขียนเป็นประธาน เปิดเผยว่า ได้รับทราบข่าวว่าท่านพ่อเขียนมรณภาพ เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ที่ร.พ.จุฬาลง กรณ์ กรุงเทพฯ โดยท่านพ่อเขียนอาพาธเมื่อหลังจากการทำพิธีบวงสรวง "ปิดป่า" เพื่อเปิดงานประเพณี ขึ้นเขาพระบาทพลวง (เขาคิชฌกูฏ) ต.พลวง เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นคณะศิษย์ได้นำท่านพ่อเขียน เข้ารับการตรวจรักษา ที่ ร.พ.จุฬาลงกรณ์ พบว่าท่านเป็นโรคไต ท่านมีอาการเหนื่อยหอบ ทางแพทย์ให้รักษาที่ร.พ.จุฬาลงกรณ์ตลอดมา จนถึงวันมรณภาพ



สำหรับประวัติ พระครูธรรมสรคุณ (เขียน ขันธสโร) เดิมชื่อ "เขียน ทองคำ" เกิดเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2473 เป็นบุตรนาย ทองอยู่ ทองคำ มารดาชื่อนางมุ้ง มีพี่น้อง 10 คน ครอบครัวทำสวนทำนา ในพื้นที่ อ.เขาคิชฌกูฏ

อุปสมบทวันพุธที่ 16 พ.ค. 2494 ณ วัดกะทิง มรณภาพเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2555 สิริอายุได้ 82 พรรษา 61

ส่วนการศึกษา จบชั้นประถมปีที่ 4 โรง เรียนวัดกะทิง ต.พลวง วุฒิจบนักธรรมตรี ได้ รับการถวายปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พธ.ม.) และเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2551 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ได้เสนอถวายปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตกิตติม ศักดิ์ สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา

ลำดับงานปกครอง



พ.ศ.2499 ได้รับ แต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดกะทิง พ.ศ.2528 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลชั้นตรี พ.ศ.2533 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลชั้นโท พ.ศ. 2538 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอมะขามชั้นโท พ.ศ.2541 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอมะขามชั้นเอก ส่วนลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2516 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เจ้าอาวาสชั้นตรีที่ พระครูธรรมสรคุณ



หลวงพ่อเขียน มีความชำนาญด้านนวกรรมจิตตภาวนา สามารถเดินเท้าขึ้นเขาคิชฌกูฏได้รวดเร็ว จนชาวบ้านเดินตามไม่ทัน นอกจากนี้เป็นผู้ริเริ่มดำเนินการจัดงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) ซึ่งอยู่บนยอดเขาคิชฌกูฏ นานถึง 60 วัน ระหว่างปลายเดือนมกราคม-มีนาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นที่กล่าวขานว่า ใครเดินทางขึ้นเขาคิชฌกูฏ เพื่อนมัส การสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเขาคิชฌกูฏจะได้รับมหากุศลประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง



ทุกครั้งที่หน่วยงานราชการ องค์กรการกุศล โรงเรียน หรือประชาชนทั่วไป เข้ามาขอรับความอนุเคราะห์จากหลวงพ่อ ท่านไม่เคยปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด ชาวบ้านจึงได้ขนานนามท่านว่า เทพเจ้าแห่งขุนเขาคิชฌกูฏ ถือเป็นพระที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมพัฒนาช่วยเหลือทางสังคม สาธารณ ประโยชน์ การศึกษา และอื่นๆ อีกมากมาย


จาก ข่าวสด


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์