สอบมาราธอนกว่า 5 ชม.พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ย้ำเป็นคนขับรถ

สอบยาวกว่า 5 ชม. พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ย้ำเป็นคนขับรถ พร้อมโชว์ภาพยืนยัน

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยภายหลังการสอบปากคำ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าขับรถชน พ.ต.พญ.หทัยพร   อิ่มวิทยา แพทย์ รพ.พระมงกุฎเกล้า ได้รับบาดเจ็บพร้อมด้วยนางสภาวัน ภรรยา กว่า 5 ชั่วโมง ว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ยังรวบรวมพยานหลักฐานไม่ครบ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืนทำให้เห็นภาพไม่ชัดเจน จึงต้องให้ฝ่ายเทคนิคปรับภาพให้ชัดขึ้น เพื่อตรวจสอบว่ามีตัวละครใดและเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นอย่างไร 

ทางคดีเจ้าหน้าที่ต้องพิสูจน์ใน 2 ประเด็น คือ พิสูจน์ว่าใครเป็นผู้กระทำผิด และมีความผิดฐานใด ผลตรวจดีเอ็นเอภายในรถ จะเป็นหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อพิสูจน์ตัวบุคคลที่อยู่ภายในรถได้และใครนั่งอยู่ตรงไหน โดยขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 70-80% กองทัพก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และไม่มีโน้มน้าวกดดันเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด 

ด้าน พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า ตนพาภรรยามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ และตนก็ได้ให้ปากคำเพิ่มเติม

“ผมยืนยันและยอมรับว่าตัวเองเป็นคนขับรถในวันนั้น ผมรู้สึกเสียใจและขอรับผิดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” เมื่อถามว่าเหตุการณ์ในวันนั้นทำไมถึงไม่ยอมหยุดรถ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุผมขับรถวนไปวนมา 2 รอบ... 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ได้หยุดพูดพร้อมหยิบภาพถ่ายขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะยกมือไหว้สื่อมวลชน และเดินน้ำตาคลอเบ้าออกไปจากห้องประชุมโดยทันที โดยมีผู้สื่อข่าวเดินตามไปและถามว่า มีการโต้เถียงกับหมอมุกจริงหรือไม่ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า “ไม่ครับ ผมไม่รู้จักเค้า”


ขณะที่ พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส. กล่าวว่า
 
จากคำให้การของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ และนางสภาวัน ภู่กลั่น ภรรยา ซึ่งทั้งคู่ได้ให้การสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน  คาดว่า พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ น่าจะเป็นคนขับรถจริง แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอสอบปากคำลูกสาวและเพื่อนลูกสาว ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่เนื่องจากทั้งสองอยู่ระหว่างการสอบในระดับอุดมศึกษา อีกประมาณ 2-3 วัน จึงจะเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ได้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าไม่มีตัวละครเพิ่มเติม
 
ผู้การแต้มชี้พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ให้การ 2 วันไม่ตรงกัน เมียสวมหมวกปิดหน้าให้ปากคำ

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ สน.พญาไท พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น พร้อมภรรยา นางสภาวัน ภู่กลั่น ให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีขับรถพุ่งชน พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือหมอมุก โดยมี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 มาร่วมสอบปากคำด้วยตนเอง แต่ยังไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการสอบสวน โดยไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวเข้าฟัง


พล.ต.ต.วิชัยเปิดเผยว่า จากการสอบปากคำของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ และนางสภาวัน พบว่าคำให้การของนางสภาวันมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก
 
อย่างน้อยสังคมจะได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติม เเต่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลรายละเอียดตรงนี้ได้  ส่วนลูกสาวเเละเพื่อนที่เห็นเหตุการณ์นั้นติดเรียน จึงไม่สามารถมาให้ปากคำได้ โดยคาดว่าอีก 2 วันจะรียกสอบอีกครั้ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เเจ้งข้อหาใคร เพราะต้องสืบพยานหลักฐานให้ได้ข้อสรุปก่อน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ หลังสอบปากคำไปเเล้ว 2 วัน พบว่าคำให้การไม่ตรงกันเลย ส่วนที่มีกระเเสข่าวว่าทหารยศพันโทเป็นผู้ขับรถชนหมอมุกนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้เรียกสอบ เเต่หากมีข้อสงสัยหรือการเชื่อมโยงในคดีนี้ก็จะเรียกสอบในภายหลัง


"จากการสอบส่วนผู้ต้องสงสัย และตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ค่อนข้างจะชัดเจนว่าเป็นการขับรถชนจริงๆ การให้ปากคำเพิ่มเติมของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ในวันนี้ เจ้าตัวได้เอาภาพถ่ายในวันเกิดเหตุมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ด้วย"พล.ต.ต.วิชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภรรยาพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พญาไท โดยสวมหมวกมิดชิดปิดบังใบหน้าและหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวด้วย


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์