เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ก.พ. ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จ.นนทบุรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ครั้งที่ 2/2556 โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวก่อนการประชุมว่า ขอบคุณทุกหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ที่ช่วยกันรณรงค์และประหยัดพลังงานตามที่พูดคุยเป็นมติครม. เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนมากนัก ซึ่งทุกฝ่ายร่วมกันวางมาตรการและช่วยกันลดการใช้พลังงาน ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมารัฐบาลขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยบางหน่วยงานสามารถลดการใช้พลังงานได้เกินร้อยละ 10 แต่มีบางหน่วยงานที่ยังทำไม่ได้ ขอให้ปรับปรุงเพิ่ม ซึ่งปีนี้ขอให้ทำอย่างจริงจัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์นำถอดเสื้อสูทในที่ประชุม เพื่อลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศทำความเย็น
ที่กระทรวงพลังงาน นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เข้าหารือกับนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ถึงแผนรับมือฉุกเฉินกรณีพม่าหยุดจ่ายก๊าซในช่วงวันที่ 5-13 เม.ย. โดยนายพงษ์ศักดิ์กล่าวภายหลังการหารือว่า ภาคเอกชนรับทราบข้อมูลและยืนยันจะช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า เช่น การดับไฟฟ้าที่ไม่ใช้ รวมถึงเลื่อนกระบวนการผลิตในวันที่ 5 เม.ย.ออกไป รวมทั้งจะรณรงค์ให้ปิดเครื่องปรับอากาศในช่วงวันที่ 5 เม.ย. ทั้งกลุ่มโรงงาน ห้างสรรพสินค้าและห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ โดยจะขอความร่วมมือให้ปรับระบบแอร์ให้หยุดการทำงานหลังจากเวลา 12.00 น.
นอกจากนี้ ภาคอุตสาหกรรมจะหารือและอาจกำหนดให้วันที่ 5 เม.ย.เป็นวันหยุด และทำงานในวันที่ 7 หรือ 11 เม.ย. แทน เพื่อเป็นการแก้ปัญหา
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวอีกว่า ภายใน 2 สัปดาห์ทางส.อ.ท.จะส่งข้อมูลกลับมาที่กระทรวงพลังงาน
เพื่อสรุปตัวเลขว่าจะมีโรงงานส่วนใดบ้างที่ชะลอการผลิตในช่วงวิกฤตดังกล่าว โดยจะส่งต่อให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ ไทย (กฟผ.) เพื่อประเมินภาพรวมกำลังการผลิตอีกครั้ง ซึ่งมีแนวโน้มว่าปริมาณสำรองฉุกเฉินจะเพิ่มขึ้นจากที่คาดไว้ 600 เมกะวัตต์ หากภาคเอกชนพร้อมใจกันร่วมมือ โดยเฉพาะ กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ปูนซีเมนต์ ปิโตรเคมี กระดาษและพลาสติกซึ่งมีการใช้ไฟค่อนข้างมาก
นายพยุงศักดิ์กล่าวว่า จากการหารือกับ รมว.พลังงานได้รับทราบข้อเท็จจริงและจะกลับไปประสานงานกับ 42 กลุ่มอุตสาหกรรมของส.อ.ท.
เพื่อขอความร่วมมือชะลอการผลิตในวันที่ 5 เม.ย.ออกไป เพราะภาคเอกชนใช้ไฟในโรงงานอุตสาหกรรมสูงถึงร้อยละ 40 ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศ ซึ่งหากร่วมมือประหยัดไฟฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายและมีความเสี่ยงลดลง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
