ยังไม่กลับไทย โฆษกตร. เผยญี่ปุ่น จ่อฝากขัง ‘บิ๊กแจ๊ด’ โทษสูงสุด 10 ปี

ยังไม่กลับไทย โฆษกตร. เผยญี่ปุ่น จ่อฝากขัง ‘บิ๊กแจ๊ด’ โทษสูงสุด 10 ปี



‘บิ๊กแจ๊ด ’อดีตผบช.น.ยังไม่เดินทางกลับไทยหลังถูกตำรวจญี่ปุ่น จับข้อหาพกพาอาวุธปืนขณะกำลังจะขึ้นเครื่องบินที่สนามบินนาริตะ โฆษกสตช.เผยพยายามช่วยเต็มที่แล้ว แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายของญี่ปุ่น ชี้โทษแรง เตรียมฝากขัง...

จากกรณีพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผบช.น.ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่นควบคุมตัว

ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ภายหลังถูกตรวจพบที่สนามบินนาริตะ ขณะจะเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 22 มิ.ย.58 และมีรายงานว่า ทางพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นว่า เป็นปืนขนาดเล็กซึ่งเป็นปืนแฟชั่นที่ซื้อมา และลืมเก็บไว้ในกระเป๋านานกว่า 3 ปี จนสามารถทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่สนามบินนาริตะได้แล้ว และจะเดินทางกลับประเทศไทยในคืนวันนี้ (23มิ.ย.)นั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 23.00น. วันที่ 23 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากการให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ระบุว่า ฝ่ายตำรวจต่างประเทศ ได้รับแจ้งจากตำรวจญี่ปุ่นว่า ในวันพรุ่งนี้ (24มิ.ย.) จะมีการฝากขัง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจ นครบาล ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่นจับกุมที่สนามบินนาริตะ ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง

พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้พยายามประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือ พล.ต.ท. คำรณวิทย์

แต่ยอมรับว่า ทางการไทยคงช่วยเหลืออะไรได้ไม่มาก เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายของญี่ปุ่น โดยสิ่งที่ทำได้ คือการรับรองว่าเคยเป็นนายตำรวจระดับสูงของไทย ขณะที่กฎหมายญี่ปุ่นกำหนดบทลงโทษสำหรับความผิดลักษณะดังกล่าวไว้ค่อนข้างสูง คือจำคุกไม่เกิน 10 ปี แต่หากเหตุเกิดในมาเลเซียหรือสิงคโปร์ โทษสูงสุดอาจถึงขั้นประหารชีวิต

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าปืนกระบอกดังกล่าว ผ่านเครื่องตรวจเอ็กซเรย์ที่สนามบิน ณ จุดใด และเท่าที่ทราบปืนที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ พกพาไปนั้นเป็นปืนขนาดเล็กมาก สามารถถือไว้ในฝ่ามือได้ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นปืนพกรุ่นใด รวมทั้งไม่แน่ใจด้วยว่า มีใบอนุญาตพกปืนหรือไม่

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ประจำสนามบินสุวรรณภูมิ ระบุว่า

 เที่ยวบินสุดท้ายของสายการบินไทย คือเที่ยวบิน TG677 ออกจากสนามบินนาริตะ เวลา 17.30 น.เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 22.30 น. แต่วันนี้เครื่องมาถึงเร็ว ลงจอดในเวลา 21.55 น.แต่ไม่พบว่าพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินทางมากับเที่ยวบินนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้ เท่าที่ทราบ ความผิดเรื่องพกพาอาวุธปืนเข้าไปในสนามบินของญี่ปุ่น ถือว่าเป็นมาตรการที่เคร่งครัดพอสมควร ถึงแม้ว่าจะเป็นปืนแฟชั่น แต่ก็ถือว่าเป็นอาวุธปืนชนิดหนึ่ง

ทางด้านทีมงานของจ.ปทุมธานี ที่เดินทางร่วมคณะไปกับปลัดจังหวัด และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ มีรายงานว่า

ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีเพียงพล.ต.ท.คำรณวิทย์ คนเดียวที่ถูกเจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นกักตัวไว้ หลังตรวจพบอาวุธปืน ส่วนคนอื่นๆได้ขึ้นเครื่องบิน เดินทางมากับเที่ยวบินตามปกติ โดยการเดินไปดูงานการกำจัดขยะในครั้งนี้ ทางผวจ.ปทุมธานี ไม่ได้ร่วมคณะไปด้วยแต่อย่างใด

อีกทั้งมีรายงานว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะได้รับการปล่อยตัว ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้


 โดยได้แสดงเอกสารประจำตัวข้าราชการตำรวจ และเอกสารเกี่ยวกับอาวุธปืนที่ถูกต้อง พร้อมยืนยันว่าไม่มีเจตนานำขึ้นเครื่องบิน เพียงแต่ลืมนำไปสำแดงตามระเบียบปฏิบัติที่ถูกต้อง ประกอบกับเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ได้เข้าช่วยเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่น จนเกิดความเข้าใจ กระทั่งคลี่คลายไปได้ด้วยดีในที่สุด สำหรับความคืบหน้าจะมีการรายงานต่อไป หากพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ.

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์