มาม่า ขึ้นราคาครั้งแรกรอบ 10 ปี ซองละ 5 บาทเป็น 6 บาทรับปีใหม่

'มาม่า'ประกาศขึ้นราคาจากซองละ 5 บาท เป็น 6 บาท


มีผลมกราคมปีหน้า เผยเป็นการปรับราคาครั้งแรกในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่วิกฤตฟองสบู่แตก ปี'40 เตรียมส่งเรื่องให้ คน.อนุมัติ ชี้เหตุโลกร้อน แถมไบโอดีเซล ดันราคาน้ำมันปาล์ม-ข้าวสาลีเพิ่มกว่า 50-60% เชื่อเจ้าอื่นปรับตา

นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทไทยเพรซิเดนท์ ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา 'มาม่า' เปิดเผยว่า

บริษัทได้ตัดสินใจปรับเพิ่มราคาขายปลีกซองละ 1 บาท จากราคาขายปลีกเดิม 5 บาท เป็น 6 บาท หรือปรับขึ้นประมาณ 20% โดยจะนำเรื่องดังกล่าวแจ้งให้คณะกรรมการบริษัทรับทราบในวันที่ 15 ตุลาคม จากนั้นจะยื่นเรื่องขอปรับราคาไปยังกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ ส่วนราคาขายปลีกใหม่จะมีผลในต้นเดือนมกราคม พ.ศ.2551 เพราะต้องใช้เวลาในการแจ้งราคาใหม่ให้กับคู่ค้าทั้งร้านยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ทราบล่วงหน้า 1 เดือน ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม


นายพิพัฒกล่าวว่า การปรับเพิ่มราคาขายปลีกครั้งนี้ถือเป็นการปรับเพิ่มในรอบ 10 ปีหลังจากปรับราคาสินค้าครั้งล่าสุดจากซองละ 4.50 บาท เป็น 5 บาท เมื่อปี พ.ศ.2540 ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งช่วงนั้นต้นทุนการดำเนินงานปรับเพิ่มขึ้นจากการลอยตัวค่าเงินบาท


นายพิพัฒกล่าวว่า สาเหตุของการปรับราคาเป็นผลมาจากราคาวัตถุดิบหลักในการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 รายการ คือ


น้ำมันปาล์มและแป้งสาลีเพิ่มขึ้น 50-60% จากปัญหาโลกร้อนทำให้ผลผลิตในตลาดโลกลดลง และปัญหาโลกร้อนยังทำให้ความต้องการพลังงานทดแทนประเภทไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น จนผลต่อราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลก ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น 20% หรือเพิ่มจากเดิมอยู่ที่ 60% ของราคาขายเป็น 80% ของราคาขาย ซึ่งการที่มาม่าในฐานะผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งมากกว่า 50% ของตลาดรวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปรับราคาจะทำให้ผู้ประกอบการรายอื่นต้องปรับราคาด้วย หลังจากยำยำได้ยื่นเรื่องของปรับราคากับ คน.ไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

'สาเหตุหลักที่ต้องปรับราคาอีกครั้งในรอบ 10 ปี เป็นผลจากราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ไม่เกี่ยวกับภาวะถดถอย เพราะยิ่งเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้สินค้าขายได้ดีมากขึ้น เห็นได้จากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ตลาดโตได้ถึง 12% ถือว่าโตสูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน แต่ราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นทำให้เราอยู่ไม่ได้ แม้ว่าตลาดจะโตแต่เชื่อว่ากำไรจะลดลง'
 

นายพิพัฒกล่าวว่า ยังต้องติดตามสถานการณ์ราคาวัตถุดิบน้ำมันปาล์ม และ แป้งสาลีว่าจะมีการปรับเพิ่มหรือไม่

หากแป้งสาลีซึ่งปัจจุบันราคาได้ปรับเพิ่มมาเป็น 500 เหรียญต่อตัน จากเดิมราคาอยู่ที่กว่า 200 เหรียญต่อตัน มีการปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 1,000 เหรียญต่อตัน คงต้องมาพิจารณาเรื่องราคาอีกครั้ง แต่เชื่อว่ามีโอกาสน้อยที่ราคาวัตถุดิบจะปรับเพิ่มขึ้นมาในระดับนั้น นายพิพัฒกล่าวอีกว่า ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในช่วงสิ้นปี 2551 ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงมูลค่าได้มากกว่า 10%


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์