พักใบอนุญาตการบินต่อ30วัน ขู่วันทูโก-โอเรียนท์ไทยเสี่ยงหยุดบินถาวร

นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) กล่าวถึงผลการสอบสวนข้อเท็จจริงอุบัติเหตุอากาศยานในราชอาณาจักร

โดยเฉพาะความคืบหน้าในการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับสายการบินวันทูโก ที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 16 ก.ย.50 ที่ผ่านมาว่า จากการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด ทาง ขอ.ได้ข้อสรุปพบว่า เหตุการณ์ เครื่องบินสายการบินวันทูโกลื่นไถลจากรันเวย์ดังกล่าว เกิดจากความผิดพลาดของบุคคล “Human Error” เป็นกรณีหลัก โดยเฉพาะนักบินไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานของคู่มือความปลอดภัย ขณะเดียวกัน ในช่วงที่เครื่องบินลำดังกล่าวลงจอด พบว่ามีสภาพอากาศที่เลวร้ายด้วย

และยืนยันว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับสภาพของตัวเครื่องบินและมาตรการซ่อมบำรุงอากาศยานแน่นอน

ทั้งนี้ อุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินวันทูโกเที่ยวบินที่ OG 269 ลื่นไถล จากรันเวย์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 50 ทำให้ผู้โดยสาร ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเสียชีวิตรวม 89 คน เนื่องจากขณะที่เครื่องบินกำลังจะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตสภาพอากาศไม่ดี ทำให้ นักบินไม่สามารถนำเครื่องบินลงได้ต้องบินขึ้นอีกครั้งก่อนจะวนลงจอดอีกรอบ แต่ได้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นที่บริเวณปีกขวาก่อนจะลามจนเป็นเหตุให้เครื่องบินเกิดไฟไหม้ทั้งลำ 

นายชัยศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ ขอ. ได้สั่งพักใบอนุญาตรับรองการเดินอากาศ (AOC-Air Operator Certificate)

ในส่วนของการปฏิบัติการบินที่สายการบินโอเรียนท์ไทยและสายการบินวันทูโก เนื่องจากนำเครื่องบินแบบ MD80 ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการบินมาให้บริการกับผู้โดยสาร รวมถึงสายการบินวันทูโกยังให้นักบินมาปฏิบัติการบินเป็นระยะเวลาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทำให้ไม่มีระยะเวลาพักผ่อนที่เพียงพอจน ส่งผลให้ ขอ.สั่งพักใช้ใบอนุญาตผู้เดินอากาศ 30 วัน และสิ้นสุดในวันที่ 21 ส.ค.51  

เมื่อครบกำหนดการสั่งพักใบอนุญาต 30 วัน ทาง ขอ.ได้ตรวจสอบพบว่า ทั้งสายการบินโอเรียนท์ ไทย และวันทูโก ยังไม่มีการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ให้ได้มาตรฐานตามที่ได้ตั้งเงื่อนไขไว้

ดังนั้น ขอ.จึงได้สั่งพักใบอนุญาตเป็นครั้งที่ 2 ต่อออกไปอีก 30 วัน และจะสิ้นสุดในวันที่ 21 ก.ย.51 และหากครบกำหนดยังไม่ปรับปรุงให้ได้มาตรฐานอีก ครั้งต่อไปนี้ทาง ขอ.คงจะต้องเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการบินเป็นการถาวร ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น หากสายการบินโอเรียนท์ไทย และวันทูโกต้องการจะประกอบการบินก็ต้องมายื่นขออนุญาตประกอบการบินใหม่จาก ขอ. 

นายชัยศักดิ์ยังได้กล่าวถึงผลการประเมินการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยจากองค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FEDERAL  AVIATION ADMINISTRATION-FAA) ว่า

หลังจากที่องค์การบริหารการบินขอหารือและตรวจสอบการกำกับดูแลของ ขอ.ให้เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศหรือ ICAO เมื่อเดือน ก.ค.50 และได้ส่งคณะผู้แทนองค์การบริหารการบินฯเข้ามาติดตามการทำงานล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ส.ค.51 ได้ข้อสรุปว่า มาตรฐานการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยในการบินของไทย ยังไม่ต่ำกว่ามาตรฐานไอซีเอโอหรืออยู่ในประเภทชั้นที่ 1 (CATEGORY1)

“เดิมมาตรฐานการดูแลด้านความปลอดภัยของกรมขนส่งทางอากาศในช่วงที่ผ่านมา อยู่ในประเภทชั้นที่ 1 มาตลอด แต่หลังจากมีกรณีเครื่องบินตก และสายการบินมีปัญหาไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ องค์การบริหารการบินไม่มั่นใจในการกำกับดูแลของ ขอ.ทำให้ขอเข้ามาตรวจสอบ และยืนยันว่ามาตรฐานการกำกับดูแลของกรมยังได้มาตรฐานไอซีเอโอเหมือนเดิม ซึ่งส่งผลให้สายการบินไทยที่ทำการบินเข้าออกสหรัฐอเมริกาได้รับความมั่นใจในการปฏิบัติการบินจากสหรัฐอเมริกา”

อย่างไรก็ตาม หากประเทศไทยถูกจัดลดประเภทอยู่ชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นประเทศที่มีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยในการบินไม่ได้มาตรฐานไอซีเอโอ จะมีผลกระทบต่อการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินของสายการบินจากประเทศไทย

ที่ทำการบินเข้าออกสหรัฐอเมริกา ขณะที่สายการบินจากประเทศไทยจะถูกจับตามองเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยและอาจไม่สามารถทำการบินเข้าสหรัฐอเมริกาได้ โดย เฉพาะสายการบินไทยซึ่งอยู่ใน กลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์อาจถูกให้ออกจากกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์ด้วย ส่วนสาเหตุที่องค์การบริหารการบินเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยเพราะสหภาพยุโรป หรืออียูสั่งห้ามสายการบินภูเก็ตแอร์ทำการบินเข้าออกสหภาพยุโรปซึ่งปัจจุบันสายการบินภูเก็ตแอร์ สามารถทำการบินได้แล้ว.