พศ.เผยผลสอบพุทธิศักดิ์คลินิกไม่ผิด

พศ.เผยผลสอบพุทธิศักดิ์คลินิกไม่ผิด

ผลสอบ "พุทธิศักดิ์คลินิก" ไม่เอาผิด "หลวงพ่อเณร" แค่ว่ากล่าวตักเตือน ชี้ผู้ที่ทำพิธีเป็นเณรชาวมาเลย์บินกลับประเทศไปแล้ว ขณะที่เครือข่ายพลังต่อต้านฯผนึกกำลังกองปราบปราม เดินหน้าสอบข้อเท็จจริงตามกระบวนการทางโลก

วันที่ 8 เม.ย. นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เปิดเผยว่า สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์

ได้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่องการลงนะหน้าทอง (พุทธิศักดิ์คลินิก) มายัง พศ.แล้ว โดยสรุปว่า ผู้ที่ปรากฎในภาพว่ากำลังทำพิธีกรรมลงนะหน้าทองนั้นเป็นสามเณร และแม่ชี อุบาสิกา ที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย และขณะนี้ได้เดินทางกลับไปยังประเทศมาเลเซียหมดแล้ว ขณะที่พระครูถาวรพัชรโสภณ เจ้าคณะอำเภอศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ได้มีหนังสือตักเตือนไปยังพระครูไพบูลพัชรสุนทร (หลวงพ่อเณร) เจ้าอาวาสวัดซับอุดมมงคลธรรม ซึ่งเป็นวัดที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งกำชับให้กวดขันพระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนผู้มาปฏิบัติธรรมให้ตั้งอยู่ในสัมมาปฏิบัติ อย่าให้มีพฤติกรรมหรือประกอบพิธีกรรมใดๆที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่การพระศาสนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหนังสือจากสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ฉบับดังกล่าว ลงนามโดย พระเทพรัตนกวี เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์
 
ระบุว่า ได้ดำเนินการจัดให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่อง การลงนะหน้าทอง (พุทธิศักดิ์คลินิก) ของวัดซับอุดมมงคลธรรม ต.หนองย่างทอย อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ โดยได้นิมนต์เจ้าคณะพระสังฆาธิการ ประกอบด้วย พระเทพรัตนกวี เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ พระพิศาลพัชรกิจ เจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ พระครูวิสุทธิวาที ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอศรีเทพ พระครูถาวรพัชรโสภณ เจ้าคณะอำเภอศรีเทพ พระศุรีพัชโรดม รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ และเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ มาร่วมกันสอบสวนข้อเท็จจริง และมีพระครูไพบูลพัชรสุนทร เจ้าอาวาสวัดซับอุดมมงคลธรรม เดินทางมาให้ข้อมูลเมื่อวันที่ 3 เม.ย.2557 ที่ศาลาอนุสรณ์ครองราชย์ 60 ปี วัดมหาธาตุ อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์

ปรากฏข้อเท็จจริง ดังนี้ 1.การลงนะหน้าทองมีการดำเนินการในวัดซับอุดมมงคลธรรมจริง แต่เป็นกิจกรรมทางความเชื่อของแต่ละบุคคล ไม่ใช่กิจกรรมเสริมความงาม ไม่ใช่เรื่องของลูกค้ากับเจ้าของกิจการ การใช้ชื่อ “พุทธิศักด์คลินิก” จึงสื่อไม่ตรงกับพิธีกรรมที่เกิดขึ้น 2.พิธีกรรมที่เกิดขึ้นมาจากชาวต่างชาติที่เป็นสามเณร(คนปิดทอง) แม่ชี และอุบาสิกา (คนโดนปิดทอง) ร่วมกันทำในขณะนั้น และขณะนี้ได้เดินทางออกจากประเทศไทย กลับไปยังประเทศมาเลเซียแล้ว
 
ส่วนที่มีภาพพระครูถาวรพัชรโสภณ อยู่ในภาพข่าวนั้น พระครูถาวรพัชรโสภณ ชี้แจงว่า
 
เข้าไปในห้องที่ทำพิธีกรรมหลังจากพิธีกรรมดำเนินไปแล้ว ทั้งยังได้ว่ากล่าวตักเตือนให้ทราบถึงความถูกต้องตามระเบียบของคณะสงฆ์ไทย 3.ส่วนภาพบุคคลที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ที่กำลังปิดทองนั้น พระครูถาวรพัชรโสภณ ชี้แจงว่า เป็นสามเณรทั้ง 2 รูป และเป็นชาวต่างชาติที่มาขอบรรพชาเพื่อปฏิบัติธรรม โดยมีพระครูวิสุทธิวาที ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอศรีเทพ เป็นพระอุปัชฌาย์ อย่างไรก็ตาม ในส่วนการคณะสงฆ์ได้มีหนังสือแจ้งให้ทุกอำเภอทราบ เพื่อแจ้งให้ทุกวัดในเขตปกครองกำกับดูแลการพระศาสนาให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่าให้มีพิธีกรรม หรือเรื่องราวใดๆที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่การพระศาสนา และคณะสงฆ์

ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงยังระบุด้วยว่า พระครูถาวรพัชรโสภณ เจ้าคณะอำเภอศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ได้มีหนังสือตักเตือนไปยังพระครูไพบูลพัชรสุนทร

เจ้าอาวาสวัดซับอุดมมงคลธรรม ให้กวดขันพระภิกษุสามเณร และพุทธศาสนิกชนผู้มาปฏิบัติธรรมให้ตั้งอยู่ในสัมมาปฏิบัติ อย่าให้มีพฤติกรรมหรือประกอบพิธีกรรมใดๆที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่การพระศาสนา ทั้งพระครูไพบูลพัชรสุนทร ไม่ใช่ผู้กระทำหรือให้กระทำพิธีดังกล่าว ทั้งยังปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสในการว่ากล่าวตักเตือนแนะนำผู้ประกอบพิธีกรรมดังกล่าวแล้ว จึงเห็นสมควรยุติการตรวจสอบข้อเท็จจริง และยุติการดำเนินการอื่นใด แต่เพียงเท่านั้น

ด้านนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา

พระมหากษัตริย์ กล่าวว่า แม้การสอบสวนของทางฝ่ายสงฆ์จะสิ้นสุดแล้ว แต่กระบวนการทางโลกตามกฎหมายยังคงมีการสืบข้อเท็จจริงอยู่ โดยเฉพาะประจักษ์พยานที่เป็นภาพถ่ายที่หญิงสาวถูกมาร์กหน้าด้วยพระสงฆ์และ มีสายสิญจน์โยงไปที่เจ้าสำนัก ว่าจะมีส่วนเกี่ยวพันกับ เจ้าสำนัก ด้วยหรือไม่ หากผลการสอบสวนของกองปราบรามออกมาว่า เจ้าสำนักมีความผิดจริง บุคคลที่กระทำการสอบสวนจะต้องมีการรับผิดทางอาญาด้วยหรือไม่.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์