ทรงบริหาร พระวรกาย ได้นานขึ้น

นับเนื่องเป็นเวลากว่าสองสัปดาห์แล้วที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเข้ารับการรักษาพระอาการพระวรกายด้านขวาอ่อนแรง รวมถึงการอักเสบของพระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) ซึ่งคณะแพทย์ได้ถวายการรักษาจนพระอาการดีขึ้นอย่างมาก เช่นเดียวกับพระอาการประชวรของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ทรงรู้สึกพระองค์และขยับพระหัตถ์ พระกร และพระเพลาขวาได้บ้าง โดยที่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทุกศาสนา ได้ติดตามข่าวพระอาการด้วยความห่วงใย และร่วมตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ช่วยให้ทั้งสองพระองค์หายจากพระอาการประชวรโดยไว 


ในหลวงทรงยืนได้เองบางช่วง
 

ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ต.ค. สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 17 ความว่า วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ถวายตรวจทดสอบกำลังพระกล้ามเนื้อพระวรกาย กล่าวคือ พระกร (แขน) พระเพลา (ขา) และพระบาท ปรากฏว่าทรงมีพระกำลังมากขึ้นอีก มีผลให้ทรงยืนโดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยพยุงได้เป็นบางช่วง และทรงบริหารพระวรกายได้นานขึ้น จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน 


“พระพี่นาง” เปลี่ยนท่าประทับนั่ง
 

ขณะเดียวกัน สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 5 ความว่า วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รายงานว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเคลื่อนไหวพระเพลา (ขา) ขวาได้มากขึ้น คณะแพทย์ฯ ได้ขอพระราชทานให้ทรงเปลี่ยนพระอิริยาบถในท่าประทับ (นั่ง) บนพระแท่น (เตียง) บางช่วงเวลา ความดันพระโลหิตสูงขึ้นบ้าง คณะแพทย์ฯได้ถวายพระโอสถรักษาความดันพระโลหิตสูงด้วย รวมทั้งถวายการรักษาทางกายภาพบำบัด และเฝ้าติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน 



เสื้อเหลืองเรืองอร่ามศิริราช 


สำหรับการลงนามถวายพระพรของเหล่าพสกนิกรทั่วประเทศ ที่ขอให้ทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงหายจากพระอาการประชวรนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฉพาะที่ศาลาศิริราช 100 ปี รพ.ศิริราช ที่สำนักพระราชวังจัดสมุดไว้ให้มาลงนามถวายพระพรต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 16 นั้น ปรากฏว่า ตั้งแต่เวลา 05.30 น. วันที่ 29 ต.ค. ก็คลาคล่ำไปด้วยฝูงชนที่มารอลงนาม โดยส่วนใหญ่ที่มาก็พร้อมใจสวมเสื้อเหลือง เพื่อแสดงความจงรักภักดี และหลังลงนามถวายพระพรก็มายืนอ่านแถลงการณ์พระอาการของทั้งสองพระองค์ที่สำนักพระราชวังนำมาติดไว้ที่กระดาน พร้อมรับภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ มาแจกจ่ายเพื่อให้ประชาชนนำกลับไปบูชาด้วย


เทิด “พระพี่นาง” ทรงห่วงการศึกษา
 

ขณะที่ น.ส.เฟื่องฟ้า ประดิษพจน์ ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา ซึ่งนำคณะนักเรียนสตรีวิทยา มาลงนามถวายพระพร พร้อมกล่าวว่า สมเด็จย่าทรงเคยศึกษาที่โรงเรียนสตรีวิทยา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เคยเสด็จมาทรงเปิดพิพิธภัณฑ์สมเด็จย่า ซึ่งตั้งอยู่ในโรงเรียนสตรีวิทยา พระองค์เคยรับสั่งกับคณะครูอาจารย์ว่า ให้ทุกคนใส่ใจในเรื่องของการศึกษา เพราะเด็กเปรียบเสมือนอนาคตของชาติ ทั้งที่ผ่านมาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ยังทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ทุนการศึกษาของนักเรียนโรงเรียนสตรีวิทยามาต่อเนื่อง เมื่อทราบว่าพระองค์ทรงพระประชวร จึงอยากนำนักเรียนมาร่วมถวายพระพร เพื่อให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว 


เด็กชาวเขายกในหลวงทรงเป็นที่รัก


จากนั้นในช่วงบ่าย มีบุคคลสำคัญและคณะบุคคลเดินทางมาร่วมลงนามอีกเป็นจำนวนมาก อาทิ นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ คณะนักเรียนโรงเรียนวัดรางบัว เขตภาษีเจริญ นำพานดอกบัวมาทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. ประธาน คมช.พร้อมภริยา นายนิตย์ พิบูลสงคราม รมว.ต่างประเทศ

รวมถึงชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า มูเซอ กะเหรี่ยง ลีซอ เย้า ไทยใหญ่ จากโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์แม่จัน จ.เชียงราย

ได้นำไวโอลินมาบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ อาทิ ใกล้รุ่ง ลมหนาว และเพลงพื้นเมือง เพื่อถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ โดย ด.ญ.ยูดา ก๋วยยี อายุ 14 ปี ชาวไทยภูเขาเผาอาข่า กล่าวว่า อาศัยอยู่บนดอยตุง พ่อแม่มีอาชีพทำไร่ข้าวโพด และปลูกข้าว ทราบว่าทั้งสองพระองค์ทรงมีพระกรุณาต่อพสกนิกรชาวไทยภูเขาอย่างมหาศาล จึงตั้งใจว่าอยากจะมาลงนามถวายพระพรทั้งสองพระองค์ ขอให้ทั้ง 2 พระองค์ทรงหายประชวรไวๆ และไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ จะได้ดูแลพสกนิกรชาวไทยต่อไป เพราะกษัตริย์ดีๆ หาได้ยากมาก อีกทั้งพระองค์ทรงเป็นที่รักนับถือของชาวไทยมาก เรียกได้ว่าทรงเป็นวีรบุรุษของคนไทยทั้งชาติ



ชวนไทยทั่วโลกลงนามผ่านเว็บ
 

ส่วนนายนิตย์ พิบูลสงคราม รมว.ต่างประเทศ กล่าวหลังลงนามถวายพระพรว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้นำแถลงการณ์สำนักพระราชวังมาลงบนเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยที่อยู่ต่างประเทศสามารถติดตามพระอาการของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ที่ผ่านมามีกษัตริย์และเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆส่งพระราชสาส์นและสาส์นถวายพระพรแด่ทั้งสองพระองค์จำนวนมาก โดยเฉพาะสมเด็จพระราชินีนาถ อาลิซาเบธ ที่ 2 แห่งอังกฤษ ล่าสุดได้รับการประสานจาก รมว.ต่างประเทศ ของฝรั่งเศส ว่าจะเดินทางมาร่วมถวายพระพร ในวันที่ 30 ต.ค.นี้ สำหรับคนไทยในประเทศต่างๆ ขณะนี้สามารถร่วมลงนามถวายพระพรแด่ทั้งสองพระองค์ได้ตามสถานทูตไทยที่อยู่ในประเทศนั้นๆ หรือลงนามผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ 


ยอดลงนามถวายพระพรใกล้ 8 แสนราย
 

สำหรับบรรยากาศที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ เหล่าพสกนิกรยังคงปักหลักเฝ้ารอรับเสด็จกันอย่างเนืองแน่น โดยตั้งแต่ช่วงเย็นเป็นต้นมา มีพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จ เข้าเยี่ยมพระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ดังนี้ เวลา 18.30 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จมายังอาคารเฉลิมพระเกียรติ โดยทรงโบกพระหัตถ์ให้กับประชาชนที่มารอรับเสด็จ จากนั้นเวลา 19.05 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จมาถึงและทรงโบกพระหัตถ์แย้มพระโอษฐ์ให้ ซึ่งผู้รอเฝ้าฯต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญ และเมื่อถึงเวลา 20.00 น. ซึ่งสำนักพระราชวังปิดการลงนามประจำวันที่ 29 ต.ค. พบว่ามีผู้มาลงนามถวายพระพรทั้งสิ้น 51,249 ราย ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมด 16 วัน มียอดผู้มาลงนาม 791,764 ราย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์