หวั่นน้ำท่วมกรุง จับตาพายุช้างสาร

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมกรุงเทพฯและปริมณฑลเต็มพิกัด ส่วนพื้นที่ภาคกลางหลายจังหวัดยังถูกน้ำท่วมหนัก โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 ต.ค. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมคณะ เดินทางไปที่สำนักงานเขตลาดกระบัง เพื่อตรวจสอบและรับทราบปัญหาน้ำท่วม มีนายพรเลิศ พันธุ์วัฒนา ผอ.เขตลาดกระบัง ให้การต้อนรับและรายงานว่า ขณะนี้ระดับน้ำในคลองประเวศ กับคลองบุรีรมย์ สูงกว่าปกติ 15 ซม. ถนนหลายสายถูกน้ำท่วม เช่น ถนนคุ้มเกล้า ถนนราษฎรพัฒนา ระดับน้ำสูง 10-20 ซม. นาข้าวจมใต้น้ำ 115 ไร่ สวนผลไม้ 8 ไร่ หากพายุช้างสารพัดถล่มจะมีปัญหาแน่นอน

จากนั้นนายอภิรักษ์ พร้อมด้วย พล.อ.ธงชัย แฉล้ม เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ นำถุงยังชีพพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มอบให้กับราษฎรผู้ประสบภัยย่านถนนคุ้มเกล้า จำนวน 45 ชุด ยังความปลาบปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณแก่ ราษฎรผู้ประสบภัยเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ นายอภิรักษ์กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่ตะวันออกเต็มคูคลองแล้ว หากมีพายุพัดถล่มจะทำให้ระบายน้ำไม่ทันแถมพื้นที่เป็นที่ลุ่มต้องทำคันกั้นน้ำและเร่งสูบน้ำออกเพื่อแก้ปัญหาต่อไป

ด้าน พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญที่สุดเรื่องน้ำท่วมในพื้นที่ กทม.คือ การจราจร ทุกฝ่ายต้องเตรียมความพร้อมรับมือ ในชั้นนี้ได้มีการประสานงานของตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1 อย่างใกล้ชิด โดยมี ผบก.จร.เป็นแม่งานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขต กทม.และในเขตปริมณฑล บางช่วงที่มีน้ำท่วมขังบริเวณผิวการจราจรต้องปิดเส้นทางชั่วคราว จะมีการประชาสัมพันธ์ประชาชนให้รับทราบเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางจราจรจุดดังกล่าว

ที่ จ.นนทบุรี เวลา 14.30 น. พล.อ.บุญสร้าง เนียม ประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด ในฐานะประธานคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบอุทักภัย พร้อมคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมน้ำท่วมที่เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด มีนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผวจ.นนทบุรี กล่าวบรรยายสรุปว่า ปัญหาน้ำท่วมเกาะเกร็ด ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นรุนแรง แต่ก็ไม่ประมาท ได้เตือนให้ชาวบ้านติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด จากนั้น พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า พอทราบข่าวรู้สึกเป็นห่วงพื้นที่เกาะเกร็ด เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดนนทบุรี ที่ต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดี จึงเดินทางมารับทราบปัญหาเพื่อหาทางช่วยเหลือหากถูกน้ำท่วมฉับพลัน

ส่วน จ.อ่างทอง หลายพื้นที่เข้าสู่ภาวะวิกฤติ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาน้ำทะลักเข้าท่วมบ้าน เรือนในตัวเมืองอ่างทอง ทางเทศบาลเมืองอ่างทอง ต้อง นำเครื่องจักรกลและรถแบ็กโฮตักดินสร้างแนวคันป้องกันเพื่อไม่ให้น้ำทะลักท่วมตลาดและย่านธุรกิจ ขณะที่ทางจังหวัดได้ออกประกาศเตือนระบุปริมาณน้ำในปีนี้มีมากกว่าปี 2538 และ 2545 แน่นอน จึงขอให้ประชาชนเตรียม พร้อมรับมือ และจากน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่มานานทำให้ประชาชนไม่มีส้วมใช้ ต้องถ่ายใส่ถุงและแอบทิ้งให้ลอยน้ำ อีกทั้งชาวบ้านยังขาดน้ำกินน้ำใช้ แถมมีงูพิษหนีน้ำเลื้อยเข้าบ้าน อีกทั้งมีคนร้ายออกอาละวาดซ้ำเติม

จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา จนทะลักเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครนครศรีอยุธยา บางชุมชนถูกน้ำท่วมสูง ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครนครศรีอยุธยา ได้ประกาศเตือนผ่านสถานีวิทยุ 97.75 วิทยุชุมชนคนกรุงศรี ให้ชาวบ้านได้ระวังภัย และให้ขอให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยไปรับกระสอบทรายและกระสอบดินเหนียวเพื่อทำคันกั้นน้ำ

ขณะที่ จ.สิงห์บุรี น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ จนทะลักเข้าท่วมสถานที่ราชการและตลาดอินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี ถนนบางสายรถเล็กสัญจรผ่านไปมา ไม่ได้ ต้องใช้เรือพายและรถอีแต๋นสัญจรแทน ชาวบ้านพากันขนย้ายข้าวของไปไว้ในที่สูงกันโกลาหล เจ้าของเรือบางคนหัวใสนำเรือมารับจ้างเก็บค่าโดยสารคนละ 10 บาท ทำให้มีรายได้วันละ 2-3 ร้อยบาท ส่วนพื้นที่ อ.พรหมบุรี น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่ 1 ต.ปากบาง พื้นที่ต่ำบางแห่งระดับน้ำสูงถึง 1.30 เมตร

ด้าน จ.ชัยนาท เจ้าหน้าที่ได้ระบายน้ำทิ้งท้ายเขื่อนเจ้าพระยาถึง 2,522 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทำให้บ้านเรือนที่อยู่ท้ายเขื่อนบางจุดถูกน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต้องขนย้ายข้าวของไปอาศัยอยู่บนถนน ส่วน จ.อุทัยธานี น้ำป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งไหลบรรจบกับน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแม่วงค์ จ.นครสวรรค์ ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ อ.หนองฉาง กับ อ.สว่างอารมณ์ และ อ.เมืองอุทัยธานี แล้ว ขณะที่ จ.นครสวรรค์ น้ำในแม่น้ำ เจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมในเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ และอำเภอรอบนอกเป็นวงกว้าง เรือกสวนไร่นาจมอยู่ ใต้บาดาล ชาวบ้านพากันเดือดร้อนทั่วหน้า

ที่ จ.ปราจีนบุรี น้ำป่าที่ไหลทะลักท่วมถนนสาย 304 ช่วง กม.ที่ 13-18 และเขตอุตสาหกรรมกบินทร์บุรีกลับสู่ สภาพปกติแล้ว โดยน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ อ.บ้านสร้าง แทนทำให้หลายหมู่จมอยู่ใต้บาดาล คาดว่า อ.บ้านสร้างจะถูกน้ำท่วมหนัก เพราะรองรับน้ำจาก 3 จุดด้วย กันคือ น้ำที่ระบายจากกรุงเทพฯ ลงแม่น้ำบางปะกงผ่าน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา และน้ำจาก อ.ศรีมหาโพธิ ผ่าน อ.เมืองปราจีนบุรี เข้า อ.บ้านสร้าง กับน้ำจาก อ.กบินทร์บุรี ที่ไหลไปสมทบเช่นกัน ทางจังหวัดสั่งเตรียมพร้อมรับมือเต็มที่ มีการประกาศเตือนให้ประชาชนระวังภัยตลอด 24 ชั่วโมง

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนฉบับที่ 10 ว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน พายุไต้ฝุ่น ช้างสาร บริเวณประเทศลาวมีกำลังศูนย์กลางประมาณ 180 กิโลเมตร ทางตะวันออกของจังหวัดอุบลราชธานี มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงและเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยในแนวระหว่างจังหวัดมุกดาหาร กับอุบลราชธานีคืนเดียวกันนี้ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้มีฝนตกหนักและหนักมาก พายุลมแรง และเกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากก่อนภาคอื่นๆ จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและพายุลมแรง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พายุไต้ฝุ่น ช้าง สาร ได้อ่อนกำลังจากพายุระดับ 4 ลดเหลือระดับ 2 ที่ความเร็ว 154-177 กม./ชม. ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งที่เมืองดานัง ภาคกลางของเวียดนาม เมื่อเช้าวันอาทิตย์ ยังผลให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชก ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นจำนวนมาก ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ศพ บาดเจ็บกว่า 100 คน บ้านพังหลายพันหลัง เที่ยวบินในประเทศถูกระงับ 48 เที่ยว นับเป็นพายุที่รุนแรงสุดในรอบ 11 ปีของเวียดนาม ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้น ทางการเวียดนามได้รับมือโดยการอพยพประชาชนราว 180,000 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยใน 4 จังหวัดภาคกลางแล้ว นับเป็นการอพยพครั้งใหญ่สุดในรอบ 30 ปี นายเหงียน ซิงห์ หั่ง รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามแสดงความวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำในแม่น้ำที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และพื้นที่บริเวณใกล้ภูเขาอาจเกิดดินถล่ม

ด้านฟิลิปปินส์ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากพายุ ช้างสาร จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 76 คน และสูญหาย 68 คน จนถึงวันอาทิตย์ประชาชนนับล้านคน ในกรุงมะนิลา และรอบนอกยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และขาดแคลนน้ำสะอาด ขณะที่ประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย สั่งหน่วย กู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต และแก้ไขระบบไฟฟ้าเพื่อให้ ใช้งานตามปกติโดยเร็ว

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ