อึ้ง!แฉ“ฟอส”เป็นเกย์แต่ชอบสปาย-แม่โต้ไม่เคยใช้เงินเสี่ยอ้วน(คลิป)

      รายการข่าว อรุณอัมรินทร์ ทางช่อง อัมรินทร์ทีวี เปิดคลิปเสียง อดีตลูกน้องสาว "เสี่ยอ้วน" โผล่แฉ "ปมสังหารโหด" น้องฟอส และ น้องสปาย ลั่น คนรู้ทั้งภูเก็ตว่า "น้องสปาย" คบหากับ "เสี่ยอ้วน" ส่วนกับ "น้องฟอส" นั้นเคยยอมรับกับตัวเองว่า เป็นเกย์ แต่หากจะรู้สึกกับผู้หญิง จะรู้สึกแค่กับ สปาย คนเดียว กับผู้หญิงคนอื่นไม่รู้สึกอะไร ...คาดอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เสี่ยอ้วนเกิดความหึงหวง จนเกิดเหตุการณ์เลวร้ายนี้ขึ้น

ด้าน นายวราเทพ มาสูงเนิน หรือ อั้ม ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดใจผ่านทางโทรศัพท์ว่า ตนเป็นเพื่อนกับน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย และ นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอร์ช อายุ 20 ปีและน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย ที่จ.กาฬสินธุ์ตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ทราบเรื่องส่วนตัวของสปายว่า นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน ตามจีบ ทราบแค่ว่าสปายกับฟอร์ชไปทำงานที่ จ.ภูเก็ต หลังจากนั้นได้ย้ายไปทำงานที่ จ.นครปฐม

ส่วนนายสายันต์ ผู้ชี้เป้าให้เสี่ยอ้วนได้เข้ามาจีบตน เมื่อวันที่ 24 พ.ค.61 ด้วยวิธีการทักช่องแชทเฟซบุ๊กมาบอกว่า ชอบเพราะถูกชะตา พร้อมเล่าว่า ตัวเองมีอาชีพกรีดยางอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อพูดคุยได้ระยะหนึ่ง ตนเริ่มมีใจจนคบหากับนายสายันต์ แต่ไม่ได้นัดเจอ จนกระทั่งกลางเดือนมิ.ย. นายสายันต์กับครอบครัว 5 คน มาหาที่ จ.กาฬสินธุ์ อ้างว่า อยากเจอหน้าสัก 20 นาที แต่ในวันดังกล่าวเสี่ยอ้วนไม่ได้มาด้วย

ต่อมา นายอั้ม ส่งภาพตนที่ถ่ายกับสปาย คาดว่า คงนำมาจากเฟซบุ๊กตน แล้วมาถามว่า ผู้หญิงคนนี้คือใคร ใช่แฟนหรือไม่ ตนตอบไปว่า เป็นเพื่อนรักชื่อ สปาย หลังจากนั้น นายสายันต์มักจะถามถึงสปายพร้อมกับชมว่าสวยอยู่เป็นประจำ ช่วงนั้นรู้สึกแปลกใจจึงถามนายสายันต์ว่า ชอบสปายหรือไม่ แต่นายสายันต์ปฏิเสธ

หลังจากนั้น ตนก็บอกนายสายันต์ว่า สปายชวนไปเที่ยวไหว้พระที่เขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี ขณะนั้น นายสายันต์ ขอไปด้วยโดยนัดเจอกันที่สวนจตุจักร ระหว่างที่เจอกัน นายสายันต์ แยกตัวไปคุยโทรศัพท์ อ้างว่า คุยกับญาติ และระหว่างทางที่นั่งรถนายสายันต์ จะใส่หูฟังโทรศัพท์ตลอดเวลา พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ มากดถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ข้างทาง แล้วเก็บใส่กระเป๋า ซึ่งตนบอกให้ถอดหูฟัง เพราะไม่ชอบ แต่นายสายันต์ ก็ไม่ยอมถอด

จนกระทั่งมาถึงเขาชีจรรย์จุดเกิดเหตุ สปายกับฟอร์ช แยกกันไปถ่ายรูปไหว้พระ โดยนัดเจอกันที่จอดรถหน้าห้องน้ำ เมื่อตนเองมาถึง นายสายันต์ ได้แยกตัวขอไปเข้าห้องน้ำ ส่วนสปายและฟอร์ช ไปรอที่รถ ตนจึงไปเข้าห้องน้ำกับ นายสายันต์ เมื่อนายสายันต์ เข้าห้องน้ำเสร็จก็ยังไม่ยอมกลับไปที่รถพร้อมกับชวนตนไปซื้อน้ำมะพร้าว เมื่อเดินไปได้สักพักตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น วินาทีนั้นตนไม่เห็นคนยิง และไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เพื่อนจะถูกยิง

หลังเสียงปืนสิ้นสุดลง นายสายันต์ ไม่มีท่าทีพิรุธ หรือมีอาการผิดปกติที่ทำให้ตนรู้สึกสงสัยแต่อย่างใด ยอมรับว่า มารู้ความจริงเมื่อตำรวจ นำตัวไปสอบปากคำ และบอกว่า นายสายันต์ เป็นคนชี้เป้า นายอั้ม เปิดเผยกับทีมข่าว ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและสะอื้นร้องไห้ไปด้วยว่า ตนรู้สึกเสียใจและใจหายที่เสียเพื่อนรัก โดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาทำร้ายกันถึงขนาดนี้ และหากคนร้ายจะมาขอโทษ ตนไม่ให้อภัย เนื่องจากทำเกินไป จึงอยากให้เจ้าหน้าที่จับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด และอยากจะขอโทษเพื่อน เนื่องจากตนไม่ทราบจริงๆว่า นายสายันต์จะมาหลอก

-----------

อย่างไรก็ตาม นางสาววันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ แม่ของน้องสปาย โต้กรณีที่คนสนิทของเสี่ยอ้วนสารภาพเกี่ยวกับการโอนเงิน 1 ล้านบาท ให้ทางครอบครัวตนซื้อบ้านและรถนั้น ตนยืนยันว่าบ้านที่อยู่ทุกวันนี้ คือเงินของพ่อแม่ที่สร้างเสร็จตั้งแต่ 5 ปีก่อน ไม่เคยมีใครซื้อหรือมาสร้างให้ เพราะเกิดจากน้ำพักน้ำแรงจากการขายของที่ตลาดนัด ส่วนเงิน 1 ล้าน ยอมรับว่ามีการเสนอมาจริง

เปิดเผยว่า พ่อของน้องสปายก็ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเห็นภาพเก่า ๆ ของลูก ก็จะร้องไห้ตลอดเวลา ถึงแม้จะเป็นผู้ชายที่ดูเข้มแข็งแต่ร้องไห้เพราะรักลูกมาก อีกทั้งน้องแจมส์ พี่ชายคนโตของสปาย ทุกวันนี้ก็ยังช็อกกับเหตุการณ์ บางวันนอนละเมอตลอดว่า "น้องสปายยังไม่ตาย น้องยังอยู่" ซึ่งหลังจากนี้ ตนจะต้องพาน้องแจมส์ไปตรวจสุขภาพจิตด้วย ส่วนที่ตนต้องมานั่งอยู่ลานนอกบ้าน เพราะยังทำใจไม่ได้ ยิ่งเห็นสภาพในบ้าน เห็นรูปถ่ายหรือห้องนอนของสปาย ก็ยิ่งร้องไห้หนัก

นางสาววันเพ็ญ กล่าวต่อว่า ทางครอบครับเตรียมเดินทางไปที่จังหวัดชลบุรี เพื่อไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และสอบถามความคืบหน้าทางคดี ซึ่งอาจจะคุยกับครอบครับฟอสก่อนเดินทางไปพร้อมกัน ทั้งนี้ ขอขอบคุณสำหรับคนทำงาน ขอบคุณสื่อมวลชน ที่ช่วยติดตามทำข่าว ซึ่งส่วนตัวก็อยากให้คนร้ายที่ยิงลูกได้รับโทษสูงสุด เพราะคนอีสานเชื่อกันว่า "ยิงผู้หญิง ก็ไม่ต่างจากยิงหมา ที่ไม่มีทางสู้" ซึ่งตนอยากให้คนยิงได้รับโทษเหมือนกับน้องสปาย

นางสาววันเพ็ญ เล่าต่อว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้มีโอกาสวิดีโอคอลกับลูกสาว ที่กำลังไปเที่ยวที่ จ.ชลบุรี ซึ่งน้องก็บอกว่าอยากให้แม่มาเที่ยวด้วย จากนั้นน้องสปายก็ของลงจากรถไปเที่ยว ถ่ายรูปกับเพื่อน ซึ่งครั้งนั้นตนก็ไม่คิดว่าจะเป็นสายสุดท้ายที่ได้คุย ได้เห็นหน้าลูก โดยช่วงค่ำ ตนได้รับโทรศัพท์แจ้งว่างน้องสปายและน้องฟอสถูกยิงเสียชีวิต ตนแทบทำอะไรต่อไม่ได้ เพราะรู้ทั้งรู้ว่าก่อนหน้านี้ เสี่ยอ้วนพยายามตามง้อและขอให้สปายรับรัก แต่น้องไม่พร้อม เพราะอยากเรียน อยากใช้ชีวิตวัยรุ่น ซึ่งเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม น้องสปายกลับมาช่วยงานที่บ้าน แล้วเสี่ยอ้วนก็พยายามโทรศัพท์มาง้อ มาคุย และพูดคำช้ำเดิม ๆ ว่า จะขอแต่งงานกับสปาย แม่ก็พยายามเตือนลูกแล้ว แต่สปายก็มาขอกลับกลับไปทำงานที่ภูเก็ต เพื่อหาเงินให้กับที่บ้านอีกครั้ง

ซึ่งความฝันของน้องสปายตั้งแต่เด็ก คือ อยากให้พ่อแม่สบาย จะหาเงินมาสร้างบ้านหลังใหญ่ ซื้อรถหรู ๆ แต่ความฝันก็จบลง เพราะน้องจากไปแล้ว ซึ่งบ้านหลังที่อยู่นี้ก็สร้างขึ้นมาจากการทำงานหาเงินของพ่อแม่ ทุกห้องทุกมุมก็มีภาพความทรงจำที่เห็นสปาย แต่ตนแทบไม่อยากอยู่บ้านอีกแล้ว ตอนนี้ได้ปรึกษาญาติ เพราะอยากขายบ้าน ขายรถ ขายทุกสิ่ง แล้วไปอยู่ที่อื่น เพราะเป็นทางเดียวที่จะลืมเรื่องราวที่แสนเจ็บปวดนี้ได้

ขอบคุณ รายการ ทุบโต๊ะข่าว ,ข่าวอรุณอมรินทร์ AMARIN TVHD