เพลิงไหม้ปอ.538ผู้โดยสารกว่า50คนหนีตายอลหม่าน

ไฟไหม้ห้องเครื่อง รถปอ.538 ผู้โดยสารกว่า 50 ชีวิตวิ่งหนีตายอลหม่าน

เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำ โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้านคนขับระบุ ขณะขับขึ้นทางด่วนหลักสี่ไฟลุกจากห้องเครื่อง ลามห้องโดยสาร ด้านตร.คาดสิ่งแปลกปลอมอุดตันคอท่อไอเสนีย เตรียมเรียกคนขับรถสอบละเอียดอีกครั้ง


(25สค.) เวลา 08.45 น.

พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ภาษยะวรรณ สว.เวร สน.วิภาวดี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถโดยสารประจำทางบนทางด่วนโทลล์เวย์หลักสี่ ด้านหน้าอาคารจุฑามาศ ถนนวิภาวดีขาเข้า แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. จนทำให้การจราจรติดขัดจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธรณภัยบางเขน


เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถโดยสารประจำทางปรับอากาศสาย 538

สีฟ้า-ขาว ทะเบียน 12-8055 กทม. เลขข้างรถ 538-1 วิ่งระหว่างอนุสาวรีย์ชัยฯ-ม.ราชมงคล คลอง 6 จ.ปทุมธานี จอดอยู่ที่ขอบทางด้านซ้าย พบเพลิงกำลังลุกไหม้จากห้องเครื่องและลุกลามไปถึงห้องโดยสารด้านหน้าทั้งหมด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงใช้ค้อนทุบกระจกฝั่งคนขับ ระดมฉีดน้ำโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ โชคดีที่ไม่มีผู้โดยสารบาดเจ็บและเสียชีวิต


จากการสอบสวน นายคณาญา ทิพย์พันธุ์ อายุ 59 ปี คนขับรถโดยสารคันดังกล่าว ให้การว่า

ก่อนเกิดเหตุตนเพิ่งจะขับรถรับผู้โดยสารออกมาจากอู่แถว ม.ราชมงคลคลอง 6 จ.ปทุมธานี เป็นเที่ยวแรก พอตนขับรถขึ้นทางด่วนหลักสี่มาได้สักระยะ ก็ได้กลิ่นหม็นไหม้มาจากบริเวณห้องเครื่อง จึงได้รีบนำรถชิดขอบทางเพื่อตรวจสอบ แต่ขณะนั้นได้มีแสงเพลิงลุกออกมาจากห้องเครื่องและลุกลามเข้ามาในห้องโดยสารส่วนหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้โดยสารกว่า 50 คนรีบวิ่งหนีลงจากรถกันอลหม่าน


เมื่อผมตั้งสติได้จึงรีบนำถังดับเพลิงที่ติดอยู่บนรถมาฉีดจนหมดไป 1 ถัง

แต่ก็ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จนต้องวิ่งหนีลงจากรถเพื่อโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้มาช่วยเหลือ นายคณาญา กล่าว


ด้านพ.ต.ท.สืบศักดิ์ กล่าวว่า

จากการตรวจสอบในเบื้องต้นคาดว่าแสงเพลิงน่าจะเกิดจากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันบริเวณคอท่อไอเสียซึ่งยึดอยู่กับห้องเครื่อง เนื่องจากพบรอยไหม้จนคอท่อไอเสียขาด อย่างไรก็ตามต้องรอสอบสวนนายคณาญาอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง โดยหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้รถยกทำการลากรถโดยสารคันดังกล่าวลงมาไว้ที่ สน.วิภาวดี เพื่อเปิดเส้นทางการจราจรเรียบร้อยแล้ว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์