เส้นตาย! วัดใจ...เด็กกู้เงิน"กยศ." มีสำนึกใช้หนี้คืน?

ล่าสุด... "กยศ." ได้ออกมาตรการจูงใจให้ลูกหนี้ปิดบัญชี ด้วยการลดเบี้ยปรับ 100% และให้มาชำระหนี้ปิดบัญชีให้หมด จนถึง 30 ก.ย. นี้

เอาล่ะคร่า...เหลืออีกวันเดียวเท่านั้น ที่ใครหลายคนในแวดวงการศึกษา ต้องมานั่งลุ้นระทึกกันว่า บรรดา นักเรียน นักศึกษา ทั้งหลายแหล่ ที่เป็นหนี้ "กยศ." จะมีจิตสำนึกกันแค่ไหนเชียว?!?

เพราะ วันที่ 5 ก.ค.นี้ ถือเป็นวันเส้นตาย เป็นอันรู้กันว่า... "ลูกหนี้" ทั่วประเทศของ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ "กยศ." ต้องมาจ่ายหนี้คืนภายในวันนี้เท่านั้น...!!

แถม...บรรดา "ลูกหนี้" ทั้งหลายที่มีอยู่ ก็มีมากถึง 1.9 ล้านคนทีเดียว ที่สำคัญแต่ละคนก็เป็นหนี้กันอยู่คนละ 1-2 แสนบาท ซึ่งนับได้ว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อยทีเดียว

หากบรรดา "ลูกหนี้" เกิดความคิดจะ "เบี้ยวหนี้" ขึ้นมาล่ะก็...รับรองได้มีแต่ "เจ๊ง" กับ "เจ๊ง" เพราะเงินจำนวนมหาศาลเหล่านั้น...จะหายวับไปในบัดดลทันที...!!

แต่ที่ "ซวย" แล้วน่าเห็นใจมากที่สุด คงหนีไม่พ้น เด็กๆ น้องๆ นักเรียน นักศึกษา รุ่นต่อๆ ไป มากกว่า ที่จะไปหาเงินที่ไหนมาเรียนหนังสือ

ไม่เพียงเท่านี้...นอกจากไม่มีเงินเรียน ภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่อย่างนี้ ยังกลายเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงกับการทำมาหากินเข้าไปอีก

เรื่องราวอันสุดแสน "อมตะ" ของการทวงเงิน "กยศ." ไม่ใช่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก หรอกนะ แต่มีมาให้เห็นโดยตลอดแทบทุกปีของฤดูกาลชำระหนี้คืน คือ ทุกๆ วันที่ 5 ก.ค. ของทุกปี

ส่วน "กยศ." เอง ได้ออกมาตรการสารพัด ออกโฆษณามากมาย ออกแคมเปญทุกอย่าง เพื่อดึงดูด เพื่อจูงใจ ให้ลูกหนี้ทั้งหลายหันมาใช้หนี้คืนกันหน่อย

อย่างล่าสุด... "กยศ." ได้ออกมาตรการจูงใจให้ลูกหนี้ปิดบัญชี ด้วยการลดเบี้ยปรับ 100% และให้มาชำระหนี้ปิดบัญชีให้หมด จนถึง 30 ก.ย. นี้ แล้วยังอำนวยความสะดวกให้บรรดาลูกหนี้ ไปชำระหนี้ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสอีกต่างหาก...

แหม แหม แหม...!! สุดแสนจะอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่างแล้วนะเนี่ย ใครที่เป็น "ลูกหนี้" ก็ควรสังวรกันหน่อย เห็นใจกันบ้าง อย่าให้ "กิเลส" มาเข้าครอบงำ

แล้วทุกครั้ง ที่ "กยศ." ขยับเขยื้อนตัว ก็กลับกลายเป็นข่าวดัง เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมกันอย่างหนัก ไม่ว่าจะฟ้องศาล ไม่ว่าจะยึดทรัพย์ เด็กนักเรียน นักศึกษา หรือการใช้เครดิตบูโร เข้ามาเป็นกลไก เพื่อให้เกิดการใช้หนี้

ก็ถือเป็นเรื่องปกติของสังคมไทยนั่นแหล่ะ...หากเป็นเรื่องที่ดูเหมือนเป็นการรังแก เป็นการกลั่นแกล้ง "เด็ก" ก็มักถูกวิพากษ์วิจารณ์ ในทางเสียหายด้วยกันทั้งนั้น

แต่หากหันมามองในมุมกลับกัน ผู้ที่มีหน้าที่ ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ ให้ถูกต้อง ตามกฎ ตามระเบียบ เพราะไม่เช่นนั้น ตัวเองก็ต้องเข้าซังเตไปด้วยเช่นกัน ตามโทษฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157

ด้วยเหตุนี้...ใครที่เป็นหนี้ก็ต้องจ่าย การอ้างเหตุผลทางเศรษฐกิจที่ตกสะเก็ด แม้ดูแล้วเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ ก็ต้องมาเจรจาตกลงกันให้ชัดเจน เพราะใช่ว่าถึงกำหนด หากทำไม่ได้จะยึดทรัพย์อะไรเทือกนี้กันทันที แต่ "กยศ." เองก็มีการเจรจาปรับหนี้กันอยู่
ส่วนเหตุผลที่เกิดจากการ "ขาดความรับผิดชอบ" ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม เนี่ย !! ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยอย่างแรง โดยเฉพาะการ "จงใจเบี้ยวหนี้"

เรื่องนี้...เชื่อได้ว่า คงไม่มีใครปฏิเสธว่า...ลูกหนี้ประเภทนี้ ไม่มีอยู่ในโลก...เชื่อเถอะประเภทนี้มีอยู่มาก และอาจมีมากเกินไปด้วยซ้ำ!!

ทั้งที่หน้าที่ของ "กยศ." ก็เพื่อให้กู้ยืมเงินแก่นักเรียน หรือนักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการครองชีพระหว่างศึกษา

"กยศ." ได้เปิดให้กู้ยืมเงินเรียนกันมาตั้งแต่ปี 39 โดยให้กู้ตั้งแต่เด็กชั้นมัธยมตอนหลายเรื่อยไปจนถึงระดับปริญญาตรี เพราะหวังให้เยาวชนไทยได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเท่าเทียมกัน

แต่หาก "ลูกหนี้" ยังไม่มีจิตสำนึกที่จะเงินมาใช้หนี้ ก็เท่ากับว่าเป็นการปิดโอกาสให้กับเด็ก ให้กับเยาวชนคนไทย รุ่นใหม่ที่ไม่สามารถเข้ามาต่อยอด ไม่สามารถเข้ามาได้รับโอกาสอีกต่อไป

ต้องยอมรับว่าเงินที่ "กยศ." ได้รับ นั้นต้องจัดสรรมาจากงบประมาณในแต่ละปี ขณะที่ความสามารถในการบริหารจัดการของคน ของ "กยศ." เองอาจมีปัญหา จึงทำให้เรื่องราวของ "การเบี้ยวหนี้" เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

จะอย่างไรก็ตาม...โปรดจำไว้เถอะว่า หาก "ลูกหนี้" ยังจงใจ "เบี้ยวหนี้" อีกต่อไป ก็มีไม้เด็ดให้กรมสรรพากร แจ้งไปยังองค์กรนายจ้าง ให้หักเงินเดือน เพื่อนำมาใช้หนี้คืน!!

ดังนั้น...นอกจากจะเสียชื่อ เสียหน้าแล้ว ยังถูกสรรพากรตามติดไปตลอดอีกต่างหาก ในเมื่อเป็นหนี้... ก็ต้องใช้หนี้ อย่าบิดเบือน อย่าเฉไฉ อย่าให้ลูกหลานมาเรียกว่า เป็นคน "ขี้โกง"!!