โชเฟอร์ลีมูซีน โร่แจ้งความโดนรปภ. สนามบินสุวรรณภูมิ รุมทำร้ายเลือดอาบ

"โต้เถียงจนรุมทำร้ายกัน"


คนขับรถลีมูซีน บริษัทเอกชน รับส่งผู้โดยสารภายในสนามบินสุวรรณภูมิ แจ้งความสภ.ย่อยราชาเทวะ โดนเจ้าหน้าที่รปภ.ภายในสนามบินกว่า 20 คน รุมทำร้ายทุบตีศีรษะ จนเลือดอาบ แพทย์เย็บ 4 เข็ม ด้านรปภ.แจ้งความกลับ อ้างถูกทำร้ายร่างกายเช่นกัน

เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 15 ก.พ. ร.ต.ท.ศิริบัญชา ขอบใจ พงส. (สบ. 1 ) สภ.ย่อย ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งความ จากนาย พรพงษ์ พุทธทรัพย์ อายุ 40 ปี พนักงานขับรถลีมูซีน ของบริษัท แอร์พอร์ตแอทโซซีเอท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับส่งผู้โดยสารภายใน สนามบินสุวรรณภูมิ ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ว่าถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่อยู่ภายในสนามบินสุวรรรณภูมิ รุมทุบตี ทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและใบหน้า ต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล และแพทย์ได้เย็บที่บริเวณศีรษะด้านหลัง จำนวน 4 เข็ม

จากการสอบสวนนายพรพงษ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 23.00 น. ขณะที่ตนขับรถสีมูซีน ยี่ห้อเบนซ์ ทะเบียน ฌข 56 กทม.สีขาวของบริษัทดังกล่าว ไปเข้าคิว รอรับผู้โดยสารชาวต่างชาติ ที่ฝั่งประตูทาง 7 ของสนามบินสุวรรณภูมิ ตามปกติเช่นเดียวกับรถรับส่งผู้โดยสารคันอื่นๆ ระหว่างที่จอดรออยู่ประมาณ 5 นาที

"ผิดด้วยกันทั้งคู่"


มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในสนามบินสุวรรณภูมิคนหนึ่งเข้ามาสอบถาม เป็นรถรับส่งผู้โดยสารของบริษัทอะไร ตนจึงบอกว่าไม่รู้จักเหรอ อ่านเอาเองสิ หลังจากนั้นจึงเกิดโต้เถียงกันขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดังกล่าวไม่พอใจ และวิทยุเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอื่นๆ มาสบทบอีกประมาณ 20 กว่าคน

จากนั้นจึงลงมือรุมทำร้ายร่างกายและทุบตีเข้าที่ศีรษะและใบหน้าจนบวมปูด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดังกล่าว พยายามจะฉุดกระชากขึ้นรถกระบะที่จอดอยู่ แต่ตนกลัวพยายามดิ้นต่อสู้จนฝ่าวงล้อมมาได้ โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมายืนมุงดู และพูดห้ามปราม เป็นภาษาอังกฤษว่า หยุดได้แล้ว จนทำให้เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยดังกล่าวหยุดลงมือ จากนั้นเพื่อน พนักงานที่เห็นเหตุการณ์จึงวิ่งเข้ามาห้ามและรีบนำตนส่งโรงพยาบาล สิรินธร ซึ่งแพทย์ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนส่งไปเอ็กซเรย์อาการทางสมอง ที่โรงพยาบาลสินแพทย์

ด้าน ร.ต.ท.ศิริบัญชา กล่าวว่า หลังรับแจ้งความดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ในเวลา 02.00 น. ของคืนเดียวกัน คู่กรณีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็ได้เดินทางมาแจ้งความกลับในข้อหาทำร้ายร่างกายเช่นกัน โดยอ้างว่าคนขับรถพูดจาไม่สุภาพ จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงตกอยู่ในฐานะของผู้ต้องหาและผู้เสียหาย เบื้องต้นจะได้ทำการสอบปากคำให้ได้ข้อเท็จจริง ก่อนดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ มีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 295 ประมวลกฎหมายอาญาต่อไป

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์