แฉเสี่ยพลาดบึ้มตายเองพบมือถือพ่วงระเบิดมุ่งเป้าสังหารอัยการ

กองปราบฯ ร่วมคลี่ปมคดีระเบิดสปอร์ตไรเดอร์ฉีกร่างเสี่ยขายของเก่า

ค้นบ้านเจ้าแม่เงินกู้พบมือถือต่อพ่วงสายไฟและวงจรอิเล็กทรอนิกส์คล้ายทำระเบิดซ่อนอยู่ คาดเป้าหมายอยู่ที่อัยการ ที่โกรธแค้นจากเรื่องส่วนตัว พยานยันเห็นเสี่ยขับรถวน 2 วันแล้ว คาดหารถเป้าหมายวางระเบิด แต่พลาดมีคนโทรเข้าก่อน บึ้มฉีกร่างก่อนลงมือ ตร.เตรียมรวบคนใกล้ชิดเสี่ยของเก่า หลังพบหลักฐานเชื่อมโยง

ความคืบหน้าคดีคนร้ายวางระเบิดรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ สีบรอนซ์

ทะเบียน กฉ 9442 นครราชสีมา ที่หน้าบ้านพักข้าราชการสัสดี ติดกับจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จนเป็นเหตุให้ นายธนากร นีลมนต์ อายุ 42 ปี เสี่ยเจ้าของธุรกิจรับซื้อของเก่าใน อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา คนขับรถคันดังกล่าว เสียชีวิต พ.อ.ภัทราวุธ สุทธิรัตน์ และ พ.ต.หญิง นฤมล ทองวัชระไพบูลย์ ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ ผลการตรวจสอบรถยนต์คันเกิดเหตุพบระเบิดแสวงเครื่องแอมโฟร์ 3 ลูก ทำงานแล้ว 2 ลูก และอีก 1 ลูกยังไม่ระเบิด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมานั้น

สอบสวนทราบว่า เจ้าของรถ คือ น.ส.สมจิตร ทิพย์อาภรณ์ หรือ "เจ๊หงส์"

อายุ 48 ปี นักธุรกิจปล่อยเงินกู้รายใหญ่ใน อ.สูงเนิน ที่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับนายธนากร ผู้ตาย โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับรถเข้ามาจอดในจุดเกิดเหตุ และเข้าไปพูดคุยธุระกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่งภายในสำนักงานอัยการเขต 3 นครราชสีมา จากนั้นนายธนากรก็กลับลงมาขึ้นรถยนต์ ขณะกำลังเปิดประตูรถและเสียบกุญแจสตาร์ทเครื่อง ก็เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้นายธนากรเสียชีวิตทันที

ล่าสุด แนวทางการสืบสวนตำรวจในพื้นที่ได้จัดแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด

 ชุดแรกเข้าตรวจค้นบ้านพักของเจ๊หงส์ เลขที่ 446/104 หมู่บ้านกฤษดาการ์เด้นท์ ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ยึดรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีดำ ทะเบียน 3 ค 9632 กรุงเทพมหานคร ของนายธนากร ที่จอดอยู่ภายในบ้านมาตรวจสอบ พบภาพถ่ายรถยนต์ 5 รูป

ส่วนกำลังอีกชุดได้เข้าตรวจสอบบ้านอีกหลังหนึ่งของเจ๊หงส์

เลขที่ 296 หมู่ 13 หมู่บ้านหนองพิมาน ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ยึดรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า คัมรี สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กท 4325 นครราชสีมา ตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น 3310 ต่อพ่วงด้วยสายไฟและวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซุกซ่อนอยู่ตรงประตูรถด้านขวาหลังคนขับ โดยคาดว่าน่าจะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีจึงยึดไว้ตรวจสอบ พร้อมควบคุมตัวมาดำเนินคดีในข้อหาครอบครองเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการสอบสวน น.ส.สมจิตร ตำรวจได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์โดยอยู่ระหว่างการหาหลักฐานเพิ่มเติม 

 พล.ต.ต.อำนาจ อันอาตม์งาม ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา กล่าวว่า

จากการตรวจสอบรถยนต์คันเกิดเหตุ พบว่า ระเบิดเกิดขึ้นภายในรถแล้วเกิดประกายไฟ ซึ่งขณะเกิดเหตุคาดว่านายธนากรพยายามดิ้นรนหนีออกจากรถจึงเสียชีวิตอยู่ข้างรถในสภาพถูกแรงอัดของระเบิด ทำให้แขนซ้ายขาด เหตุการณ์นี้มีตัวเชื่อมโยงหลายประเด็น โดยเฉพาะระเบิดที่เกิดขึ้นในรถ ซึ่งคาดว่าระเบิดเป็นของผู้ตายเอง เพราะจากการตรวจสอบยังพบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการจุดชนวนของระเบิดอยู่ภายในรถ

ทั้งนี้ แนวทางการสืบสวนระบุว่า ระเบิดที่พบในรถยนต์คันเกิดเหตุเป็นระเบิดแสวงเครื่องแอมโฟร์

(แอมโมเนียมไนเตรทผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิง) จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีหลักฐานน่าเชื่อว่า ไม่ใช่ระเบิดที่หวังเอาชีวิตนายธนากร  แต่เป็นเพราะเกิดเหตุผิดพลาดทำให้ระเบิดทำงาน คาดว่านายธนากรเป็นผู้ถูกวานให้นำระเบิดมาเพื่อสังหารอัยการคนหนึ่งในสำนักงานอัยการเขต 3 นครราชสีมา ที่มีปัญหาขัดแย้งกับคู่กรณีซึ่งเป็นคนใกล้ชิดกับนายธนากร จึงได้ขับรถมาดูลาดเลาเพื่อหาทางวางระเบิด แต่เกิดเหตุผิดพลาดจึงทำให้ระเบิดทำงานขึ้นก่อน ซึ่งตำรวจกำลังเร่งสืบสวนคลี่คลายคดีนี้โดยเร็วที่สุด

ต่อมาเวลา 10.00 น. วันที่ 24 สิงหาคม

ชุดคลี่คลายคดีจากกองปราบปราม กอง 3 นำโดย พ.ต.อ.กิตติ ตะเภาทอง ผกก.กองปราบปราม และชุดสืบสวนคลี่คลายคดี 8 นาย ได้เข้าพบ พล.ต.ต.อำนาจ พ.ต.อ.กรกต สาริยา รอง ผบก.หัวหน้าทีมสอบสวน และ พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร หัวหน้าทีมสืบสวน รวมทั้ง พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ ผกก.สภ.อ.เมืองนครราชสีมา และ พ.ต.ท.ชลาสินธุ์ ชลาลัย รอง ผกก.ป.สภ.อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อร่วมกันคลี่คลายคดี

พ.ต.อ.กิตติ กล่าวว่า

จากการตรวจสอบหลักฐาน รถยนต์ที่ระเบิด และรถยนต์วอลโว่ของผู้ตาย รวมทั้งหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้ว พบว่า ประเด็นไปในแนวทางเดียวกับตำรวจนครราชสีมา โดยเฉพาะเกิดจากเรื่องส่วนตัว ซึ่งตอนนี้เราลงลึกประเด็นที่ผู้ตาย หรือคนใกล้ชิดมีปัญหากับใครบ้าง 

แหล่งข่าวจากชุดสืบสวน เปิดเผยว่า

จากการสอบพยานแวดล้อมและพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปแล้ว 14 ปาก รวมทั้งพบหลักฐานชิ้นสำคัญ ทั้งโทรศัพท์มือถือต่อชนวนและภาพถ่ายรถยนต์อีก 5 รูป คาดว่านายธนากรน่าจะได้ร่วมมือกับคนใกล้ชิดอีกราย วางแผนสังหารอัยการคนหนึ่ง ที่มีปัญหาขัดแย้งเรื่องส่วนตัว โดยอัยการได้นำรถยนต์ยุโรปหรูยี่ห้อหนึ่งของคนใกล้ชิดนายธนากรไปใช้ แล้วไม่ยอมให้คืน จนมีเรื่องร้องเรียนกัน แต่เรื่องก็ไม่ยุติ จนเกิดความแค้นอย่างหนัก จึงให้นายธนากรมาวางระเบิดเพื่อสังหารอัยการ โดยมาวนดูลาดเลาอยู่ 2 วันแล้ว ในวันเกิดเหตุได้ตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าเป้าหมายใช้รถคันใด ระหว่างที่กำลังจะขับรถออกจากที่เกิดเหตุ คาดว่ามีโทรศัพท์เข้ามายังเครื่องที่ต่อสายพ่วงไว้ จนทำให้โทรศัพท์ลัดวงจรระเบิดขึ้น

ด้าน พ.ต.อ.ถวาย บูรณรักษ์ ผกก.สภ.ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า

น.ส.สมจิตร ได้ให้ญาตินำหลักทรัพย์เป็นสมุดบัญชีเงินฝากจำนวนเงินในบัญชี 120,000 บาท มายื่นประกันตัวในข้อหาครอบครองเครื่องกระสุนปืน ซึ่งพิจารณาแล้วได้อนุญาตให้ประกันตัวไป จากนั้นชุดสืบสวนสอบสวนของ สภ.อ.เมืองนครราชสีมา ได้นำตัวไปสอบปากคำและหาหลักฐานเพิ่มเติมในคดีวางระเบิดรถยนต์ต่อไป