เหยื่อกระสุนทหารสลายม็อบนปช.เมื่อครั้งสงกรานต์เลือดปี’52 โวยกองทัพ ยื้อจ่ายเงินเยียวยา

เหยื่อกระสุนทหารสลายม็อบนปช.เมื่อครั้งสงกรานต์เลือดปี’52 โวยกองทัพ ยื้อจ่ายเงินเยียวยา


วันที่ 2 ม.ค. นายไสว ทองอุ้ม ผู้ชุมนุมเสื้อแดง ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกยิงเข้าที่ต้นแขนซ้าย กระดูกแขนหัก เส้นเลือดใหญ่ขาด 

จนแขนซ้ายลีบพิการ เมื่อเช้าตรู่วันที่ 13 เม.ย. 52 ในเหตุการณ์ชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2552 ที่สามเหลี่ยมดินแดง เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวเนื่องจากยังไม่ได้รับเงินเยียวยา โดยระบุว่า ตนเดินทางมาร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็น นปก.จนมาเปลี่ยนเป็นนปช. โดยขณะนั้นมี นายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นประธาน เพื่อร่วมขับไล่รัฐบาลทหารยึดอำนาจจากประชาชนเมื่อปี’49 ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 8-12 เม.ย. 52 ตนก็ไปชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล

จนถึงเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 13 เม.ย. นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท แกนนำนปช. ประกาศว่ามีกำลังทหารอยู่ที่สามเหลี่ยมดินแดง ต้องการชายฉกรรจ์จำนวนมากไปสกัด ตนจึงอาสาไปยังจุดเกิดเหตุ 

 “เมื่อถึงดินแดงปรากฏว่ายังไม่มีแกนนำ จึงพากันนอนพักผ่อนจนถึงเวลาประมาณ 04.00 น. แกนนำก็มาถึง ขณะนั้นเสียงปืนเริ่มดังเป็นชุดๆ ผู้ชุมนุมแตกกระเจิง มีเสียงหวีดร้องของผู้หญิงและเด็ก เมื่อมองไปบนท้องฟ้าเห็นแสงไฟจากกระสุนปืนจำนวนมาก และเห็นทหารพากันเดินหน้ากระดานเข้ามา พร้อมสาดกระสุนมาทางกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นระยะจนผู้ชุมนุมแตกกระเจิง ขณะนั้นผมถูกยิงเข้าใส่ต้นแขนซ้ายทะลุล้มลงเลือดท่วมตัวก่อนจะสลบไป จะมาฟื้นหลังจากนั้น 3 วัน ที่โรงพยาบาลราชวิถี” นายไสวกล่าว

 นายไสวกล่าวอีกว่า หลังจากนั้นจนถึงปัจจุบันแขนซ้ายที่ถูกยิงไม่สามารถใช้งานได้อีก พิการไปตลอดชีวิตเพราะกระดูกแขนแตก เส้นเลือดใหญ่ เส้นประสาทเสียหาย ส่วนกระสุนที่ยิงนั้นไม่ทราบว่าเป็นกระสุนชนิดใดเพราะทะลุออกด้านหลัง รูกระสุนออกเท่าลูกมะนาว ซึ่งแพทย์ระบุว่าเป็นกระสุนที่มีอานุภาพร้ายแรง ตัดเส้นเลือดสำคัญหลายจุด และต้องผ่าตัดต่อเส้นเลือดใหม่ทั้งหมดตั้งแต่หน้าอกไปจนถึงข้อมือซ้าย 

 นายไสวกล่าวว่า หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บ ตนมอบหมายให้ทนายความดำเนินการยื่นฟ้องแพ่งและอาญา ต่อนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุด ยื่นฟ้องกองบัญชาการกองทัพไทย ฟ้องพล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ อดีต ผบ.สส.และฟ้องกองทัพบก กรณีถูกเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนยิงบาดเจ็บสาหัส ซึ่งศาลตัดสินให้กองบัญชาการกองทัพไทย และกองทัพบก ร่วมกันชดใช้เงินให้กับตนจำนวน 1,200,000 บาท และชดใช้ให้ นายสนอง พานทอง ที่ได้รับบาดเจ็บจุดเดียวกัน เป็นเงิน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี 

 แต่ปรากฏว่าทางกองทัพยื่นอุทธรณ์การจ่ายเงินชดเชยดังกล่าวให้กับตนและนายสนอง จนถึงทุกวันนี้ไม่มีความคืบหน้า จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลชุดนี้ช่วยเหลือตนด้วย รวมทั้งขอร้องศาลให้เห็นใจตน เพราะทุกวันนี้ตนต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต

 นายไสวกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาตนก็ได้เดินทางไปร่วมร้องทุกข์และให้ปากคํากับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อเอาผิดกับนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ในข้อหาพยายามฆ่าจากเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย 

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์