สุดสลด!! หญิงชราวัย84ปี-อดอาหารตายคาบ้าน พุดเดิ้ล2 ตัวนั่งเฝ้า

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.ท.สมนึก  แก้วพูลศรี ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ

  ได้รับแจ้งมีหญิงชราเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านเลขที่ 18 / 109 หมู่ 3 ซอย 2 บุญศิริ ต.บางเมือง อ.เมือง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนมูลนิธิร่มมกุศลสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกสร้างอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด

ที่ประตูเหล็กรั้วบ้านถูกคล้องโซ่ล็อกด้วยกุญแจอย่างแน่นหนา  เจ้าหน้าที่ต้องให้มูลนิธินำคีมตัดเหล็กมาทำการตัดกุญแจ ก่อนเข้าตรวจสอบภายใน พบว่าประตูไม้ทางเข้าบ้านด้านข้างถูกปิดเอาไว้โดยมีเตาถ่านที่ทำด้วยปูนวางกันเอาไว้ที่หน้าประตู หน้าต่างด้านหน้าเปิดอ้าอยู่ เจ้าหน้าที่มองลอดเข้าไปทางช่องหน้าต่างพบศพนาง ศิริทรัพย์  (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 84 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน โดยมีสุนัขพันธ์พุดเดิ้ลสีขาว 2 ตัวนั่งเฝ้าอยู่

ภายในบ้านเกลื่อนกลาดไปด้วยอุจจาระของสุนัขทั้งสองตัวส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ
 
เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบภายในบ้านและตามลำตัวผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ในสภาพผอมโซคล้ายคนอดอาหารมาหลายวัน ไม่พบบาดแผลการถูกทำร้ายหรือร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด จึงมอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช


สุดสลด!! หญิงชราวัย84ปี-อดอาหารตายคาบ้าน พุดเดิ้ล2 ตัวนั่งเฝ้า

จากการสอบสวน นางวาสนา ศรีทอง ประธานชุมชนหมู่ 3 ต.บางเมือง
 
ซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้บ้านหลังที่เกิดเหตุ เล่าว่า ผู้ตายเป็นมารดาของนางบี (นามสมมติ) อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมีบ้านพักอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 4-5 วันก็จะกลับมาดูสักครั้งหนึ่งบางครั้งก็ครึ่งเดือน พร้อมทั้งซื้อข้าวสารอาหารแห้งมาใส่ตู้เย็นเอาไว้ให้ผู้ตายทำอาหารกินทุกครั้ง

ต่อมาทราบว่าเมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมา บุตรชายของนางบี วัย 16 ปี ล้มป่วยด้วยอาการทางสมอง โรคเลือดและตัวบวม
 
ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาฯ จึงไม่ค่อยมีเวลากลับมาดูแลผู้ตาย ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้ตายก็อยู่ที่บ้านหลังนี้กับสามีซึ่งเป็นอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนส่วนผู้ตายเป็นครูสอนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร แต่เกษียณอายุราชการมานานแล้วจึงกลับมาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวกับสามี แต่สามีเสียชีวิตลงเมื่อประมาณ 4-5 ปี ที่ผ่านมา ผู้ตายจึงต้องอยู่ที่บ้านหลังนี้เพียงคนเดียว โดยที่นางบี บุตรสาวจะเดินทางมาดูบ้างบางครั้ง

ซึ่งปกติแล้วในช่วงเย็นผู้ตายจะคลานออกมานั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน
 
แต่มาระยะหลังผู้ตายคลานออกมานอกบ้านและจำทางกลับไม่ได้ชาวบ้านต้องช่วยกันออกตระเวนหาจนพบตัว ทางลูกสาวจึงจำเป็นต้องล็อกประตูบ้าน เพื่อไม่ให้ออกไปไหน เกรงว่าจะหายตัวไปอีก

โดยก่อนเกิดเหตุ ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงไม่พบเห็นผู้ตายคลานออกมานั่งหน้าบ้านหลายวันจึงได้ปีนรั้วข้ามไปดู
 
พบว่า ผู้ตายนอนซมอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ไม่ยอมกินอาหาร ชาวบ้านต้องช่วยกันเอาน้ำมาหยอดใส่ปากให้ ตนจึงได้โทรศัพท์ไปบอกให้ลูกสาวผู้ตายทราบ แต่ช่วงสายของวันนี้ตนและชาวบ้านได้ปีนข้ามรั้วเข้าไปดูอาการของผู้ตายอีกครั้งพบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว

ด้านบุตรสาวผู้ตายกล่าวว่า  ตนไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยทิ้งให้มารดาอยู่เพียงลำพัง

หลังจากที่คุณพ่อเสียตนก็พยายามบอกให้มารดาไปอยู่กับตนที่อยุธยา แต่ผู้ตายไม่ยอมไป และจะอยู่ที่บ้านหลังนี้ ส่วนตนก็ไม่มีเวลาเพราะต้องทำงานและต้องกลับไปเฝ้าลูกชายที่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬา ตนจึงทำได้เพียงเทียวไปเทียวมาเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ทอดทิ้งตนกลับมาทุกครั้งก็จะหาซื้อข้าวสารอาหารแห้งมาเก็บไว้ให้มารดาทำกินทุกครั้ง

   

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์