สาวใจแตก! แฉชีวิตเฟะ ทำแท้ง2หน

ผกก.สน.ประเวศ เจ้าของ พื้นที่คลองบ้านม้า ขอบคุณ นสพ.ไทยรัฐเป็นสื่อตีแผ่


เพราะหลังเป็นข่าวไม่ปรากฏซากทารกลอยประจานแม่ใจโหดอีก เผยได้รับเบาะแสจากพลเมืองดีเป็นแหล่งทำแท้งเถื่อนใหญ่

แต่อยู่นอกเขตพื้นที่ความรับผิดชอบ ต้องประสานหน่วยอื่นที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง

ขณะเด็กสาววัยแค่ 17 ปี ออกมาเผยประสบการณ์รีดมารหัวขน 2 ครั้งซ้อน สะท้อนปัญหาสังคมปัจจุบันฟอนเฟะเกินเยียวยาแล้ว


ความคืบหน้าในการตีแผ่ปัญหาสังคม เกี่ยวกับเรื่องการทำแท้งเถื่อน


หลังพบซากทารกกว่า 30 ศพ ลอยอยู่ในคลองบ้านม้า ถนนกรุงเทพ-กรีฑา เขตบางกะปิ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายตื่นตัว โดยเฉพาะ พล.ต.ต. วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น.4 เจ้าของพื้นที่ สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนออกสืบหาสถานที่ทำแท้งเถื่อน

โดยเข้าตรวจค้น นัฐพรการแพทย์ ในซอยรามคำแหง 24/1 ก่อนประสานให้สถาบันนิติเวชวิทยาเก็บดีเอ็นเอจากซากทารกที่เก็บได้ นำไปตรวจเปรียบเทียบบุคคลต้องสงสัยที่ปรากฏชื่อในเอกสารที่ยึดมาจากคลินิกดังกล่าว เป็นแนวทางพิสูจน์ และดำเนินคดีแม่ใจร้าย

ขณะเดียวกันแพทยสภาระบุว่า ข้อบังคับในการทำแท้ง ถูกควบคุมอย่างเคร่งครัด พร้อมเตือนผู้ทำแท้งเถื่อน อาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต ตามที่ "ไทยรัฐ" เสนอข่าวไปตามลำดับ

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 2 พ.ค. พ.ต.อ.วีระศักดิ์ บูรพากาญจน์ ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยว่า หลังคลองบ้านม้า ตกเป็นข่าวมีการนำซากทารกมาทิ้ง ได้กำชับให้ฝ่ายสืบสวนเร่งค้นหาแหล่งต้นตอคลินิกทำแท้งเถื่อนในพื้นที่ และบริเวณใกล้เคียง

จากการตรวจค้นคลินิกเป้าหมาย พบว่า บางแห่งเลิกกิจการ บางแห่งเป็นสถานที่รับหญิงตั้งครรภ์ ส่งต่อให้สถานพยาบาลที่อยู่นอกพื้นที่ สำหรับเบาะแสที่ได้รับจากพลเมืองดีว่า มีแหล่งทำแท้งเถื่อนใหญ่อยู่ตามย่านชานเมือง เช่น สมุทรปราการ และนิคมอุตสาหกรรมนวนคร แต่เกินอำนาจขอบเขตของโรงพัก

ดังนั้นหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องร่วมมือเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง ขณะเดียวกัน ฝ่ายสืบสวนยังคงซุ่มโป่งจุดที่เชื่อว่าเป็นสถานที่ลักลอบนำซากทารกมาทิ้งอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ละเลย

อีกทั้งยังได้รับความร่วมมืออย่างดีจากชาวบ้านในชุนชน ต้องขอบคุณหนังสือพิมพ์ไทยรัฐที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัว เพราะหลังจากมีข่าว ไม่ปรากฏมีศพทารกลอยมาติดตามบ้านเรือนผู้คนอีกเลย


นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า


ผู้หญิงที่มีปัญหาการตั้งครรภ์ เป็นเพราะขาดข้อมูลด้านการคุมกำเนิด และเข้าไม่ถึงบริการคุมกำเนิด ต้องตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย สำหรับสังคมไทย ยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมากถึงเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ เพราะเกรงว่าหากมีการขยายโอกาสทางกฎหมาย

จะทำให้คนมีเซ็กซ์มากขึ้น ทำแท้งมากขึ้น ที่จริงแล้ว ประเทศที่มีกฎหมายเข้มงวดเรื่องการทำแท้ง ก็มิได้ทำให้ อัตราการทำแท้งลดลง กลับกลายเป็นกิจกรรมนอกกฎหมาย ต้องทำแบบหลบซ่อน สนนราคาจึงแพง และไม่ถูกสุขอนามัย นำไปสู่การบาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิต

อธิบดีกรมอนามัยกล่าวอีกว่า หลายปีก่อนมีการศึกษาในโรงพยาบาล 5 แห่ง พบว่ามีหญิง 968 คน ไปรักษาตัวเพราะได้รับอันตรายจากการทำแท้งผิดกฎหมาย ในจำนวนนี้เสียชีวิตไป 13 ราย

ขณะเดียวกัน มีหญิง 195 ราย ที่ได้รับบริการอย่างถูกกฎหมาย ทุกคนล้วนปลอดภัยดี นอกจากนี้ หญิงไทยที่ตั้งครรภ์เพราะไม่พร้อม จากการศึกษาพบว่าส่วนหนึ่งเข้าไม่ถึงบริการคุมกำเนิด

อีกส่วนหนึ่งคือคุมแล้วพลาด รวมทั้งไม่คาดการณ์ว่าจะมีเพศสัมพันธ์ จึงไม่ได้เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.กิ๊ก (นามสมมติ) วัยรุ่นวัยทีน อายุแค่ 17 ปี แต่ผ่านการทำแท้งมาถึง 2 ครั้ง หลังผิดพลาดตั้งท้องในวัยเรียน โดย น.ส.กิ๊กยอมเล่าถึงประสบการณ์บนเตียงขาหยั่งให้ฟังว่า ช่วงนั้นอายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านฝั่งธน ได้ไปสนิทสนมรู้จักเพื่อนชายอายุรุ่นราวเดียวกัน

แต่ระหว่างคบหาได้ 5 เดือน ความสัมพันธ์เลยเถิด เกิดมีเพศสัมพันธ์จนตั้งท้อง ส่วนเพื่อนชายไม่รับผิดชอบชิ่งหนีหาย พอพ่อแม่รู้เรื่อง ตัดสินใจพาไปทำแท้งที่คลินิกแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 12 มีหมอผู้หญิง อายุประมาณ 40 ปี เป็นผู้ตรวจพบว่าตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน ให้แม่เซ็นชื่อรับรองให้ทำแท้ง ตกลงราคา 3,000 บาท

จากนั้นหมอให้ดื่มยาขับแล้วพาขึ้นเตียงขาหยั่ง ใช้อุปกรณ์คีมคีบเหล็ก ตะขอปลายมนแหลม และเครื่องดูด ดึงทารกออกจากครรภ์ ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีก็เสร็จสิ้น รู้สึกเพลีย และเจ็บปวดมาก ต้องนอนพักอยู่ราว 20 นาที หมอถึงอนุญาตให้พ่อแม่พากลับบ้านได้


น.ส.กิ๊กเผยอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนั้น ผ่านไปแค่ ปีกว่าๆ


ได้รู้จักกับแฟนคนที่ 2 ครั้งนี้มีเพศสัมพันธ์กันโดยไม่สวมถุงยางอนามัยป้องกัน

พอรู้ว่าท้องได้ 2 เดือน จึงไปซื้อยาขับเลือดมาดื่ม แต่เด็กไม่ออก ตัดสินใจแอบไปหาหมอคนเดิมที่ซอยสุขุมวิท 12 อีกครั้ง

คราวนี้ต้องรอคิวอยู่นานเพราะมีหนุ่มสาว อายุระหว่าง 15-19 ปี หลายคู่ไปนั่งรอทำแท้งกันอยู่ พอทำเสร็จเดินทางกลับบ้าน พบว่ามีอาการตกเลือดอยู่หลายวัน ต้องใช้ผ้าอนามัยวางทับ ให้เลือดหยุดไหลไปเอง และไม่กล้าไปหาหมอ กลัวจะรู้ว่าไปทำแท้ง ต่อมาพ่อแม่ตนทะเลาะกัน

สาเหตุมาจากความประพฤติตน กลายเป็นปัญหาครอบครัว ทั้ง คู่แยกทางกันทิ้งตน และน้องชายอยู่ตามลำพัง ไม่มีใครสนใจ

แถมต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน หางานทำไม่ได้ ต้องเสี่ยงไปขายบริการกับคนมีเงินแบบชั่วครั้งชั่วคราว เพียงต้องการเงินไปใช้จ่ายในแต่ละวันเท่านั้น



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์