เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 12 สิงหาคม ร.ต.ท.วุฒินันท์ พรรณภักดี พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี
รับแจ้งเหตุรถยนต์ประสบอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้า จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนพระราม 4 ขาออก ก่อนถึงปากซอยโรงงานยาสูบ แขวงและเขตคลองเตย กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จราจร สน.ลุมพินี เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เขตคลองเตย มาทำการเร่งรัดแก้ไข
ที่เกิดเหตุเป็นบนพื้นผิวถนน บริเวณช่องทางที่ 2 พบรถยนต์หรูทรงคลาสสิค
ยี่ห้อมาเซลาติ รุ่นกรีลี่ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ฐต 7722 กรุงเทพมหานคร สภาพฝากระโปรงท้ายพังยับทั้งแถบ ล้อหลังด้านขวามุดเข้าไปใต้ท้องรถ ห่างไปประมาณ 5 เมตรบริเวณริมทางเท้าพบเสาไฟฟ้าหัก
ยี่ห้อมาเซลาติ รุ่นกรีลี่ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ฐต 7722 กรุงเทพมหานคร สภาพฝากระโปรงท้ายพังยับทั้งแถบ ล้อหลังด้านขวามุดเข้าไปใต้ท้องรถ ห่างไปประมาณ 5 เมตรบริเวณริมทางเท้าพบเสาไฟฟ้าหัก
นอกจากนี้ยังพบเศษกระจกแตกกระจัดกระจายเต็มพื้นผิวถนน ตรวจสอบทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
คือนายภูริธัญญ์ สินทวารยัน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/30-32 ถนนพลับพลาไชย แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของ บริษัท ห้างปารีส เซียน จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำยาซักผ้า "โฮม" มีบาดแผลแตกที่หางคิ้วขวา และมีรอยฟกช้ำ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู จึงได้รีบนำตัวส่ง รพ.กล้วยน้ำไท 1
คือนายภูริธัญญ์ สินทวารยัน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/30-32 ถนนพลับพลาไชย แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของ บริษัท ห้างปารีส เซียน จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำยาซักผ้า "โฮม" มีบาดแผลแตกที่หางคิ้วขวา และมีรอยฟกช้ำ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู จึงได้รีบนำตัวส่ง รพ.กล้วยน้ำไท 1
จากการสอบสวน นายภูริธัญญ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับรถเพื่อไปทำธุระส่วนตัวที่ห้างบิ๊กซี พระราม 4
โดยขับรถลงจากทางด่วนบ่อนไก่ มุ่งหน้าตลาดคลองเตย แต่ว่าช่วงเวลานั้นมีฝนตกหนัก รถได้เกิดเสียหลักหมุนเคว้ง ตนควบคุมรถไม่อยู่ ทำให้ท้ายรถไปกระแทกเข้ากับเสาไฟฟ้า ก่อนมารู้สึกตัวอีกทีเห็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิทำการช่วยเหลือไว้ได้
โดยขับรถลงจากทางด่วนบ่อนไก่ มุ่งหน้าตลาดคลองเตย แต่ว่าช่วงเวลานั้นมีฝนตกหนัก รถได้เกิดเสียหลักหมุนเคว้ง ตนควบคุมรถไม่อยู่ ทำให้ท้ายรถไปกระแทกเข้ากับเสาไฟฟ้า ก่อนมารู้สึกตัวอีกทีเห็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิทำการช่วยเหลือไว้ได้
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางตำรวจต้องรอให้ทางผู้ได้รับบาดเจ็บทำการรักษาตัวก่อนทำการสอบปากคำเพิ่มอีกครั้ง ก่อนมีการแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาท ทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
