รวบโชว์เฟอร์รถตู้หื่น

"โชเฟอร์รถตู้ หื่นข่มขืนสาวออฟฟิศ"



ข่มขืนยับเหยื่อสาว ชิงเงินสด-มือถือ ตร.รวบทันควันคอตกสารภาพแจ้งข้อหาหนัก

ทำฉาวอีกแล้วโชว์เฟอร์สายมีนบุรี-หมอชิตใหม่

สาวออฟฟิศไปหาพี่สาวขากลับขึ้นรถมหาภัยไอ้หื่นสบโอกาสผู้โดยสารคนอื่นลงหมดเหลือคนเดียว ซิ่งออกนอกเส้นทาง เหยื่อเห็นท่าไม่ดีโทรฯ หาพี่สาว แจ้ง 191-จส.100 ช่วยไม่ทัน โดนพาไปย่ำยี 2 ครั้งซ้อน

ริมถนนสายปทุมธานี-ศูนย์ศิลปาชีพ

ชิงเงินสด-มือถือแล้วถีบร่วงรถเผ่นหนี แต่เวรกรรมมีจริง ตร. ท้องที่ประสาน ศสส. ภาค 1 ตามรวบได้คาวิน ยังมั่วนิ่มปฏิเสธหน้าตาเฉย เผชิญหน้าเจ้าทุกข์ชี้ตัวคอตกสารภาพทำไปเพราะเมาอดใจไม่ไหวขาวอวบ แจ้งข้อหาหนักยัดซังเตทันที

โชเฟอร์มหาภัยขยี้ยับสาวออฟฟิศรายนี้

เปิดเผยเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 22 เม.ย. พ.ต.ท.ประสบสุข บรรสุทธิ สวส.สภ.ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี รับแจ้งจาก รปภ. บริษัท สยามไวท์เฮลท์ เทรดดิ้งพลัส จำกัด

ถนนสายปทุมธานี-ศูนย์ศิลปาชีพ

หมู่ที่ 4 ต.บาง กระแชง อ.เมือง ว่ามีหญิงสาวถูกคนร้ายพามาทำมิดีมิร้ายและชิงทรัพย์สินหลบหนีไป จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วพร้อมด้วยชุดสืบสวนและหน่วยกู้ภัยไปที่เกิดเหตุ



พบ น.ส.มิ้นท์ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี

ภูมิลำเนาอยู่ จ.บุรีรัมย์ และเป็นพนักงานฝ่ายธุรการของบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ กำลังนั่งร่ำไห้ริมถนน ผมกระเซิง เสื้อผ้า กระโปรงมอมแมมฉีกขาดและทั่วตัวมีร่องรอยถูกทำร้ายเขียวช้ำเป็นจ้ำ

โดย น.ส.มิ้นท์ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุ

ไปหาพี่สาวแถวมีนบุรีเพื่อเอาโทรศัพท์มือถือที่พี่สาวซื้อฝากไปให้บิดาที่ จ.บุรีรัมย์ เพราะตนจะต้องกลับไปผ่าตัดต้อกระจกที่บ้านเกิด ออกจากบ้านพี่สาวก็ขึ้นรถตู้ประจำทางสาย ต.16 มีนบุรี-หมอชิตใหม่ สีน้ำเงิน

ป้ายเหลืองหมายเลขทะเบียน 13-5303

จำหมวดจังหวัดและยี่ห้อไม่ได้ เพื่อไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ครั้งแรกนั่งเบาะหน้าคู่กับโชเฟอร์ ด้านหลังมีผู้โดยสารคนอื่นอีกหลายคน ระหว่างรถวิ่งผ่านถนนรามอินทราผู้โดยสารก็ทยอยลงจนหมดเหลือตนคนเดียว

จึงขอย้ายไปนั่งเบาะหลัง

เพราะเหม็นกลิ่นสุรา-เบียร์และไม่ชอบที่โชเฟอร์เหลียวมองด้วยสายตาหื่นกามบ่อยครั้ง ซึ่งรถตู้ได้เปลี่ยนเส้นทางและเลี้ยวขึ้นโทลล์เวย์ถนนวิภาวดีรังสิต จึงถามไปว่าทำไมไม่ไปหมอชิตใหม่โชเฟอร์ตอบว่าจะไปกลับรถ

จากนั้นไม่พูดอะไรและเร่งความเร็วลงโทลล์เวย์

เข้าถนนสายเชียงราก-ปทุมธานีผ่านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตและเลี้ยวไปจอดมุมมืดริมถนน



"หนูเห็นท่าไม่ดีรีบโทรศัพท์ไปบอกพี่สาวให้แจ้ง 191

และ จส.100 ให้ช่วยเหลือแต่ไม่ทันการ พอจอดรถได้โชเฟอร์ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงปีนข้ามคอนโซลรถมาหาหนูที่เบาะหลัง ขู่ห้ามขัดขืนและฉีกเสื้อผ้าขาดวิ่นแล้วลงมือทำมิดีมิร้าย 2 ครั้งซ้อน

พอหนำใจก็รื้อค้นเอาทรัพย์สิน

เงินสดติดตัว 1,300 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องแล้วลากตัวไปที่ประตูใช้เท้าถีบร่วงรถแล้วขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จึงขอความช่วยเหลือจาก รปภ.บริษัท สยามไวท์เฮลท์ เทรดดิ้งพลัส จำกัด ย่านใกล้เคียงให้แจ้งตำรวจ" หญิงสาวกล่าวพร้อมสะอึกสะอื้นอย่างน่าเวทนา

ภายหลังได้รับรายงาน พล.ต.ต. ประพันธ์ พานิคม

ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ประสาน พ.ต.อ.วิทยา ประยงค์พันธ์ รองผบก.หน.ศสส. ภาค 1 พ.ต.ท.พีระพันธ์ จันทร์เอี่ยม รองผกก. ศสส.ภาค 1 พร้อมชุดสืบสวนตามจับกุมโชเฟอร์หื่นกามได้ที่วินรถตู้หมอชิตใหม่ทราบชื่อว่า

นายสุเทพ หรืออุ๋ย บุญสม อายุ 25 ปี

ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ 2 ต.บ้านกร้าง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย พร้อมชุดที่สวมใส่ก่อเหตุเสื้อยืดสีดำ 1 ตัว กางเกงยีนขายาวสีน้ำเงิน 1 ตัว เงินสดของผู้เสียหาย 1,300 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องซ่อนในช่องแอร์หลังคารถตู้

รถตู้โตโยต้า ไฮแอท สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 13-5303

กรุงเทพมหานคร 1 คัน เบื้องต้นยืนกรานปฏิเสธ แต่พอผู้เสียหายมาชี้ตัวถึงกับคอตกรับสารภาพว่าเมาสุรา-เบียร์เห็นผู้เสียหายหน้าตาดีขาวอวบทนไม่ไหวจึงก่อเหตุขึ้น



ต่อมาเจ้าหน้าที่นำตัวโชเฟอร์มหาภัยให้

พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผบช.ภาค 1 พล.ต.ต.ชนินทร์ ปรีชาหาญ รองผบช.ภาค 1 ร่วมกันแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 1 โดยมีสื่อมวลชนทุกแขนงมาปักหลักรายงานข่าวกันเนืองแน่น

เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชนเป็นอย่างมาก

เสร็จสิ้นก็มอบให้พนักงานสอบสวน สภ.ต.สวนพริกไทย แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยาตน ทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ควบคุมตัวดำเนินคดีต่อไป

สำหรับคดีเกี่ยวกับโชเฟอร์มหาภัยเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง

โดยในวันที่ 28 ก.ค. 49 นายสุขุม อิบรอฮีม อายุ 36 ปีอยู่บ้านเลขที่ 305 ซอยอ่อนนุช 54 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กท. โชเฟอร์รถตู้สายอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต

พยายามลวนลาม น.ส.อนุสรา ก้อนทอง

อายุ 19 ปีนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะบริหารการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ แต่นักศึกษาสาวใจเด็ดตัดสินใจกระโดดลงจากรถบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางโทลล์เวย์ช่วงอนุสรณ์สถาน-รังสิต ซึ่งตำรวจตามจับกุมได้ในเวลาต่อมา

อีกรายเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 49 นายปอน เห็มสังหาร อายุ 39 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 13 ต.บ้านเดื่อ อ.เมือง จ.หนองคาย โชเฟอร์รถตู้สายน้ำโสม-อุดรธานี มอมยา นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ผู้โดยสารสาวสวย ลวงให้ดื่มนมกล่องผสมยานอนหลับแล้วพาไปทำมิดีมิร้ายในโรงแรม

ฉกทรัพย์สินและข้าวของมีค่าหลบหนีไป

นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์โชเฟอร์ลวนลามผู้โดยสารสาวน้อยสาวใหญ่อีกหลายครั้ง เป็นข่าวบ้างไม่เป็นข่าวบ้าง ผู้เสียหายส่วนใหญ่อับอายไม่กล้าแจ้งความ ทำให้โชเฟอร์มหาภัยได้ใจกล้าลงมือปฏิบัติการโฉดมากขึ้น.



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์