รวบสองผัว-เมียข่มชืนชิงทรัพย์นักธุรกิจสาวชาวญี่ปุ่น

จับสองผัวเมียบุกปีนบ้านนักธุรกิจส่งออกชาวญี่ปุ่นนายจ้าง


ผัวสารภาพสิ้นใช้คัตเตอร์จี้แต่เห็นเหยื่อใส่กางเกงในตัวเดียว เลยเกิดอารมณ์ ข่มขืนก่อนชิงทรัพย์เกือบแสนบาท ก่อนโทรศัพท์เรียกเมียมารับหน้าบ้าน หลังก่อเหตุหนีกบดานแม่ฮ่องสอน แต่ไม่พ้นถูกรวบตัวได้ทั้งคู่

(22มิย.) เวลา 10.00 น.

พล.ต.ต.พันธุ์วัฒน์ ศรีวาลัย รอง ผบช.ภาค 5 ได้แถลงข่าวการจับกุมนายสุทัศน์ ใจคะจัด อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 7 ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่และนางอังคณา ใจคะจัด อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/2 หมู่ 4 ต.ป่าบง อ.สารภี จังหวัดเชียงใหม่

สองสามีภรรยาผู้ต้องหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน

หลังถูกจับกุมได้พร้อมของกลางสร้อย คอทองคำขาวหนัก 1 บาท พร้อมจี้ราคา 35,000 บาท ,แหวนทองคำขาวหนักสองสลึง ราคาประมาณ 20,000 บาท 1 วง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง รวมมูลค่า 92,000 บาท และรถ จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่ารุ่นมีโอ สีน้ำเงิน 1 คัน

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมาเวลา 20.00 น.


ได้มีคนร้ายเป็นชายสวมชุดดำและหมวกไหมพรมเข้าไปข่มขืนก่อนชิงทรัพย์ นางยังโกะ คาซิ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ชาวญี่ปุ่นเจ้าของบริษัทธุรกิจส่งออกผ้าไหม เหตุเกิดในบ้านเลขที่ 275/50 หมู่ 4 ต.สันผักหวาน อ.หางดง จ.เชียงใหม่

หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.อ.หางดง ได้ออกสืบสวนหาตัวคนร้าย

กระทั่งทราบว่าคนร้ายคือนายสุทัศน์และนางอังคณา จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่และส่งเจ้าหน้าที่ออกติดตามจับกุม โดยทราบว่าหลังก่อเหตุทั้งสองหลบหนีไปเช่าหอพักอยู่ใน อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จึงติดตามไปจับกุมได้บนถนนบ้านใหม่ หมู่ 5 ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เมื่อกลางดึกวันที่ 22 มิ.ย.

จากการสอบสวนทราบว่า

นายสุทัศน์เคยรับจ้างติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในบ้านผู้เสียหาย ขณะที่นางอังคณาเป็นพนักงานในบริษัทของผู้เสียหาย โดยคืนเกิดเหตุนางอังคณาได้ขี่จักรยานยนต์มาส่งตนที่บ้านผู้เสียหาย ส่วนตนได้สวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้า ก่อนปีนเข้าไปบ้าน และใช้มีดคัตเตอร์จี้บังคับข่มขืนและบังคับให้บอกที่ซ่อนทรัพย์สิน ก่อนชิงเอาทรัพย์ผู้เสียหายหลบหนีออกมา

จากนั้นโทรศัพท์แจ้งให้ภรรยามารับที่หน้าบ้าน


โดยไม่บอกภรรยาว่าได้ข่มขืนเหยื่อก่อนชิงทรัพย์ นายสุทัศน์ สารภาพว่า ขณะเข้าในบ้านไม่ได้ตั้งใจข่มขืน แต่พบผู้เสียหายใส่กางเกงในตัวเดียวอยู่ในบ้านลำพัง จึงเกิดอารมณ์และใช้มีดคัตเตอร์จี้บังคับข่มขืนก่อนชิงทรัพย์ โดยตั้งใจนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายหาเงินใช้ ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุขโมยจากสวนสาธารณะห้วยตึง เฒ่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เมื่อปลายเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาและเปลี่ยนจากสีดำมาเป็นสีน้ำเงิน

พล.ต.ต.พันธุ์วัฒน์ กล่าวว่า

นายสุทัศน์มีประวัติอาชญากรรมหลายคดี นอกจากชิงทรัพย์และลักรถจักรยานยนต์แล้ว ก่อนหน้านี้ยังเคยถูกจับคดีมียาบ้าไว้ในครอบครองและได้พ้นโทษออก มาก่อคดีข่มขืนชิงทรัพย์ในครั้งนี้

ขณะที่นางอังคณา ปฏิเสธข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์

แต่รับข้อหารับของโจร โดยพฤติกรรมข่มขืนก่อนชิงทรัพย์นางอังคณาเพิ่งมารู้จากตำรวจหลังถูกจับกุม อย่างไรก็ตามจะมีการ ขยายผลไปยังคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์คดีอื่น ๆ ว่าสองสามีภรรยาคู่นี้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ .

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์