รวบทันควันมือยิงโชเฟอร์รถทัวร์ดับคาสายใต้ใหม่

จากกรณียิงอุกอาจนายประเทือง อินเรน พนักงานขับรถทัวร์ ของบริษัท ทรัพย์ไพศาลทัวร์ จำกัด วิ่งระหว่างกรุงเทพ-สตูล เสียชีวิต ที่บริเวณลานจอดรถสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ต่อหน้าต่อตาผู้โดยสารเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเมื่อเวลา  13.00 น. วันที่ 16 ธ.ค. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ 3 ราย ทราบชื่อนายนพดล หรือลาย กลัดแก้ว อายุ 36 ปี นายจิรพงค์ แจ้งเจริญ อายุ 31 ปี นายคณพล หรือดำ จิตต์ตรีมิตร อายุ 44 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนยี่ห้อบาเรตต้า ขนาด 9 มม. และกระสุนปืน ขนาด 9 มม. อีก 21 นัด และมีดปังตอ 1 เล่ม โดยจับกุมนายจิรพงค์ และนายคณพล ได้ที่ปั้มน้ำมันเอสโซ่ ย่านถนนกาญจนา และจับกุมตัวนายนพดลได้ที่ย่านบางบัวทอง นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 รายที่หลบหนีไปได้คือ นายสมพงษ์ หรือพงษ์ บัวบาน อายุ 37 ปี

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้สืบทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุ คือนายนพดล และพวก จึงได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี

โดยจับได้ 3 คน อีก 1 คน หลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ส่วนสาเหตุการสังหารในครั้งนี้เกิดจากความแค้นเนื่องจากผู้ต้องหาเคยถูกกลุ่มของผู้ตายรุมทำร้าย สอบสวนนายนพดล ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นนายตรวจของบริษัทศรีสุเทพทัวร์ เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนผู้ตายพร้อมกับพวกได้รุมทำร้ายเพื่อนของตนที่จ.พัทลุง สาเหตุเพราะแย่งผู้โดยสารกัน ตนมาเห็นจึงเข้าไปช่วย แต่ก็สู้กลุ่มของผู้ตายไม่ได้ เนื่องจากย่านนั้นเป็นถิ่นของผู้ตาย จึงเก็บความแค้นไว้ รอจนกระทั่งวันนี้ผู้ตายขับรถเข้ามาจอดที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ตนจึงได้พาพวกอีก 3 คน มาดักรอ เมื่อเห็นผู้ตายอยู่ในรถก็ไปเคาะประตูเรียก เมื่อผู้ตายลงจากรถมาได้ชกต่อยกัน ตนเห็นผู้ตายจะเดินไปหยิบมีดตรงที่รถจึงชักอาวุธปืนที่พกมายิงผู้ตายเสียชีวิต จากนั้นก็นำปืนไปซุกซ่อนไว้ในถังขยะด้านหลังขนส่งสายใต้ใหม่ ก่อนหลบหนีไปหาเพื่อนที่บางบัวทอง

จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายนพดลเคยมีประวัติต้องคดีข่มขืนกระทำชำเราในจ.จันทบุรี คดีพยายามฆ่าผู้อื่นที่สายใต้เก่า และคดีทะเลาะวิวาท

ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือก็ล้วนแล้วแต่เคยต้องโทษคดียาเสพติด โดยผู้ต้องหาที่หลบหนีตำรวจได้ตามไปค้นที่บ้านย่านบางบัวทองแต่พบว่าหลบหนีไปแล้ว ซึ่งจะเตรียมขออนุมัติศาลจ.ตลิ่งชันเพื่อออกหมายจับ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากนั้นได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

สำหรับรายละเอียดข่าวนี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 05.45 น. พ.ต.ท..ศิริพงษ์ เพื่อนสงคราม พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ตลิ่งชัน

รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิตภายที่ลานจอดรถสถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) ถนนบรมราชชนนีขาออก แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. จึงรุดไปที่เกิดเหตุ บริเวณด้านหน้า ซึ่งเป็นลานจอดรถชานชาลาที่ 5 ของผู้โดยสารขาเข้า เจ้าหน้าที่พบศพ นายประเทือง อินเรน อายุ 34 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่ 9 ต.ร่มเมือง อ.เมือง จ..พัทลุง สภาพศพ สวมเสื้อโปโลสีขาวลายทางสีฟ้า นุ่งกางเกงยีน นอนหงายจมกองเลือด อยู่บนพื้นข้างประตูด้าน ซ้ายของรถทัวร์ของบริษัท ทรัพย์ไพศาลทัวร์ จำกัด แบบวีไอพี 24 ที่นั่ง สีชมพู-ขาว ทะเบียน 13-5940 กทม.เลขข้างรถ 988-2 วิ่งระหว่างกรุงเทพ-สตูล มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .380 เข้าที่เนินหัวหน่าว 6 นัด หัวกระสุนทะลุไปออกที่ก้นตุงอยู่ในกระเป๋าหลังกางเกงยีน 3 หัว อีก 3 หัว ทะลุออกที่เอวขวา แต่ไม่พบหัวกระสุน และยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด .380 ตกอยู่ใกล้ศพ 6 ปลอก

จากการสอบสวน นายประพันธ์ เกื้อวงค์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 10 ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ให้การว่าขับรถเป็นคู่กะกับผู้ตาย มาประมาณ 4 ปี

ก่อนเกิดเหตุผู้ตาย ขับรถรับผู้โดยสารจาก จ.สตูล มาส่งที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ โดยขับมาคนเดียวไม่ได้ให้ตนเปลี่ยน ส่วนตนเองนอนหลับอยู่ในห้องด้านหลังเบาะคนขับ มารู้สึกตัวเมื่อผู้ตายนำรถเข้าเทียบท่าที่ชานชาลา 5 เมื่อเวลาประมาณ 05.45 น. จากนั้นผู้โดยสารก็ทยอยกันลงจากรถทางประตูด้านหลัง  ในระหว่างนั้นได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูรถด้านหน้าเรียกผู้ตาย แต่พอผู้ตายลุกจากเบาะคนขับไปเปิดประตูด้านซ้าย ก็มียินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดเมื่อลุกจากที่นอนไปดูก็พบว่าผู้ตายถูกยิงจนเสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุการตายในครั้งนี้ตนไม่ทราบจริงๆ ว่า ผู้ตายไปมีเรื่องกับใครเพราะตั้งแต่คบกันมาก็เห็นเป็นคนร่าเริงสนุกสนาน แม้จะเคยมีปากเสียงกับเพื่อนๆ ในกลุ่มคนขับรถทัวร์บ้างแต่ก็ไม่มีประเด็นใดที่ใหญ่หลวงถึงขนาดต้องเอาชีวิตกัน

นายเอ็ม (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า เห็นผู้ตายขับรถมาเทียบที่ชานชาลา โดยมีผู้โดยสารทยอยลงมาจากทางประตูด้านหลัง

ระหว่างนั้นเห็นคน ร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 25-30 ปี ผิวคล้ำ สูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมเสื้อคลุมลายพราง ทหาร นุ่งกางเกงยีน เดินไปเคาะเรียกผู้ตายที่ประตูหน้ารถ แต่พอผู้ตายลุกจากเบาะมาเปิดประตูให้ คนร้ายก็ชักปืนออกมากระหน่ำยิงใส่ทันที 6 นัดซ้อน ต่อหน้าผู้โดยสารที่กำลังกำลังตรวจสอบสัมภาระอยู่ข้างรถทัวร์คันดังกล่าว จากนั้นคนร้ายก็วิ่งหายไปทางอาคารรับผู้โดยสารด้านหน้าสถานีขนส่ง

พ.ต.ท.สุกิจ เปิดเผยว่า แนวทางการสืบสวนขณะนี้ได้ตังไว้  3 ประเด็น  คือ เรื่องชู้สาว เรื่องความขัดแย้เกี่ยวกับผลประโยชน์ของบริษัท และ ความขัดแย้งกันระหว่างผู้ตายกับพนักงานคนอื่นในเรื่องการเช็คยอดจำนวนผู้โดยสาร ซึ่งจะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป