รตต.เสียท่า โดนเมียราดน้ำยาล้างห้องน้ำ หน้าเละ !!

ร.ต.ท.คชภพ บุญอินทร์ พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.ประเวศ ได้รับแจ้งจากแพทย์ รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ถนนศรีนครินทร์ เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ว่ามีผู้ถูกทำร้าย โดนน้ำยาล้างห้องน้ำราดใบหน้าได้รับบาดเจ็บสาหัสไปรักษาตัว

เมื่อไปสอบสวน ทราบชื่อคนเจ็บ ร.ต.ต.ธีราวุธ นำพา อายุ 38 ปี ตำแหน่ง รอง สว.สตม. ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ในเบื้องต้น แพทย์แจ้งว่า

เหยื่อเคราะห์ร้ายมีบาดแผลไหม้ และพุพองตามใบหน้าและนัยน์ตาทั้งสองข้าง
ถูกฤทธิ์กรดกัดอย่างรุนแรงอาจถึงขั้นทำให้ตาบอดได้
แพทย์ อยู่ระหว่างนำเข้าห้องไอซียู เพื่อช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยยังไม่สามารถสอบปากคำผู้บาดเจ็บได้

ผู้นำส่งคือนางอลิสา โยธินวัชรชัย อายุ 49 ปี ภรรยาของผู้บาดเจ็บนั่นเอง นอกจากนี้ นางอลิสายังให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือใช้น้ำยาล้างห้องน้ำผสมโซดาไฟ ราดหน้าสามีของตัวเอง

เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 39/38 ซอยกรุงเทพกรีฑา 3 แยก 8 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน. โดยมีนายไพโรจน์ โยธินวัชรชัย อายุ 42 ปี น้องชายของนางอลิสาเดินทางไปร่วมฟังการสอบสวนด้วย

ว่าทำงานอยู่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และอยู่กินกับ ร.ต.ต.ธีราวุธสามีมานาน 12 ปี ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ไม่มีบุตรด้วยกัน

ส่วนสาเหตุที่ใช้น้ำยาล้างห้องหน้าราดหน้าสามีให้เสียโฉม เป็นเพราะความแค้นที่ถูกสามีรุ่นน้องบอกเลิก จะไปอยู่กินกับภรรยาคนใหม่ซึ่งเป็นตำรวจด้วยกันอย่างหน้าตาเฉย

พยายามอธิบายทุกวิถีทางที่จะให้สามีกลับใจมาใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันต่อไป เนื่องจากอยู่กินอย่างเปิดเผยมานาน เป็นที่รับรู้ของสังคม แต่ก็ไม่เป็นผล แม้จะโอนอ่อนผ่อนตาม

ขอร้องว่าถ้าจะไปอยู่กินกับภรรยาใหม่จริงๆ

ก็อยากให้กลับมาหากันบ้าง แต่ ร.ต.ต.ธีราวุธ ก็ยังยืนกรานขอแยกทางอย่างไม่เหลือเยื่อใย อ้างว่าถ้าไม่ไป ภรรยาใหม่ จะผูกคอตายประชด

เมื่อเห็นว่าไม่สามารถฉุดรั้งตัวสามีตำรวจให้อยู่กินต่อไปได้อีกแล้ว จึงเกิดความเจ็บแค้น มีความคิดชั่ววูบว่าในเมื่อไหนๆก็จะเสียสามีสุดที่รักไปแล้ว ก็อยากสั่งสอนให้จดจำไปตลอดชั่วชีวิต

ใช้น้ำยาล้างห้องน้ำราดหน้าให้เสียโฉม ไม่เหมือนกับครั้งที่อยู่กับตนเอง

แล้วใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่เหลืออยู่ครึ่งขวด เทราดใส่ใบหน้า แต่น้ำยาล้างห้องน้ำเกิดไหลเข้าตา ทำให้สามีสะดุ้งตื่น ดิ้นทุรนทุรายโอดโอยปวดแสบปวดร้อน จึงเรียกให้เพื่อนบ้านมาช่วยกันพาส่งโรงพยาบาล โดยนางอลิสายืนยันว่าไม่ต้องการให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส

หลังจากสอบปากคำแล้ว ได้แจ้งข้อหานางอลิสาฐานทำร้ายร่างกาย ผู้อื่นจนเป็นอันตรายสาหัส เบื้องต้นได้ทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือแล้วปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อรอเรียกตัวไปส่งฟ้องดำเนินคดีในภายหลัง

เนื่องจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัว

และเป็นผู้นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล รวมทั้งจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด เชื่อว่าไม่มีเจตนาจะหลบหนีส่วนสำนวนคดี รอสอบปากคำแพทย์ พยานที่ช่วยนำส่ง รพ.และผู้บาดเจ็บ ก่อนสรุปสำนวนฟ้องต่อไป

ล่าสุดยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู แพทย์ระบุว่าอาการดวงตาเริ่มมองเห็นแสงได้บ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถยืนยันว่าจะมองเห็นได้ตามปกติหรือไม่ รวมถึงใบหน้าที่พุพอง ก็ยังไม่รับรองว่าจะหายเหมือนเดิม

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ