ย้ายสว.จราจร สอบปล้นมือถือ

พาเหยื่อสาวชี้รูป หาตัวตร.ครึ่งท่อน



สั่งย้ายสารวัตร สน.คู่ขนานลอยฟ้า ที่ดูแลพื้นที่ด่านจราจรอื้อฉาว ปล้นมือถือสาวช่างเสริมสวย ให้มาช่วยราชการ 30 วัน

พร้อมทั้งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง

ผบก.จร.ย้ำต้องทราบผลภายใน 7 วัน เน้นทำด้วยความโปร่งใส ยุติธรรมแก่ทั้งฝ่ายผู้เสียหาย และตำรวจจราจร ไม่เข้าข้างพวกเดียวกัน ผิดว่าไปตามผิด ด้านผกก.สน.แสมดำ ชี้จุดเกิดเหตุห่างจากด่านเพียง 10 เมตร น่าสงสัย เตรียมเชิญผู้เสียหายชี้รูปอีกรอบ

จากกรณี น.ส.บังอร ชมพูวิเศษ อายุ 21 ปี

มีอาชีพเป็นช่างเสริมสวย เข้าแจ้งความตำรวจสน.แสมดำ ให้ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.จร. โดยระบุว่าเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนพระราม 2 ในท้องที่แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.

ถูกตำรวจจราจรกลางตั้งด่านตรวจ

แล้วแจ้งข้อหาพิลึก แต่งกายไม่สุภาพ ใส่กางเกงขาสั้น เดี๋ยวขาดำหมด ก่อนจะยึดเอาโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องไปด้วย ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.กฤษ วงษ์อินทร์ สว.งานสายตรวจ3กก.1 สน.คู่ขนานลอยฟ้า บก.จร.

ซึ่งดูแลรับผิดชอบการจราจรในจุดดังกล่าว

เรียกน.ส.บังอร มาดูและชี้รูปตำรวจจราจรทั้งหมด แต่ผู้เสียหายยังไม่แน่ใจ พร้อมทั้งยืนยันว่าหากผู้ใต้บังคับบัญชากระทำผิดจริง จะเอาผิดอย่างเต็มที่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น



ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.

พล.ต.ต.ปราโมช ปทุมวงศ์ ผบก.จร. กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.วัจนนท์ ถิระวัฒน์ รองผบช.น. ให้เร่งรัดสืบสวนข้อเท็จจริงออกมาให้สังคมทราบโดยเร็วที่สุด และรายงานผลให้พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น. ทราบทุกระยะ

และในเบื้องต้นเซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ

สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว โดยมีพ.ต.อ.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผบก.จร. เป็นประธาน พ.ต.ท.สมศักดิ์ เฉลิมฉัตร์ รองผกก.1บก.จร. และพนักงานสอบสวนอีก 2 นาย

ร่วมเป็นคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง

ให้ปรากฏโดยเร็ว ให้ทราบผลภายใน 7 วัน โดยให้แนวทางว่าจะต้องทำด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรมแก่ทั้งฝ่ายผู้เสียหาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรผู้ใต้บังคับบัญชา อย่าลำเอียงเข้าข้างพวกเดียวกันอย่างเด็ดขาด ผิดว่ากันไปตามผิด

พล.ต.ต.ปราโมชกล่าวต่อว่า

นอกจากนี้ยังเซ็นคำสั่งให้ พ.ต.ท.กฤษ วงษ์อินทร์ สว.งานตรวจ3กก.1 สน.คู่ขนานลอยฟ้า บก.จร. ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่การจราจรในเขตบก.น.7, บก.น.8 และบก.น.9 มาช่วยราชการที่บก.จร.มีกำหนด 30 วัน

หรือจนกว่าการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงจะเสร็จสิ้น

โดยให้พ.ต.ท.สมศักดิ์ เฉลิมฉัตร์ รองผกก.1บก.จร. ไปรับผิดชอบแทน เพื่อความโปร่งใสในการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ว่าจะไม่มีการช่วยเหลือพวกเดียวหรือสีเดียวกัน และเท่าที่รับรายงานเบื้องต้น



ทางสน.คู่ขนานลอยฟ้าให้ผู้เสียหายดูตัวตำรวจ

ที่เข้าเวรด่านตรวจในวันดังกล่าว จำนวน 18 นายแล้ว และยังให้ดูรูปภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลางที่อยู่ในพื้นที่ บก.น.7-9 จำนวน 100 กว่านายแล้ว แต่ผู้เสียหายยังไม่ยืนยันว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนายใด

ผบก.จร.กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม

มีข้อน่าสังเกตถึงเครื่องแต่งกายของชายที่เอาโทรศัพท์ไป โดยผู้เสียหายระบุว่าแต่งกายลักษณะครึ่งท่อน สวมรองเท้าคอมแบต ซึ่งเจ้าหน้าตำรวจจราจรที่เข้าเวรด่านตรวจ ถนนพระราม 2 หรือด่านอื่นๆ

จะไม่มีการแต่งเครื่องแบบครึ่งท่อนเด็ดขาด

และตำรวจจราจรทุกนายจะสวมใส่รองเท้าบู๊ตยาวถึงเข่าทั้งสิ้น จากกรณีนี้ จึงเร่งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนดำเนินการให้ความจริงกระจ่างออกมาโดยเร็วที่สุด

ด้านพ.ต.อ.ไพศาล คชทรัพย์ ผกก.สน.แสมดำ

กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการตั้งด่านตรวจของบก.จร.จริง ส่วนจุดเกิดเหตุห่างไปเพียงไม่ถึง 10 เมตร จากจุดตั้งด่าน มีอะไรให้สงสัย จึงสั่งเร่งสืบสวนสอบสวนคดีนี้เป็นอันดับแรก

เนื่องจากผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจ

ในชั้นนี้ทำหนังสือถึงบก.จร.ให้ผู้เสียหายไปชี้รูปตำรวจจราจรในสังกัด ว่ามีหรือไม่ แต่ที่ติดขัดคือตัวผู้เสียหายเวลาเชิญตัวมาไม่ค่อยจะมาพบ ทั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง ว่าจริงๆ แล้วมีความเป็นมาอย่างไรกันแน่



ส่วนพ.ต.ท.กฤษ วงษ์อินทร์ สว.งานสายตรวจ 3

กก.1 สน.คู่ขนานลอยฟ้า บก.จร. กล่าวว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 10 พ.ค. น.ส.บังอรเดินทางมาดูตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสงสัย ที่สน.คู่ขนานลอยฟ้า แต่น.ส.บังอรไม่ยืนยันว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ใดเป็นผู้ก่อเหตุ

ก่อนที่จะเป็นเรื่อง

ได้รับการติดต่อจากนายเสริมศักดิ์ คงสบาย ร้องเรียนว่าน้องสาวชื่อน.ส.บังอร ขับขี่รถจักรยานยนต์เจอด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.คู่ขนานลอยฟ้า หน้าปั๊มน้ำมันซัสโก้ ถนนพระราม 2

และถูกชายแต่งกายครึ่งท่อนคล้ายตำรวจ

บังคับเอาโทรศัพท์ไป 2 เครื่อง เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 พ.ค. จึงบอกว่าขอตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการตรวจสอบทราบว่า ตั้งด่านตรวจของสน.คู่ขนานลอยฟ้าจริงในวันเกิดเหตุ

โดยตั้งด่านตรวจตั้งแต่เวลา 10.00-12.00

วันที่ 8 พ.ค. มีร.ต.อ.พิสุทธิ์ สามารถ รองสว.เป็นหัวหน้าชุด มีกำลังเจ้าหน้าที่ 18 นาย

พ.ต.ท.กฤษกล่าวต่อว่า

หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แนะนำให้พาน.ส.บังอร มาพบเพื่อขอทราบข้อมูลรายละเอียด แต่นายเสริมศักดิ์บอกว่าไม่สะดวก จึงนัดมาพบเวลา 11.00 น. วันที่ 9 พ.ค. น.ส.บังอรให้ข้อมูลว่า



วันเวลาดังกล่าวขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน

ที่มหาชัย เมื่อถึงด่านมีตำรวจประจำด่านนายหนึ่งเรียกขอดูใบอนุญาตขับขี่ น.ส.บังอรบอกว่าไม่มี และไม่มีทะเบียนรถ รถเป็นของเพื่อนยืมมา ทางตำรวจขอตรวจสอบ

ว่ากล่าวตักเตือนและได้ปล่อยตัวไป

ตนสอบถามว่าตำรวจเรียกเงินหรือไม่ก่อนจะปล่อยตัวไป ก็บอกว่าไม่ได้เรียกเงินแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบตำรวจในสังกัด ทราบว่าได้เรียกตรวจและว่ากล่าวตักเตือนไป

สว.งานสายตรวจ3กก.1 สน.คู่ขนานลอยฟ้า

กล่าวอีกว่า หลังจากออกไปประมาณ 5 เมตร ใกล้กับทางออกปั๊มน้ำมัน มีชายแต่งกายครึ่งท่อนคล้ายตำรวจ เมื่อตนสอบถามว่าแต่งครึงท่อนเป็นอย่างไร ก็บอกว่ากางเกงตำรวจ เสื้อยืดสีขาวหน้าอกซ้ายสกรีนข้อความว่า

โปลิศ มีผ้าขาวคาดปิดจมูก

ใส่แว่นตาดำ รองเท้าเหมือนตำรวจทั่วไป ในมือถือใบสั่ง ชายผู้นั้นเข้ามาขอดูใบอนุญาตขับขี่ น.ส.บังอรบอกว่าไม่มี และขอตรวจกระเป๋าพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง



และใต้เบาะรถจักรยานยนต์พบโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง

ก่อนพูดจาลวนลามที่นุ่งกางเกงขาสั้น และพูดคุยในลักษณะต่อรองว่าจะเอาอย่างไรดี จากนั้นชายผู้นั้นถอดเอาซิมการ์ดโทรศัพท์ทั้ง 2 เครื่อง และยึดโทรศัพท์ไป

พ.ต.ท.กฤษกล่าวว่า ภายหลังจากทราบเรื่องราวโดยละเอียด

และสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ตั้งด่าน ก็ไม่มีใครเอาไป นายเสริมศักดิ์บอกกับตนว่า ในฐานะผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ จึงแนะนำให้ไปแจ้งความที่สน.แสมดำ ท้องที่เกิดเหตุ โดยให้ร.ต.อ.พิสุทธิ์

หัวหน้าชุดที่ตั้งด่านในวันนั้นพาไปแจ้งความ

ก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมไปแจ้งความ และตนก็ให้พาผู้เสียหายไปดูเหตุการณ์ในสถานที่จริง เพื่อทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ และในวันนั้นนัดผู้เสียหายมาพบตอนเช้า ก็มาเวลา 11.00 น.แล้ว และพูดคุยกันประมาณครึ่งชั่วโมง

อีกทั้งในวันนั้นจะต้องไปประชุมที่บก.จร.

จึงให้นามบัตรไป เพื่อความสะดวกในการติดต่อ แต่ปรากฏว่ามีนามบัตรของตนปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ทำให้สังคมเข้าใจว่าเป็นผู้ที่มีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์นั้น



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์