พระย่างเด็กเตรียมบินไปเขมร แต่ยังหวังกลับมาบวชใหม่

"ไปเขมรหวังกลับมาบวชใหม่"


พระย่างเด็กเตรียมนุ่งขาวห่มขาวบินไปปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์ที่เขมร หวังกลับมาขอบวชใหม่อีกรอบ ด้านตำรวจเรียกพ่อค้าน้ำปั่นและแม่ชีสอบเพิ่ม แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา

ความคืบหน้ากรณีพระประยงค์ ปริสุทโธ อายุ 60 ปี ที่นำศพทารกมาย่างและทำพิธีกรรมปลุกเสกเป็นกุมารทอง ยอมรับปากที่จะลาสิกขาภายใน 7 วัน กับพระครูโสภณบุญเขต เจ้าคณะอำเภอจตุรพักตรพิมาน และ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งล่าสุดพระประยงค์ ปริสุทโธ ยังคงอยู่ที่สำนักสงฆ์ในสภาพของสมณเพศเช่นเดิม


"กลับมาบวชขอเปลี่ยนนิกายเป็นธรรมยุต"


พระประยงค์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วไม่อยากสึก เพราะไม่ได้กระทำการอันใดที่เสื่อมเสียมากมายต่อวงการสงฆ์ ที่ทำไปก็เพราะถูกขอร้องจากญาติโยม ไม่เคยสำแดงตนในลักษณะต่างๆ เหมือนพระทั่วๆ ไป ซึ่งกรรมการปกครองสงฆ์เห็นว่าไม่ถูกต้องและขอให้ตนลาสึกครั้งนี้ มองว่ายังไม่สมควร แต่เพื่อความสบายใจจึงแจ้งความจำนงลาสึก อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา ได้ไปที่ร้านตัดเสื้อผ้าให้ตัดชุดขาวไว้แล้ว 2 ชุด

หลังจากสึกแล้วก็ยังจะปฏิบัติธรรมนุ่งขาวห่มขาวอยู่ที่นี่สักระยะ ก่อนที่จะเข้าไปอำเภอติดต่อขอทำบัตรประชาชนและทำพาสปอร์ต เพื่อเดินทางไปหาพระอาจารย์ที่ประเทศกัมพูชา ปฏิบัติธรรมอยู่ที่นั่นสักระยะจึงจะกลับมา หากมีการบวชเฉลิมพระเกียรติเพื่อในหลวง ก็จะเดินทางมาแจ้งความจำนงเข้ารับการอุปสมบททันที คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรที่จะเปลี่ยนจากมหานิกายไปเป็นพระฝ่ายธรรมยุต


"รอผู้เสียหายร้องทุกข์"


ส่วนที่ดินที่ใช้เป็นสำนักสงฆ์มีทั้งหมดประมาณ 30 ไร่ และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ภายในวัดจะมอบให้ญาติเป็นผู้ดูแลรักษาไว้ให้และใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมของชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาเช่นเดิม แต่จะไม่ให้คณะสงฆ์อื่นเข้ามาก้าวก่ายหรือใช้สถานที่โดยเด็ดขาด

ด้านความคืบหน้าของคดีนั้น พ.ต.ท.สงัด เอี่ยมทราย รอง ผกก.สส.สภ.อ.จตุรพักตรพิมาน ได้เรียกนายสุรัตน์ ทิพย์ดนตรี อายุ 37 ปี ลูกศิษย์ที่เป็นคนย่างศพทารก และแม่ชีศร สร้างถม มาสอบสวนเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติม ทั้งนี้ การส่งซากศพพิสูจน์นั้นต้องรอผลประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะทราบข้อเท็จจริง และนำมาประกอบสำนวนที่นายสุรัตน์ ชุ่มใจ พ่อค้าขายน้ำปั่น สารภาพว่านำศพทารกมาจากภรรยาตนเองและขุดจากป่าช้าวัดป่าอุดมไพรสณฑ์มา 2 ศพ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่นำชี้จุดที่ขุดแล้ว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตั้งข้อหากับใครได้ ต้องรอผู้เสียหายที่จะมาร้องทุกข์กล่าวโทษ เบื้องต้นมีวัดและ รพ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นผู้เสียหายเพราะศพนั้นมาจากโรงพยาบาลมาขอใช้สถานที่ในการขุดฝัง ตรงนี้เองถ้ามีผู้เสียหายและการวินิจฉัยเสร็จสิ้นก็น่าจะสามารถแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับคนที่เกี่ยวข้องได้


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์