พระตบต่อยแม่ชี ฉุนเดินผ่านไม่ยอมไหว้

แม่ชีแจ้งจับพระลูกวัดโหด แค่เดินผ่านไม่กราบไหว้ ตะโกนต่อว่า หาเรื่องขอดูบัญชีเงินฝาก พอถูกปฏิเสธตรงเข้ารำมวยไทยใส่ ตบต่อยเอาหัวโขก ไม่หนำใจกระโดดคร่อมบีบคอเอาหน้ากระแทกห้องน้ำก่อนผละไป ตร.ไปเรียกตัวพบหนีจากวัดแล้ว

เหตุพระตบตีแม่ชีรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม

ร.ต.ท.ธนาพล เมฆบุตร ร้อยเวร สภ.อ.นครไทย จ.พิษณุโลก รับแจ้งจาก แม่ชีพรนชล ชมพูปัน อายุ 53 ปี ที่ปฏิบัติธรรมภายในสำนักของแม่ชี วัดบ้านเข็ก หมู่ 12 ต.บ้านแยง อ.นครไทย ซึ่งเข้าแจ้งความในสภาพใบหน้าบวมปูด โดยขอให้ดำเนินคดีกับพระภิกษุน้อม ไม่ทราบนามสกุล พระลูกวัดเดียวกัน ในข้อหาทำร้ายร่างกาย

แม่ชีพรนชล ให้การว่า มาอยู่ที่วัดบ้านเข็กเพื่อปฏิบัติธรรมนานหลายสิบปีแล้ว

ส่วนเหตุเกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยตนออกจากห้องพักไปอาบน้ำ ที่ห้องน้ำหลังวัด ขณะเดินผ่านไปใกล้ศาลาการเปรียญได้พบกับพระน้อม ซึ่งนอนเล่นอยู่ในเปลข้างศาลา เมื่อเห็นตนเดินผ่าน พระน้อมที่อยู่ในอาการคล้ายกับเมา ได้ตะโกนว่า ทำไมเดินผ่านเฉยๆ ไม่ยกมือกราบไหว้ เป็นแม่ชีต้องไหว้พระทุกครั้งที่เดินผ่าน จึงตะโกนตอบไปว่า ไม่ได้ตั้งใจ เพราะมองไม่เห็น แต่พระน้อมก็ยังไม่เลิกรา ด่าว่าต่างๆ นานาตามมาอีกมากมาย ซึ่งตนก็ได้แต่เงียบไม่ตอบโต้ 

โดยอ้างว่าขอตรวจสอบว่ามีการยักยอกเงินของทางวัดหรือไม่ ซึ่งได้ปฏิเสธไปทั้งเรื่องการยักยอกเงินและการเอาบัญชีเงินฝากให้ดู เพราะพระน้อมเป็นแค่พระลูกวัด ไม่มีสิทธิในการตรวจสอบ เมื่อได้ยินคำตอบยิ่งทำให้พระน้อมบันดาลโทสะ ลุกขึ้นจากเปลเดินตรงมาทั้งตบและต่อยใบหน้าตนจนล้มลงกองกับพื้น

จากนั้นพระน้อมได้ตรงเข้านั่งคร่อมบีบคอจนเขียวช้ำ และจับใบหน้ากระแทกกับฝาและพื้นห้องน้ำหลายครั้ง

จนโหนกแก้มขวาแตกมีเลือดไหล ส่วนใบหน้า ศีรษะ ลำคอ มีร่องรอยฟกช้ำจากการถูกทำร้าย หลังจากตบต่อยจนพอใจ พระน้อมก็ผละไป ส่วนตนมีญาติโยมที่พักอยู่ใกล้วัดพาส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทย จนกระทั่งรุ่งเช้าจึงนำใบรับรองแพทย์เข้าแจ้งความดังกล่าว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และส่งตำรวจไปที่วัดบ้านเข็ก

เพื่อเชิญตัวพระน้อม มาสอบปากคำ แต่พบว่ากุฏิที่พักประตูห้องถูกปิดล็อกไว้ สอบถามพระลูกวัดรูปอื่นๆ ทราบว่า พระน้อมออกจากวัดไปแล้ว บอกว่าจะไปเยี่ยมญาติโยมในตัวเมือง ตำรวจเจ้าของคดีจึงออกหมายเรียกตัว เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาตามนัดก็จะขออนุมัติศาลออกหมายจับในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายต่อไป