ผัวหึงโหดยิงแสกหน้าฆ่าเมีย

เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 15 ธ.ค. พ.ต.ท.สยาม ลารังสิต สารวัตรเวรสภ.อ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งมีเหตุคนยิงกันตาย ที่บ้านเลขที่ 7 บ้านเต่านอ หมู่ 17 ต.ศิลา อ.เมือง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ร่วมกับแพทย์นิติเวช จากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ และมูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เมื่อเข้าไปในบ้านพบข้าวของแตกกระจายเกลื่อนพื้นห้อง ที่บริเวณหน้าห้องน้ำด้านหลังติดประตูหลังบ้าน พบศพนางสุมิตรา คนล้ำ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 17 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างเครื่องซักผ้า ในสภาพถูกยิงเข้าหน้าผาก 1 นัด ห่างกันเล็กน้อยพบร่างนายสุนทร คนล้ำ อายุ 34 ปี สามีผู้ตาย นอนจมกองเลือด ในสภาพมีอาวุธมีดปลายแหลมแบบทำครัวปักคาอยู่ที่หน้าท้อง มีร่องรอยถูกแทง 3 แผลลึกฉกรรจ์จนไส้ขาด เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ให้แพทย์ช่วยเหลือทำการรักษาช่วยชีวิต

ข้างตัวนายสุนทรพบอาวุธปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ตกอยู่ 1 กระบอก ตรวจสอบในรังเพลิงมีปลอกกระสุนปืนที่ยิงไปแล้ว 1 นัด ติดคาอยู่ นอกจากนั้นที่บริเวณหน้าบ้านยังพบปลอกกระสุนปืน เบอร์ 20 ตกอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นางเสงี่ยม ติวเฮียง มารดาผู้ตาย แม่ยายของคนเจ็บ ให้การว่า นายสุนทรทำงานเป็นพนักงานขับรถของบริษัท โทเทิ่ล แอคเซส คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือบริษัทดีแทค สาขาขอนแก่น ส่วนนางสุมิตราเป็นครูพี่เลี้ยงอยู่ศูนย์เด็กเล็กบ้านเต่านอ สองสามีภรรยาทั้งคนเจ็บและคนตายมีปัญหาครอบครัวด้วยเรื่องหึงหวง จึงตัดสินใจแยกกันอยู่ ฝ่ายสามีหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาว่าภรรยาจะไปมีแฟนใหม่ ส่วนภรรยาพาลูกชาย 2 คน ที่เรียนอยู่ชั้น ป.3 และ ม.2 ไปอาศัยอยู่บ้านแม่ แต่ระหว่างที่แยกกันอยู่สองสามีภรรยายังตัดกันไม่ขาด สามีจะมาหาภรรยาที่บ้านแม่ยายตลอด ส่วนภรรยาก็จะแวะไปดูสามีที่บ้านเป็นระยะมานานร่วมเดือน ฝ่ายภรรยาก็ยังไม่ใจอ่อนนำลูกกลับมาอยู่ที่บ้านด้วย

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา นายสุนทรมาหานางสุมิตราที่บ้านแม่ยายแต่ไม่พบ ทราบจากนางเสงี่ยม แม่ยายว่านางสุมิตราออกไปเที่ยวกับเพื่อน จึงเกิดอาการหึงหวง รีบโทรศัพท์ตามให้กลับบ้าน กระทั่งเวลา 01.00 น.นางสุมิตราขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจอดหน้าบ้าน นายสุนทรรีบกระโดดคร่อมหลังขี่รถคันดังกล่าวกลับไปยังบ้านตนเอง ตลอดทางนายสุนทรได้ซักไซ้นางสุมิตราเรื่องไปเที่ยวจนเกิดมีปากเสียงกันอย่างหนัก เมื่อมาถึงหน้าบ้าน ซึ่งห่างจากบ้านแม่ยายประมาณ 100 เมตร นายสุนทรรีบลงจากรถแล้วลากนางสุมิตราเข้าไปในบ้าน ก่อนจะใช้ปืนจ่อยิงนางสุมิตราไป 1 นัดแต่พลาดเป้า ด้วยความตกใจนางสุมิตรารีบวิ่งหนีไปหลังบ้าน

จากนั้นนายสุนทรจึงรีบใส่กระสุนใหม่แล้ววิ่งไปรวบร่างนางสุมิตราไว้ มือซ้ายกอดร่างเมียไว้ไม่ให้ดิ้นหลุด มือขวาใช้อาวุธปืนจ่อยิงเข้าแสกหน้า 1 นัดจนเมียเสียชีวิตคาที่ หลังจากยิงเมียแล้วนายสุนทรได้ทิ้งปืนไว้ข้างตัว แล้วไปคว้าเอามีดปลายแหลมที่วางอยู่ในห้องมาจ้วงแทงเข้าที่ท้องตัวเอง 3 ครั้ง เพื่อตายตามเมียจนไส้ขาด มีดปักคาท้องแต่ไม่เสียชีวิต

นางเสงี่ยมซึ่งเห็นลูกเขยและลูกสาวมาบ้านหลังเกิดเหตุ จึงวิ่งตามมาเพราะกลัวเกิดเหตุร้ายแต่ไม่ทันการณ์ เมื่อมาถึงบ้านลูกเขยได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด จึงร้องเรียกเพื่อนบ้านและญาติมาพังประตูบ้านเข้าไป พบลูกสาวถูกยิงตายคาที่ ส่วนลูกเขยใช้มีดปลายแหลมแทงที่ท้อง 3 แผล จนไส้ขาดอาการสาหัส จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ให้แพทย์รักษาช่วยเหลือชีวิตโดยด่วน

อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหานายสุนทร 2 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ส่วนศพผู้ตายได้นำไปชันสูตรที่แผนกนิติเวชก่อนมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป