ผวา! พบกลุ่มมือปืนรับจ้าง-ผู้ต้องหาคดีร้ายแรง หนีซุกป่าอุทยานฯลำน้ำน่าน

ผวา! พบกลุ่มมือปืนรับจ้าง-ผู้ต้องหาคดีร้ายแรง หนีซุกป่าอุทยานฯลำน้ำน่าน

ผวา! พบกลุ่มมือปืนรับจ้าง-ผู้ต้องหาคดีร้ายแรง หนีซุกป่าอุทยานฯลำน้ำน่าน

 เมื่อวันที่ 21 ต.ค. นายนวกฤษ์ เหงกะโทก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน ต.ผาเลือด อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์

พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน ออกตรวจสอบพื้นที่หมู่บ้านเรือนแพ ยึดอาชีพทำประมง อยู่โดยรอบเขตอุทยาน เตรียมจัดระเบียบการเข้ามาตั้งรกรากอยู่อาศัยส่วนหนึ่งเป็นราษฎรในจังหวัดอุตรดิตถ์และต่างจังหวัด พบมีการลักลอบนำทรัพยากรในพื้นที่อุทยานมาใช้ก่อสร้างแพอาคารไม้ ทำให้ไม้ป่าในอุทยานถูกทำลาย และมีแนวโน้มมากขึ้น สร้างผลกระทบกับอุทยานทางอ้อม หากมีคนเข้ามาอยู่มากขึ้น การระวังเรื่องสัตว์ป่า การตัดไม้ทำลายป่าปกป้องยากขึ้น ที่ผ่านมามีการบุกรุกสร้างแพในพื้นที่น้ำมากขึ้น นักลงทุนหน้าใหม่เข้าอยู่ในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต บางรายสวมสิทธิ์จากชาวบ้านที่อาศัยอยู่เดิม ยิ่งทำให้เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

 นายนวกฤษ์ กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน มีเนื้อที่ 624,468 ไร่ อยู่ในพื้นที่ 2 จังหวัด อ.เมือง จ.แพร่ และ อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์

มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ติดพื้นที่รอยต่อระหว่าง 3 จังหวัด อาทิ อุทยานขุนสถาน จ.แพร่ อุทยานศรีน่าน จ.น่าน และอุทยานลำน้ำน่าน จ.อุตรดิตถ์ พบการลักลอบล่าสัตว์ ลักลอบตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะอยู่ห่างไกลเข้าถึงลำบาก ต้องใช้ยานพาหนะทางน้ำโดยเรือ หากอุทยานมียานพาหนะทางน้ำ ก็สามารถตั้งจุดสกัดทางน้ำ เพื่อป้องกันปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์ ซึ่งเราต้องการยานพาหนะทางน้ำเสริมในการปฏิบัติหน้าที่ หากได้รับการสนับสนุนจากหน่วยเหนือจะทำให้การปฏิบัติหน้าที่คล่องตัวมากขึ้น
 
 “ล่าสุดรับแจ้งจากสายข่าวปกครองและตำรวจว่า พื้นที่โดยรอบของอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่านที่อยู่ห่างไกลออกไปและอยู่คนละฝั่งโดยเฉพาะแถบป่าดงดิบ มีกลุ่มบุคคลที่หลบหนีคดีอาชญากรรมในคดีร้ายแรง และเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีตามหมายจับ รวมไปถึงกลุ่มมือปืนรับจ้างและกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งอุทยานไม่มีภาระหน้าที่ต้องเข้าไปตรวจสอบพิสูจน์ เพราะเกินอำนาจที่จะเข้าไปดำเนินการได้ กลุ่มคนเหล่านี้เป็นกลุ่มคนที่มีกำลังติดอาวุธที่มีประสิทธิภาพ พร้อมที่จะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่มีกองกำลังตามประกาศกฎอัยการศึกเข้าดำเนินการ ซึ่งมีทหารและตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าสำรวจบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ว่า เป็นใครมาจากไหนอย่างไร และเข้ามาทำอะไรในพื้นที่ หากพบมีประวัติอาชญากรรมให้จับกุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมือง” นายนวกฤษ์กล่าว

 นายนวกฤษ์ กล่าวว่า เรื่องบูรณาการขึ้นทะเบียนทำประวัติบุคคลโดยรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์

ทั้งในเขตพื้นที่อุทยานและพื้นที่เขื่อนสิริกิติ์ จำเป็นต้องมีหลายหน่วยงานเข้าร่วมกันทำงาน อาทิ เขื่อนสิริกิติ์ อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน ปกครองอำเภอ สาธารณสุข ตำรวจและหน่วยงานด้านความมั่นคงโดยเฉพาะทหาร ตรวจสอบบุคคลที่อยู่อาศัยและครอบครองพื้นที่ทั้งบนดินและบนน้ำ รวมถึงราษฎรที่อาศัยอยู่บนเรือนแพและยึดอาชีพหาปลาในหมู่บ้านประมง ต้องนำมาตรวจสุขภาพจัดทำประวัติและขึ้นทะเบียนบ้านเรือนแพกันใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยทำประวัติมาก่อนเลย

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์