ผญบ.ใช้ไฟแช็กลนอวัยวะเพศเด็กวัย2ขวบอักเสบ

ผู้ใหญ่บ้านเล่นพิเรนทร์ ใช้ไฟแช็กลนอวัยวะเพศเด็กวัย 2 ขวบ จนอักเสบบวม ฉี่ไม่ออก แม่ร้อง จนท.บ้านพักเด็กฯ ช่วยดูแล เผยถูกข่มขู่ออกจากฌาปนกิจหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านอ้างทำเพราะรักเด็กแต่เผลอทำแรงไปหน่อย พร้อมรับผิดชอบรักษาจนหาย

เหตุการณ์ผู้ใหญ่บ้านใช้ไฟแช็กลนอวัยวะเพศเด็กวัย 2 ขวบ

เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม น.ส.อณิรา ธินนท์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่ามีผู้ใหญ่บ้านทำร้ายร่างกาย
ด.ช.ปฏิธาล เรือนเพชร หรือน้องไนท์ อายุ 2 ขวบ 4 เดือน อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 8 ต.ภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา

ด้วยการใช้ไฟแช็กลนอวัยวะเพศจนบาดเจ็บ

จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วยนางเจริญศรี ไชยขัติย์ นักพัฒนาสังคมบ้านพักเด็ก และพนักงานคุ้มครองเด็ก เมื่อไปถึงพบนางอาภรณ์ คิดหา อายุ 35 ปี มารดาของน้องไนท์ และนายเพิ่ม วงศ์ใหญ่ กำนัน ต.ภูซาง

นางอาภรณ์ แม่ของน้องไนท์ เล่าว่า

เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตนและพี่สาวคือ นางสุวรรณา เวณุจันทร อายุ 42 ปี พาน้องไนท์ไปทำกับข้าวและรับประทานอาหารมื้อเย็นที่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 10 ต.ภูซาง ซึ่งเป็นบ้านย่า และเป็นเวลาเดียวกันที่

นายวิไล วงศ์ใหญ่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10

ได้ไปเที่ยวบ้านดังกล่าวและหยอกล้อกับน้องไนท์ โดยใช้ไฟแช็กลนที่อวัยวะเพศ ทำให้ปลายท่อปัสสาวะและลูกอัณฑะด้านซ้ายเกิดเป็นแผลบวมแดง น้องไนท์ร้องไห้ไม่หยุดนานหลายชั่วโมง จากนั้นนายวิไลก็ออกจากบ้านไป และไม่สนใจที่จะติดตามดูแลอาการน้องไนท์อีกเลย

แม่ของน้องไนท์ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุได้ไปแจ้งเหตุกับกำนัน

ให้ทำบันทึกว่าลูกชายถูกผู้ใหญ่บ้านกระทำรุนแรงจนเกินกว่าเหตุ กระทั่งเช้าวันต่อมาต้องพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลเชียงคำ อ.เชียงคำ จ.พะเยา เนื่องจากไม่สามารถปัสสาวะได้เป็นเวลานานถึง 8 ชั่วโมง และเจ้าหน้าที่ประชาสงเคราะห์ของโรงพยาบาลแนะนำให้พาลูกชายไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับ พ.ต.ต.จำนง รวมจิตร สารวัตรเวร สภ.อ.ภูซาง

เพื่อนำมาเป็นหลักฐานประกอบการรักษา

โดยแพทย์แจ้งว่า หากยังไม่สามารถปัสสาวะได้อาจจะต้องผ่าตัดปลายท่อปัสสาวะ เพราะทุกครั้งที่ปัสสาวะน้องไนท์จะร้องไห้อย่างทรมาน จนถึงบัดนี้ก็ยังปัสสาวะไม่เป็นปกติ

นางอาภรณ์ กล่าวอีกว่า เมื่อเช้าวันที่ 25 พฤษภาคม

ได้ให้พี่สาวไปแจ้งกับนายวิไล ว่าจะต้องพาน้องไนท์ไปหาหมอ นายวิไลก็บอกว่าให้ไปที่ไหนก็ไปแล้วนำบิลค่ารักษามาเบิก ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้นายวิไลหาเงินมาให้ตนเพื่อใช้รักษาพยาบาลน้องไนท์ในเบื้องต้น 3,000 บาท แต่ก็ไม่ได้นำมาให้ด้วยตนเอง และยังขู่สัมทับว่าหากเอาเรื่อง จะตัดออกจากฌาปนกิจสงเคราะห์ของหมู่บ้านทุกอย่าง

ทั้งนี้ หลังรับฟังเรื่องราวดังกล่าว น.ส.อณิรา กล่าวว่า

ได้แนะนำให้นางอาภรณ์แม่ของน้องไนท์ ดำเนินการสองทางคือ ทำการรักษาทางร่างกาย และเร่งรักษาทางจิตใจ โดยการพาน้องไนท์เข้ารับการบำบัดทางจิตใจกับนักจิตวิทยา ทางบ้านพักเด็กฯ จะเป็นผู้ติดต่อประสานงานเพื่อความสะดวกในการเข้ารับการรักษา

สาเหตุที่ต้องเร่งรักษาด้านจิตใจของน้องไนท์

เนื่องจากว่าโดยทั่วไปสภาพจิตใจของเด็ก 0-6 ปี จะรับความรู้สึกที่ถูกกระทำอย่างฝังใจ หากเป็นการกระทำที่ทำให้กลัว หรือหวาดผวา กังวล และความเครียด อาจจะส่งผลกระทบถึงสภาพจิตใจของเด็ก เมื่อโตขึ้นจะมีจิตใจเป็นคนก้าวร้าว และกระทำความรุนแรงเช่นที่เคยได้รับซ้ำต่อคนอื่น

นอกจากนี้ ในส่วนของผู้กระทำคือนายวิไล

ทางชุมชนจะต้องร่วมกันตระหนักและย้ำให้ได้คิดว่าสิ่งที่ทำไปเป็นความรุนแรงที่เป็นความผิด ไม่ควรกระทำและต้องหยุดพฤติกรรมดังกล่าว ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปด้วย น.ส.อณิรา กล่าว

ส่วนนายวิไล ผู้ใหญ่บ้านที่ก่อเหตุใช้ไฟแช็กลนอวัยวะเพศ

ของน้องไนท์จนได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ที่ทำลงไปเพราะความรักเด็ก แต่อาจจะเผลอกระทำรุนแรงไป แต่เรื่องนี้น่าจะสามารถตกลงกันได้อย่างเรียบร้อย เพราะได้ยอมรับในความผิดที่เกิดขึ้น และพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง ในวันที่ 29 พฤษภาคม จะพาน้องไนท์ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีบุรินทร์ จ.เชียงราย จนกว่าอาการต่างๆ จะหายเป็นปกติ

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก