ทลายรังใหญ่ โรงผลิตซีดีผี

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ก.พ. พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปศท. แถลงการ จับกุมทลายแหล่งผลิตวีซีดี ดีวีดี ละเมิดลิขสิทธิ์และลามกอนาจารรายใหญ่

ผู้ต้องหา 6 คน คือนายอนุสรณ์ สาครเย็น อายุ 23 ปี นายณัฐกร นัดกล้า อายุ 19 ปี นายวิทย์ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี น.ส.แววตา ศิริคุณ อายุ 21 ปี น.ส.ชไมพร ปาละพันธ์ อายุ 18 ปี และ น.ส.ดาว (นามสมมติ) อายุ 15 ปี พร้อมของกลางรถเก๋งวอลโว่ 940 สีเทาดำ ทะเบียน ศท 940 กรุงเทพมหานคร เครื่องไรท์แผ่นดีวีดีและวีซีดี 20 เครื่อง หัวไรท์ จำนวน 200 หัว สามารถก๊อบปี้แผ่นดีวีดีได้ชั่วโมงละ 4,000 แผ่น แผ่นวีซีดีภาพยนตร์ไทยเรื่องช็อคโกแลต คริตกะจ๋า บ้าสุด...สุด รักสยามเท่าฟ้า สะใภ้บรื๋อ รวมทั้งภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง cj 7 คนเล็กของเล่นใหญ่ ซุกซ่อนในรถวอลโว่จำนวน 5,000 แผ่น วีซีดีลามกอนาจาร 1,500 แผ่น

นอกจากนี้ ยังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 1072 หมู่บ้านเศรษฐีทวีทรัพย์ แขวงและเขตคลองเตย กทม.

พบดีวีดีภาพยนตร์เรื่องเดียวกันอีก 40,000 แผ่น แผ่นวีซีดีโป๊ 2,000 แผ่น และปกวีซีดีลามก 20,000 ปก รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท  ผบก.ปศท.เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 06.30 น. วันเดียวกันนี้ ตนพร้อมชุดปราบปรามพิเศษ ปศท. นำโดย พ.ต.อ.ภูธร ปริศนานันทกุล ผกก.ฝ่ายปฏิบัติการ 3 บก.ปศท. นำกำลัง พร้อมหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและระหว่างประเทศกลาง เลขที่ 65/2551 ลงวันที่ 18 ก.พ.2551 เข้าตรวจค้นบ้านดังกล่าว

หลังสืบทราบว่า เป็นแหล่งผลิตวีซีดีละเมิดลิขสิทธิ์รายใหญ่ มีนายเซ้ง หรือเฮียเซ้ง เป็นเจ้าของบ้าน แต่ไม่พบตัว

ภายในบ้านไม่มีการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ใดๆ จัดวางหีบห่อระเกะระกะ มองจากภายนอกดูคล้ายโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ผู้ต้องหาทั้งหมดกำลังตั้งหน้า ตั้งตาไรท์แผ่นหนังละเมิดลิขสิทธิ์ แล้วบรรจุใส่หีบห่อเตรียมส่งให้ลูกค้า จึงควบคุมตัวมาดำเนินคดี เพื่อขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับเฮียเซ้ง ทางการสืบสวนทราบว่าเป็นนายทุนรายใหญ่ในการไรท์แผ่นหนังละเมิดลิขสิทธิ์ส่งจำหน่ายย่านคลองเตย ตลาดปีนัง และรายย่อยตามศูนย์การค้าต่างๆ ต้นทุนในการผลิตตกแผ่นละไม่เกิน 15 บาท แต่ขายปลีกแผ่นละ 80-100 บาท 


จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าลักลอบก๊อบปี้หนังชนโรงมานานประมาณ 1 ปี

โดยจะมีลูกน้องเฮียเซ้งมาสั่งให้นำหนังที่ผลิตแล้วไปส่งตามย่านต่างๆตามจำนวนที่ลูกค้าสั่ง นานๆทีเฮียเซ้งจะไปดูกิจการสักครั้ง เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดี เบื้องต้น แจ้งข้อหาร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่นเพื่อการค้า ด้วยการทำซ้ำ มีไว้เพื่อขายซึ่งงานภาพยนตร์ โทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน-4 ปี ปรับตั้งแต่ 1-8 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาเพื่อความประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้า ร่วมกันทำ ผลิต มีไว้ หรือทำให้เผยแพร่เพื่อประการใดซึ่งภาพพิมพ์ สิ่งพิมพ์ ภาพยนตร์อันลามก จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี 


ต่อมาได้มีตัวแทนผู้ประกอบการภาพยนตร์ผู้เสียหายเดินทางมาดูผล

อาทิ สหมงคลฟิล์ม เจ้าของภาพยนตร์ดังเรื่องช็อคโกแลต นำโดยนายอัฉจริยะ ห่ำเดช ผู้ช่วยประธาน บริษัทสหมงคลฟิล์ม พร้อมนางเอกนักบู๊ จีจ้า-ญาณิน วิสมิตะนันทน์ และผู้สร้างหนังที่ถูกละเมิด เดินทางไปตรวจดูผลงานที่ถูกก๊อบปี้ พร้อมกล่าวทำนองเดียวกันว่าเคยได้ยินข่าวตำรวจเรื่องรับส่วยซีดี แต่ในความเป็นจริงจะรับหรือไม่รับไม่ทราบ แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ยังมีหนังละเมิดลิขสิทธิ์ออกมาขายเต็มท้องตลาด แต่ก็ไม่เห็นมีการจัดการอย่างไร แค่วีซีดีเถื่อนยังจับกุมไม่ได้แล้วจะไปจับโจรผู้ร้ายอย่างไร บางท้องที่ ตอนนี้ก็ยังมีขายกันอยู่ ส่วนบางท้องที่ เมื่อบอกให้หยุดขายก็จะหายไปจากท้องตลาดสักพัก หลังจากนั้นก็จะนำออกมาวางขายเกร่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงอยากให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ดำเนินการให้เด็ดขาดจริงจังกว่านี้ ถ้าตำรวจชั้นผู้น้อยละเลย หรือมีส่วนร่วมกับพ่อค้าหนัง  ก็ควรจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด  ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
 

ฝ่ายจีจ้า-ญาณิน นางเอกสาว นักแสดงนำเรื่องช็อคโกแลต เมื่อเห็นแผ่นหนังก๊อบปี้ผลงานของตัวเองเป็นกองพะเนิน ถึงกับร้องอุทานว่าแค่หนังฉายไม่กี่วันก็มีแผ่นก๊อบปี้ออกมาแล้วหรือ

ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินข่าวมาเหมือนกันว่าช็อคโกแลตโดนก๊อบปี้ แต่ไม่อยากเชื่อ จนกระทั่งมาเห็นกับตาตัวเอง ทำให้เสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก ตนและทีมงานเสียกำลังใจ โดยเฉพาะสงสารผู้ลงทุนสร้างหนังและนักแสดง ที่ต้องเจ็บตัวเสี่ยงตายกับการแสดง ถ้าเป็นแบบนี้ใครจะมีกำลังใจสร้างหนังดีๆให้ คนไทยและต่างชาติดู ตนเตรียมตัวแสดงหนังเรื่องนี้มา 4 ปี เพื่อใคร เพื่ออะไร จึงอยากขอความร่วมมือกับทุกๆฝ่าย รวมทั้งประชาชนผู้บริโภคด้วย ไม่ควรไปอุดหนุนหนังละเมิดลิขสิทธิ์เหล่านี้ พร้อมกับหยิบแผ่นหนังก๊อบปี้เรื่องช็อคโกแลตโยนทิ้ง โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของไม่ดี ผิดกฎหมายต้องนำไปทำลาย อย่าให้การสนับสนุน
 

ด้านนายอัจฉริยะ ห่ำเดช ผู้ช่วยประธานบริษัทสหมงคลฟิล์ม เปิดเผยว่า

ขบวนการผลิตหนังทำกันเป็นขั้นตอน เริ่มจากพอหนังเข้าฉายใหม่ๆ ผู้ประกอบการจะจ้างเด็กนักศึกษา 4-5 คน เข้าไปดูหนังในโรง ทำทีเป็นคู่รักเข้าไปนั่งจู๋จี๋ แล้วตั้งกล้องถ่ายแอบซบบังไม่ให้พนักงานเดินตั๋วมองเห็นกล้อง บางครั้งใช้กล้อง 2 ตัว ว่าจ้างในราคาเรื่องละ 2-3 หมื่นบาท หลังจากนั้นจะนำภาพไปก๊อบปี้เป็นวีซีดีเถื่อน ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องดำเนินการสืบหาต้นตอโดยเร็ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ในโรงหนังชื่อดังแห่งหนึ่งในห้างย่านรังสิต ซึ่งกำลังฉายหนังเรื่องช็อคโกแลต มีนักศึกษาหญิง 3 คน ชาย 1 คนลักลอบถ่ายภาพยนตร์เรื่องช็อคโกแลต พนักงานเดินตั๋วจับได้คาโรงหนัง จึงนำตัวส่ง สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ดำเนินคดี

ปรากฏว่าขณะลงบันทึกจับกุมเพื่อส่งตัวให้ บก.ปศท.ข ยายผล มีชายอ้างตัวเป็นปลัดอำเภออาวุโสในจ.ปทุมธานี ขับรถเก๋งบีเอ็มดับบลิว สีบรอนซ์เงิน เข้าไปโวยวายต่อว่า
 
พร้อมกับขอนำตัวนักศึกษาไปสอบถามราย ละเอียด จากนั้นพานักศึกษาสาวหลบหนีไป เหตุการณ์ ทั้งหมดมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของโรงพักบันทึกไว้อย่างละเอียด นอกจากนี้ กลุ่มตัวแทนผู้เสียหายยังเปิดเผยด้วยว่า ขบวนการแอบถ่ายหนังชนโรงเพื่อนำไปไรท์แผ่นขาย ส่วนใหญ่จะอยู่ทั่วไปตามโรงหนังละแวกโรงหนังชานเมือง โดยเฉพาะศูนย์การค้าย่านรังสิต และถนนศรีนครินทร์ ซึ่งพบบ่อยมากในวันที่หนังลงโรงฉายวันแรก
  

ทางด้าน พ.ต.อ.วีรสันธ์ สมใจ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เปิดเผยถึงกรณีเมื่อคืนวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า

นายพีรเดช ศรีชาเยศ ตัวแทนผู้ตรวจโรงภาพยนตร์บริษัทสหมงคลฟิล์ม จำกัด และ น.ส. สุวรรณี บุตรเดช พนักงานบริษัท อีจีวี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.ไพรรัตน์ วรรณี ร้อยเวร สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ว่ามีนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ลักลอบใช้โทรศัพท์ มือถือถ่ายภาพยนตร์เรื่อง “ช็อคโกแลต” ขณะฉายในโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รังสิต โรงที่ 2 แต่ปรากฏว่าเมื่อนำตัวนักศึกษาสาวดังกล่าวไปโรงพัก ได้มีชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นปลัดอำเภอ ขับรถเก๋งบีเอ็มดับบลิว พานักศึกษาสาวคนดังกล่าวหลบหนีไป หลังจากได้รับรายงาน ได้สั่งการให้ร้อยเวรเจ้าของคดี รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายเรียกนักศึกษาสาวมาสอบสวนข้อ เท็จจริง หากพบว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที พร้อมกันนี้จะเรียกชายที่อ้างตัวเป็นปลัดอำเภอ มาสอบสวนด้วย และถ้าพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์