ดญ.14ตายปริศนา บนเรือสินค้าญี่ปุ่น

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.


ทางการญี่ปุ่นได้ประสานกงสุลไทยในญี่ปุ่นนำศพ ด.ญ.รำไพ ยาวรัมย์ อายุ 14 ปี บ้านเลขที่ 94 หมู่ 14 ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ส่งกลับประเทศไทยโดยสายการบินของบริษัทการบินไทย เที่ยวบินที่ทีจี 623 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 15.15 น. วันเดียวกัน

โดยทันทีที่ศพของ ด.ญ.รำไพถูกส่งถึงสนามบิน

พ.ต.ต. คุณากร หอมจันทร์ พงส. (สบ.) สภ.ต.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยนำศพส่งต่อไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยศพห่อด้วยถุงพลาสติกบรรจุในโลงสีชมพู แช่แข็งอย่างดี ในชั้นต้นทางการญี่ปุ่นไม่ระบุสาเหตุการเสียชีวิต ให้ข้อมูลเพียงว่าพบศพ ด.ญ.รำไพในเรือขนส่งสินค้า

นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า

รับทราบรายงานจากกรมการกงสุลว่า พบศพเด็กหญิงไทยบนเรือของญี่ปุ่น แต่เรือลำดังกล่าวปักธงสัญชาติปานามา ซึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่ท่าเรือของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ทางการญี่ปุ่นระบุว่า

เด็กเสียชีวิตในน่านน้ำสากล พร้อมกับเป็นเรือที่ปักธงสัญชาติอื่น

ดังนั้น จึงไม่ยอมรับการชันสูตร แต่ดำเนินการส่งศพกลับประเทศไทย ทั้งนี้ ล่าสุดทราบว่าทางสถาบันนิติเวชวิทยายอมรับและกำลังจะชันสูตรศพว่ามีสาเหตุการเสียชีวิตจากอะไร เบื้องต้นทราบเพียงว่าเด็กแอบหนีผู้ปกครองขึ้นเรือ โดยที่ผู้ใหญ่ไม่ทราบเรื่อง กระทั่งมาพบเป็นศพอยู่บนเรือดังกล่าวแล้ว

สำหรับความเป็นมาของคดีนี้สืบเนื่องมาจาก


เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา นางสุดามาศ ยาวรัมย์ อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 94 หมู่ 14 ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เข้าแจ้งความคนหายต่อ พ.ต.ท.เริงศักดิ์ คดีธรรม สารวัตรเวร สภ.อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยให้รายละเอียดว่า ทำงานเป็นคนงานขนถ่ายสินค้าของบริษัทอินเตอร์สตีวีโค จำกัด เช่าห้องพักอาศัยอยู่ละแวกท่าเรือสยามไซโล หมู่ 4 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา

ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าวันเดียวกันพร้อมเพื่อนคนงานรวม 12 คน

ขึ้นไปทำงานบนเรือที่มาจอดเทียบท่าเพื่อขนส่งไม้สักกลับประเทศญี่ปุ่น โดยมี ด.ญ.รำไพ บุตรสาว เป็นนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแซร์ออ ที่เพิ่งจะเดินทางมาเยี่ยมในช่วงปิดภาคเรียน ขอตามขึ้นไปบนเรือด้วย เพราะความอยากรู้อยากเห็น หลังเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ปรากฏว่า ด.ญ.รำไพหายตัวไปอย่างลึกลับ ออกตามหาตามส่วนต่างๆภายในเรือ แต่ไม่พบเนื่องจากเรือบรรทุกสินค้ามีขนาดใหญ่และมีห้องพักลูกเรือสลับซับซ้อน สอบถามก็ไม่มีใครพบเห็นจึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

ผกก.สภ.อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวว่า

คดีนี้วันเกิดเหตุตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ไม่สามารถขึ้นไปตรวจสอบบนเรือในทันทีได้เพราะต้องประสาน ตม.ทำเรื่องเข้าตรวจสอบและต้องมีสาเหตุบนเรือ จะขึ้นไปตรวจสอบโดยพลการไม่ได้ เพราะมีข้อตกลงระหว่างประเทศ บนเรือก็เปรียบเสมือนประเทศของเขา

ล่าสุดได้ตรวจสอบไปทางนายอนุชา ชำนาญปืน

หัวหน้าคนงานขนถ่ายสินค้าของบริษัทอินเตอร์สตีวีโค ให้รายละเอียดว่า เรือขนถ่ายสินค้าลำดังกล่าวชื่อเรือปรินซ์ออฟโตเกียว เข้ามาจอดเทียบท่าตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. วันเกิดเหตุคือวันที่ 31 พ.ค. นายอนุชานำคนงานจำนวน 12 คน มีนางสุดามาศรวมอยู่ด้วยขึ้นไปขนถ่ายสินค้า โดยมี ด.ญ.รำไพขอตามขึ้นไปบนเรือด้วย หลังจากนั้นไม่นาน ด.ญ.รำไพหายตัวไป สอบถามลูกเรือไม่มีใครพบเห็น ตอนแรกคิดว่าเด็กตกเรือลงทะเล

พ.ต.อ.วรพล เปิดเผยด้วยว่า

เรือบรรทุกสินค้าออกจากท่าเรือเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 1 มิ.ย. ต่อมากัปตันเรือลำดังกล่าวโทรศัพท์มาแจ้งกับบริษัทนายหน้า หรือที่รู้จักกันในนามเอเย่นต์เรือว่า

พบศพ ด.ญ.รำไพเสียชีวิตอยู่บริเวณบันไดทางลงระหว่างเรือช่อง 3

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. แต่เมื่อตนได้สอบถามนายอนุชาหัวหน้าคนงานยืนยันว่าวันเกิดเหตุเข้าไปตรวจสอบบริเวณบันไดทางลงระหว่างเรือช่อง 3 แต่ไม่พบศพ ด.ญ.รำไพ ทำให้น่าเชื่อว่า ด.ญ. รำไพ เสียชีวิตหลังวันเกิดเหตุอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามจะได้เรียกนางสุดามาศและผู้เกี่ยวข้องสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งผลการชันสูตรศพที่ชัดเจนจากสถาบันนิติเวชวิทยา

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์