หนุ่ม ปณ.7 หึงยิงกิ๊ก ฆ่าตัวตามดับ 2 ศพ

"ยิงดับ 2 ศพ ปมรักไม่ลงตัว"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.50 น. วานนี้ (4 มี.ค.) พ.ต.ต.ศุภเชษฐ์ รังคะวงษ์ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งมีเหตุยิงกันตาย 2 ศพ ที่ห้องหมายเลข 209 โรงแรมแอนนา ถนนมิตรภาพ ต.กุดสระ จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.สรศักดิ์ เย็นเปรม รอง ผบก. พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง ผกก.สภ.อ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สมกฤษ จันทอง รอง ผกก.สส. นำกำลังฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรมรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมชั้นเดียวยกพื้นสูง บริเวณห้องที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อนิสสัน สีเขียว ทะเบียน บพ 8868 อุดรธานี จอดอยู่ เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในห้องเกิดเหตุพบโทรทัศน์และแอร์เปิดทิ้งไว้ พบศพชายและหญิงนอนตายคู่กันอยู่บนเตียงนอน มีผ้าห่มคลุมศพ สภาพศพเริ่มเน่าส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง ทราบว่าฝ่ายชายชื่อนายประสาน สัมพันธ์รักษ์ อายุ 47 ปี เป็นพนักงานไปรษณีย์ศูนย์อุดรธานี อยู่บ้านเลขที่ 72/32 ถนนบ้านโนน ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีเหลือง

มีบาดแผลถูกยิงกรอกปากด้วยปืน 9 มม. กระสุนทะลุท้ายทอย 1 นัด มือขวากำปืนพก 9 มม. ทูตมรณะไว้แน่น ส่วนมือซ้ายกำกระสุนปืน 9 มม. 1 นัด ส่วนฝ่ายหญิงทราบชื่อนางรัตติยา จักรพรมมา อายุ 32 ปี ทำงานอยู่ไปรษณีย์แห่งเดียวกัน อยู่บ้านเลขที่ 375 หมู่ 4 ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีเหลือง มีหมอนปิดทับใบหน้า และมีรอยกระสุนยิงทะลุหมอนเจาะเข้าขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด คราบเลือดกระจายเปรอะตามหัวเตียงและฟูกที่นอน

"ต่างคนต่างมีครอบครัว"


ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 9 มม. ตกอยู่บนเตียงนอน 1 ปลอก กับบนโซฟาข้างเตียงอีก 1 ปลอก ส่วนบนโต๊ะข้างเตียงพบกระสุนปืน 3 นัด พวงกุญแจรถยนต์ 2 พวง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง กระเป๋าสตางค์ กล่องข้าว 2 กล่อง น้ำส้มคั้น 3 ขวด ยาแก้แพ้ 3 แผง และจดหมายเขียนด้วยลายมือนายประสานว่า รถยนต์จอดไว้ด้านหลังตู้เอทีเอ็ม ในโรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม

สอบสวนนางทิพา องศากิจบริบูรณ์ อายุ 42 ปี เจ้าของโรงแรม เปิดเผยว่า ผู้ตายทั้ง 2 เป็นลูกค้าประจำของโรงแรม ก่อนเกิดเหตุได้พากันมาเปิดห้องพักช่วงเช้าวันที่ 2 มี.ค. จากนั้นเก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง จนกระทั่งช่วงเที่ยงวันรุ่งขึ้น ทั้ง 2 เก็บตัวเงียบในห้องอย่างผิดสังเกต จึงให้พนักงานไปเคาะประตูเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบ เพียง ได้ยินเสียงโทรทัศน์เปิดอยู่ เข้าใจว่าคงพักผ่อนและเห็นว่าเป็นลูกค้าประจำจึงสั่งไม่ให้ใครไปรบกวน จนกระทั่งเช้าวันนี้ได้ให้พนักงานไปเคาะประตูเรียกอีกครั้ง แต่ไม่มีเสียงตอบเช่นเดิม และได้กลิ่นเน่าเหม็นโชยออกมาจากห้อง สงสัยว่าอาจเกิดเหตุร้าย จึงนำกุญแจมาไขประตูเข้าไปดู พบทั้งคู่กลายเป็นศพ

ขณะเดียวกัน นายหัส เล็งไธสงค์ อายุ 55 ปี บิดาของนางรัตติยาผู้ตาย เปิดเผยว่า ลูกสาวทำงานเป็นลูกจ้างแผนกคัดแยกจดหมายที่ไปรษณีย์ศูนย์อุดรธานี ส่วนนายประสานเป็นหัวหน้าแผนกลำเลียง ระดับ 7 ไปรษณีย์ ศูนย์อุดรธานี ทั้ง 2 ต่างมีครอบครัว โดยนางรัตติยามีลูก 1 คน ส่วนสามีเดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลได้ประมาณ 4 ปี ทราบว่าลูกสาวกับนายประสานคบหามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมานานแล้ว

"คนรอบข้าง ขอร้องให้เลิกยุ่งเกี่ยวกัน"


และไปมาหาสู่ที่บ้านเป็นประจำ ซึ่งครอบครัวและเพื่อนร่วมงานต่างทราบกันดี กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ภรรยาของนายประสานทราบเรื่องได้โทรศัพท์มาบอกนางรัตติยาให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับนายประสาน ส่วนตนและญาติๆได้ตักเตือนนางรัตติยา ให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับนายประสาน เพราะทำให้ในครอบครัวอับอายเสียชื่อเสียง นางรัตติยาก็รับปาก ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าวันที่ 2 มี.ค. นางรัตติยาบอกว่าจะไปยื่นไปลาพักร้อนที่ทำงานแล้วหายตัวไป กระทั่งทราบว่าถูกยิงเสียชีวิตพร้อมกับนายประสาน

ด้าน พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง ผกก.สภ.อ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบคนใกล้ชิดและพยานแวดล้อมสันนิษฐานว่า ผู้ตายทั้ง 2 ลอบมีความสัมพันธ์กันมานาน กระทั่งคนในครอบครัวทราบเรื่อง ได้ขอร้องให้เลิกยุ่งเกี่ยวกันและตักเตือนถึงความไม่เหมาะสม ทำให้นางรัตติยาตัดสินใจบอกเลิกกับนายประสาน แต่ฝ่ายชายคงทำใจไม่ได้

จึงนัดฝ่ายหญิงมาตกลงปัญหากันที่โรงแรม แต่ทั้ง 2 ตกลงกันไม่ได้ นายประสานจึงฉวยโอกาสขณะนางรัตติยานอนหลับ ใช้อาวุธปืนพกที่เตรียมมาจ่อยิงนางรัตติยาโดยใช้หมอนรองเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังเสียชีวิตเป็นศพแรก จากนั้นจึงใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงกรอกปากตายตามเป็นศพที่ 2 ยุติปัญหารักร้าวดังกล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์