แก๊งลักเด็กเหิมบุกอุ้มถึงในบ้านขอนแก่นคุมเข้ม

โจรรถตู้ลักเด็กโผล่ขอนแก่น พฤติกรรมเหิมเกริมหนัก เข้ามาจับตัวถึงในบ้าน ตำรวจชุดสวัสดิภาพเด็ก เยาวชนและสตรีภาค 4 สั่งจับตาเข้มทุกพื้นที่ ประสานติดประกาศเตือนและภาพสเก็ตช์คนร้ายในโรงเรียนและชุมชน ผอ.โรงเรียนสาธิต มข.เตือนผู้ปกครองอย่าปล่อยให้ลูกรอจนเย็น

เหตุการณ์คนร้ายลักเด็กโดยใช้รถตู้เป็นพาหนะ ที่เคยเป็นข่าวเกรียวกราวมานาน และที่ผ่านมาก็ยังไม่มีบทสรุปว่ามีคนร้ายที่มีพฤติกรรมเช่นนี้จริงหรือไม่ แต่ที่ จ.ขอนแก่น ส่อเค้าว่าจะมีมิจฉาชีพกลุ่มนี้จริง เมื่อตำรวจออกภาพสเก็ตช์คนร้ายและคำเตือน ปิดประกาศทั่วเขตเทศบาลนครขอนแก่น และขอความร่วมมือไปยังโรงเรียนต่างๆ

พ.ต.ท.วรวัฒน์ มะลิ รอง ผกก.กลุ่มงานสวัสดิภาพเด็ก เยาวชนและสตรี ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า นายสมโภชน์ สีเมืองเพีย อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 209/3 หมู่ 20 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เข้าร้องเรียนต่อศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ให้สืบสวนติดตามบุคคลต้องสงสัยจะมาลักพาตัว ด.ช.เอ บุตรชาย อายุ 2 ขวบ 6 เดือน ภายในบ้านพัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผู้ร้องเรียนแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ มีรถตู้สีฟ้าอ่อน สภาพเก่า ไม่ทราบยี่ห้อ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ติดฟิล์มกรองแสงสีดำทึบ มองไม่เห็นภายในรถ ขับมาจอดบริเวณหน้าบ้านพัก และมีชายอายุประมาณ 18-20 ปี แต่งกายชุดยีนสีดำ สะพายเป้สีดำ ลงจากรถเดินเข้าไปในบ้านพัก และพยายามจับลูกชายไป แต่ขณะชายคนดังกล่าวกำลังจะจับลูกชาย นางประเทือง โคมหอม อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นยาย เดินออกมาเห็นพอดี ทำให้ชายคนนั้นวิ่งขึ้นรถตู้ขับหลบหนีไป

นางประเทือง เล่าว่า เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พาน้องเอไปตัดผม เมื่อกลับมาบ้านก็ให้หลานชายอาบน้ำอยู่หน้าบ้าน โดยปิดประตูหน้าบ้านไว้ แล้วเดินเข้าบ้านเพื่อไปเอาผ้าเช็ดตัว ก็มีรถตู้สีฟ้าอ่อนติดฟิล์มสีดำ มองไม่เห็นภายในรถ มาจอดบริเวณหน้าบ้าน จากนั้นก็เห็นผู้ชายอายุประมาณ18-20 ปี สวมเสื้อยีนสีดำ กางเกงยีนสีดำ สะพายเป้สีดำ มือขวาถือร่ม ลงจากรถเดินมาเปิดประตูบ้านเข้ามา แล้วเดินไปหาน้องเอ ชวนพูดคุยซักถามว่ากินนมยี่ห้ออะไร เมื่อเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน จึงตะโกนถามว่ามาทำอะไร มาพบใคร หนุ่มวัยรุ่นคนนั้นจึงวิ่งขึ้นรถตู้หนีไป

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทำให้ฉันคิดมาก หวาดระแวงวิตกกังวลว่าจะมีคนมาเอาหลานไป ทุกวันนี้ก็คิดมาก เห็นใครมาจอดรถหน้าบ้านก็กลัวว่าจะเป็นพวกลักขโมยเด็ก จนต้องต่อเติมประตูรั้วบ้านสูงขึ้นจาก 2 เมตร เป็น 3 เมตร เพราะเกรงว่าคนร้ายจะปีนรั้วเข้ามาในบ้านได้ นางประเทือง กล่าว

พ.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องทางกลุ่มงานสวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี ได้สอบถามข้อมูลและสเก็ตช์ภาพคนร้ายนำออกปิดประกาศทั่วเขตเทศบาลนครขอนแก่น และทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อให้ช่วยแจ้งเบาะแส และนำภาพสเก็ตช์ผู้ต้องสงสัยไปติดตามชุมชน สถานศึกษาในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ โดยถ่ายเอกสารแจกจ่ายจำนวนกว่า 500 ใบ เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกันการลักพาตัวเด็ก เพราะที่ผ่านมามีสายข่าวรายงานว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวตระเวนอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน

ทั้งนี้ พฤติกรรมกลุ่มบุคคลต้องสงสัยดังกล่าว จะขับรถตู้ตระเวนเข้าไปตามหมู่บ้าน วนเวียนดูสถานการณ์ก่อนว่ามีเด็กวิ่งเล่นอยู่หน้าบ้านพัก หรือเล่นอยู่ตามลำพังหรือไม่ บางครั้งก็ไปดูตามสถานศึกษาเพื่อเลือกเป้าหมาย จากข้อมูลพบว่าหากจับเด็กชายจะนำไปขอทาน และขายให้ชาวต่างชาติ ส่วนเด็กผู้หญิง จะนำไปขายบริการทางเพศ ขอทาน และขายให้ชาวต่างชาติเช่นกัน

นอกจากนี้จากการสำรวจสถิติเด็กหายใน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2550 พบว่ามีเด็กหาย 3 ราย ได้แก่ พื้นที่ อ.เมือง 2 ราย และ อ.มัญจาคีรี 1 ราย ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเข้าไปเฝ้าระวังและติดตามกลุ่มบุคคลต้องสงสัย อีกทั้งให้มีการจัดเก็บข้อมูลรถตู้เพื่อง่ายต่อการติดตามจับกุม

"อยากให้ผู้ปกครองช่วยป้องกันลูกหลาน อย่าให้บุตรหลานอยู่ไกลสายตา และขอให้ชุมชนช่วยสอดส่องดูแลระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะรถตู้ หากเห็นพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลให้โทรแจ้ง 191 ได้ทันที หรือโทรศัพท์เข้ามาที่ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง" พ.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าว

ผศ.พวงทอง อ่อนจำรัส ผอ.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ กลุ่มงานสวัสดิภาพเด็ก เยาวชนและสตรีฯ ได้เข้ามาพบ และเล่าเรื่องให้ฟัง พร้อมกับขอความร่วมมือติดประกาศ รูปพรรณสัณฐานของคนร้าย ตามภาพสเก็ตช์ พร้อมกับให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ผู้ปกครอง เด็กนักเรียน และครูอาจารย์ในโรงเรียนได้รับทราบไว้แล้ว โดยขอความร่วมมือผู้ปกครองให้ดูแลลูกหลาน อย่าปล่อยให้นั่งรอจนเย็น เพราะอาจจะตกเป็นเหยื่อของแก๊งขโมยเด็กนี้ได้