ขาใหญ่วินจยย.รับจ้าง แซวหนุ่มหัวล้าน ก่อนรุมแทงดับคาซอย

ขาใหญ่วินจยย.รับจ้างซอยอินทามะระ 49 พร้อมพวก นั่งแซวผู้คนที่ผ่านไปมาในซอยแถวบ้าน เจอหนุ่มตัดผมสกินเฮดขี่จยย.ผ่านมา ตะโกนแซวเอาจีวรไปห่มไหมพี่ จนเป็นเหตุทะเลาะวิวาท แต่หนุ่มสกินเฮดสู้ไม่ไหว ถูกรุมแทงดับคาที่

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่14 ก.พ. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.อนุพงศ์ ทัศนา ร้อยเวร สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกาย มีผู้เสียชีวิต ภายในซอยถนอมจิตร ถ.สุทธิสารวินิจฉัย แขวงและเขตดินแดง กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รองผบก.น. 2 และ พ.ต.อ.วราวุธ ทวีชัยการ ผกก.สน.ดินแดง

ที่เกิดเหตุอยู่ในซอยถนอมจิตร ลึกเข้าไปประมาณ 100 เมตร ริมทางเดินเกือบสุดซอย เจ้าหน้าที่พบศพนายอาดุลย์ สีหนาท อายุ 39 ปี เป็นคนขับรถของเครือบริษัทล็อกซ์เล่ย์ จำกัด ถ.ระนอง แขวงและเขตคลองเตย กทม. สภาพศพผู้ตายถูกแทงด้วยของมีคม เข้าที่บริเวณแขน และใต้ชายโครง เป็นบาดแผลฉกรรจ์ นอนจมกองเลือดอยู่ และทราบว่ามีคนเจ็บอีกสองคนคือนายครรชิด และนายสด ซึ่งเป็นคู่กรณีได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเปาโล และโรงพยาบาลวิภารามตามลำดับ

จากการสอบสวน นางยุพิน สุขเกษม อายุ 32 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้การว่าก่อนเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงค่ำ ตนกับสามีได้ขี่จักรยานยนต์ไปกินข้าวที่บ้านญาติภายในซอยดังกล่าว กระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น.จึงขี่รถจักรยานยนต์กลับระหว่างทาง เห็นกลุ่มของนายครรชิต หมอนจันทร์ อายุ 25 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์อยู่ภายในซอยอินทามะระ 49 กับพวกทราบอีก 3 คน คือนายวิทยา หมอนจันทร์ ไม่ทราบอายุ และนายสด ไม่ทราบนามสกุล นั่งอยู่ภายในศาลาที่พักริมทาง จากนั้นได้ตะโกนแซวสามี ซึ่งตัดผมทรงเกรียนสั้น (สกินเฮด) คล้ายโกนหัวล้าน และมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน

นายครรชิตพูดว่า จะเอาจีวรไปห่มไหม สามีพูดตอบโต้ว่า เอาสิ ก่อนที่จะพูดต่อว่ามีแต่สีแดง เฮงจะเอาไหม สามีกล่าวโต้ว่าถ้ากล้าให้ก็กล้าเอา จากนั้นคนร้ายจึงพูดว่าให้ไปส่งเมียที่บ้านก่อนแล้วค่อยมาเอา กระทั่งเมื่อส่งตนที่บ้านเสร็จสามีได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านและถูกคนร้ายรุมแทงจนเสียชีวิต ซึ่งไม่คิดว่าจะทำร้ายกันขนาดนี้ นายยุพินกล่าวด้วยน้ำตานองหน้า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายไวชรินทร์ หมอนจันทร์ อายุ 36 ปี พี่ชายของนายครรชิต และนายวิทยา ไว้สอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ด้วยหรือไม่ พร้อมเร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนาต่อไป