ตั้งค่าหัว2แสน โจรชิงเงินยูโอบี ตร.ดูกล้องวงจรปิดล่า

รอง ผบช.ภ.4 เผยยังไร้เงาโจรชิงเงินยูโอบี ตั้งค่าหัว 2 แสน ให้ผู้แจ้งเบาะแสนำจับ รุดดูกล้องวงจรปิด พบบุคคลต้องสงสัย

จากเหตุการณ์คนร้ายบุกชิงเงินจำนวนกว่า 6 ล้านบาท ของธนาคารยูโอบี สาขาขอนแก่น จนขณะนี้ยังไม่สามารถตามจับกุมตัวคนร้ายได้นั้น ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนหาเบาะแสของคนร้าย ทั้งจากพยานบุคคล และจากกล้องวงจรปิด ที่อยู่ในธนาคาร และร้านค้าใกล้เคียง รวมถึงตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีคือเส้นทางบ้านศรีฐาน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นเส้นทางที่สามารถหลบหนีออกไปได้ในหลายพื้นที่ 

พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รอง ผบช.ภ.4 เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายชิงเงินจำนวน 6,223,366 บาท จากธนาคารยูโอบี สาขาขอนแก่น เลขที่ 81/1 ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่นว่า ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน จำนวน 3 ชุด คือจากศูนย์สืบสวนสอบสวนภาค 4 โดยการนำของ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.ศสส.ภาค 4 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น โดยการนำของ พ.ต.อ.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และจาก สภ.เมืองขอนแก่น โดยการนำของ พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพานิช ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ประมาณ 100 นาย ร่วมกันวิเคราะห์และหาเบาะแสของคนร้าย ซึ่งในขณะนี้ ทั้งในเรื่องรูปพรรณสัณฐาน การแต่งตัว วิธีการลงมือ ยานพาหนะ และอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ เป็นปืนกล๊อก 19 ออโตเมติก ซึ่งตำรวจต่างเห็นตรงกันว่า คนร้ายที่ลงมือชิงเงิน น่าจะเป็นรายเดียวกับที่เคยชิงเงินจากรถขน และบุกชิงเงินในธนาคารในเมืองขอนแก่นเมื่อปี 2551 

สำหรับปืนกล๊อก 19 นั้นมีราคาสูง กระบอกละ 70,000-80,000 บาท แต่นิยมใช้มากในกลุ่มคนในเครื่องแบบและกลุ่มนักเลง ฉะนั้นคนร้ายที่กล้าบุกเดี่ยวเข้าไปในธนาคารแล้วชิงเอาเงินไปหลายล้านบาท จะต้องมีความชำนาญในการใช้ปืน และผ่านการทำงานในลักษณะเสี่ยงมาแล้ว และการลงมือชิงเงินครั้งนี้ คนร้ายน่าจะมีมากกว่า 1 คน ที่คอยช่วยเหลือตลอดเส้นทางการหลบหนี เพราะคงไม่เสี่ยงใช้รถจักรยานยนต์ขนเงินไปในระยะทางที่ไกลๆ 

พล.ต.ต.ศักดา กล่าวต่อว่า ถ้าไม่เกี่ยวพันกับคนใน คนร้ายก็ต้องเป็นคนมีความชำนาญ ทำงานแบบใจเย็น แต่ยังไม่อยากพาดพิงถึงบุคคลกลุ่มใด เพราะการทำงานของตำรวจ จะต้องมีการวิเคราะห์เจาะลึกในด้านต่างๆ อีกมาก ข้อมูลบางอย่าง เกี่ยวพันกับการสืบสวนสอบสวน ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้น ตำรวจคือผู้รับผิดชอบ การทำงานจึงต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก แต่ขอทำงานอย่างเต็มที่ 

เมื่อถามถึงการประกันภัยทรัพย์สิน พล.ต.ต.ศักดา กล่าวว่า ทั้งธนาคารและบริษัทขนเงินต่างก็มีประกันภัยทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งก็อาจจะทำให้บุคคลที่ไม่หวังดี วางแผนลงมือชิงเงินก็เป็นได้ ฉะนั้นจึงอยากให้บริษัทและธนาคารมีการพัฒนาประสิทธิภาพในด้านของการป้องกันรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้นด้วย เพราะเหตุการณ์บุกเดี่ยวชิงเงินในธนาคารหลายครั้งที่เจ้าหน้าที่ รปภ.หรือเจ้าหน้าที่บริษัทขนเงิน ที่มีอาวุธปืน แต่น้อยมากที่มีการตอบโต้คนร้าย อย่างเช่นที่ธนาคารยูโอบี ไม่มีการตอบโต้หรือวิธีการป้องกันที่รัดกุม

การทำงานของตำรวจ ได้รับความร่วมมือจากทางธนาคารและบริษัทขนเงิน รวมถึงพนักงานขับรถขนเงินของบริษัท G4S หรือบริษัท กรุ๊ปโฟร์ซีเคียวริคอร์แคชเซอร์วิส ประเทศไทย จำกัด ทั้ง 3 คน และเจ้าหน้าที่ รปภ.เป็นอย่างดี ซึ่งการสอบสวน ในเบื้องต้นไม่พบพิรุธ ตำรวจก็จะทำงานกันอย่างเต็มที่ และอยากขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสของคนร้ายหรือบุคคลต้องสงสัย หากเบาะแสที่ได้รับนำไปสู่การจับกุมคนร้าย จะมีรางวัลนำจับมอบให้ จำนวน 200,000 บาททันที โดยให้แจ้งเบาะแสไปที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-7171177 และ หมายเลข 081-5449888 ตลอด 24 ชั่วโมง 

ต่อมาเวลา 11.30 น. พ.ต.ท.นพเก้า โสมนัส รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองขอนแก่น และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุซ้ำอีกครั้ง จากนั้นได้เดินทางตามเส้นทางที่คาดว่า คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีเทา ดำ หลบหนี คือเส้นทางบ้านศรีฐาน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งตามเส้นทางดังกล่าว มีร้านค้าบางร้านที่อยู่ริมถนนติดตั้งกล้องวงจรปิด ซึ่งมีกล้องบางตัวจับภาพบุคคลต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์ มีถุงสิ่งของวางไว้ที่กระบังลม ขี่ผ่านหน้าร้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอความร่วมมือนำภาพดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับภาพในวงจรปิดของทางธนาคารแล้ว

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์