ตุ๋นสาวค้ากามเกาหลี

ตร.ปราบปรามค้ามนุษย์จับกุมสาวใหญ่ วัย 40 ชาวนครพนม ฐานร่วมแก๊งล่อลวงสาวไทยไปค้ากามต่างแดน

โดยหลอกว่าถ้าจ่ายค่านายหน้า 300,000 บาท จะช่วยพาไปทำงานนวดแผนโบราณที่ประเทศเกาหลีใต้ โกยรายได้สูงถึงเดือนละ 70,000 บาท แต่เมื่อเหยื่อหลวมตัวหลงกลยอมเสียเงินเสียทองเดินทางไปแดนโสมขาวจริงๆ ปรากฏว่าโดนยึดพาสปอร์ตและล็อกตัวไปขังไว้ในห้องติดลูกกรงเหล็กในร้านนวดเมืองอันซัน บังคับให้ค้าประเวณีทั้งวันทั้งคืน ถ้าไม่ยอมก็ถูกลูกค้าปลุกปล้ำขืนใจ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 ก.ค. นาย อิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบก.ปดส. ร่วมแถลงข่าวจับกุมนางมลิจันทร์ อินทา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 17 ต.คำเตย อ.เมือง จ.นครพนม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1962/2553 ข้อหาร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปทำการค้ามนุษย์ แสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณี เป็นธุระจัดหาล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อการค้าประเวณี โดยใช้อุบายหลอกลวง ใช้กำลังประทุษร้าย และหน่วงเหนี่ยว กักขังผู้อื่น

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ว่า

ถูกนาง มลิจันทร์กับพวก หลอกให้ไปทำงานนวดแผนโบราณที่ประเทศเกาหลีใต้ ล่อลวงว่ามีรายได้สูงถึงเดือนละ 50,000-70,000 บาท ทำให้ผู้เสียหายสนใจ และยังชักชวนเพื่อนอีก 2 คน ร่วมเดินทางไปด้วย ทั้งหมดต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางคนละ 300,000 บาท แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่ามีชายชาวเกาหลีใต้ มารับตัวไปทำงานที่ร้านนวดแห่งหนึ่งของนางซี จาง นิม ตั้งอยู่ที่เมืองอันซัน พร้อมกับยึดหนังสือเดินทาง และนำตัวไปกักขังไว้ในห้องพักที่มีลูกกรงเหล็กป้องกันการหลบหนี ก่อนโดนบังคับให้ค้าประเวณี

นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังให้การอีกว่าระหว่างนั้นต้องถูกบังคับให้ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ได้พักผ่อน ทั้งยังต้องให้บริการลูกค้าที่เมาสุราและพยายามจะข่มขืน

หลังจากทนทำงานอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน จึงหลบหนีออกมาได้ เมื่อกลับมาประเทศไทยจึงเข้าแจ้งความ กระทั่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการจับกุมดังกล่าว จากการสอบสวนเบื้องต้น นางมลิจันทร์ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าเมื่อประมาณ 9 ปีที่แล้ว เคยเดินทางไปทำงานที่โรงงานผลิตแก้วแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้ หลังเศรษฐกิจเริ่มซบเซา รายได้ไม่ดี ตนตัดสินใจกลับมาทำสวนยางพาราที่ จ.นครพนม กรณีที่เกิดขึ้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่เคยเรียกรับเงินจากผู้เสียหาย มีแต่ผู้เสียหายมาปรึกษาว่าจะไปทำงานเกาหลีใต้ต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะเห็นว่าตนมีประสบ การณ์ไปทำงานที่นั่นมาแล้ว และไม่ทราบสาเหตุที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์