ปล้นฆ่าเย้ยตร. ทำข้างโรงพัก

พ.ต.ท.เดชา พรมสุวรรณ์ พงส. (สบ.3) สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุชายถูกฟันเสียชีวิต ทางขึ้นสะพานลอยคนข้ามแยกสารสินตัดวิทยุ ห่างจาก สน. ประมาณ 100 เมตร แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. ไปตรวจสอบพบศพนายสมคิด สืบเหล่างิ้ว อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 12 ต.มะค่า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา นอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงยีน คาดเข็มขัดหนัง หัวมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ มีบาดแผลถูกฟันเหวอะหวะที่ศีรษะ ลำคอ ข้อมือขวาและหน้าท้องเป็นแผลฉกรรจ์สยดสยอง โดยมีร่องรอยคราบเลือดหยดเป็นทางบนสะพานลอยและติดตามราวบันได คล้ายกระเสือกกระสนหนีคนร้ายก่อนจะสิ้นใจ ค้นในตัวมีเงินสด 40 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเรียนอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ มีลักษณะเป็นเกย์ควีน ไปเที่ยวบาร์ในย่านถนนสารสิน ตำรวจตั้งประเด็นว่าอาจมีเรื่องขัดแย้ง หรือทะเลาะกับวัยรุ่นในบาร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนอีกประเด็นหนึ่ง อาจเป็นการฆ่าชิงทรัพย์

ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกชิงทรัพย์บนสะพานลอยดังกล่าว เมื่อไปตรวจสอบพบเพียงกองเลือด ส่วนผู้เสียหายบาดเจ็บไปรักษาตัวที่ รพ.จุฬาฯ ทราบชื่อนายสุวิทย์ ปินแก้ว อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 ซอยจรัญฯ 4 แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ ฝั่งธนฯ ให้การว่า ไปเดินเที่ยวที่สวนลุม ไนท์บาร์ซาร์ เสร็จแล้วจะกลับบ้าน ขณะเดินข้ามสะพานลอยดังกล่าว เพื่อจะไปรอเรียกรถแท็กซี่บริเวณถนนสารสิน มีวัยรุ่น 3-4 คน เดินตามหลัง จากนั้นใช้ของแข็งฟาดที่ท้ายทอยจนหัวแตกเลือดอาบ ก่อนจะพากันรุมกระทืบจนสะบักสะบอม เสร็จแล้วล้วงเอาเงินสดไปได้พันกว่าบาท พร้อมโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง วิ่งหลบหนีไป กระทั่งต่อมาพบศพถูกฆ่าสยอง ใกล้เคียงกับจุดที่เกิดเหตุปล้นทรัพย์ดังกล่าว ในเวลาไล่เลี่ยห่างกันไม่ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งน่าจะเป็นแก๊งวัยรุ่นในชุมชนใกล้เคียงที่ชอบมั่วสุมเสพยาเสพติดกันเป็นประจำ

เวลากลางคืนบริเวณดังกล่าวมืดสนิท เนื่องจากไฟฟ้าส่องสว่าง 2 ข้างทาง ถูกวัยรุ่นทุบหลอดไฟแตกและตัดสายไฟไปขาย เพื่อใช้เป็นสถานที่มั่วสุมกัน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าไปติดตั้งหลอดไฟหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่พ้นเงื้อมมือมิจฉาชีพ ทำให้เป็นจุดอันตราย เกิดเหตุวิ่งชิง ปล้นเป็นประจำ จนผู้ที่ใช้เส้นทางเพื่อไปออกกำลังกายที่สวนลุมพินีในตอนเช้าและตอนเย็น ต้องถือไม้และเหล็กไว้ป้องกันตัวไปด้วย

ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบพื้นที่ล่อแหลมให้มากขึ้น โดยเฉพาะสะพานลอยข้ามชุมชน จากสถิติยอมรับว่าในช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่มถึงตี 2 มีเหตุเกิดขึ้นค่อนข้างมาก เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นจุดมั่วสุมของวัยรุ่น บางส่วนเป็นกลุ่มรักร่วมเพศ เคยให้สายตรวจนำกำลังไปป้องกันเหตุในช่วงเวลาดังกล่าว ปรากฏว่าเกิดเหตุน้อยลง เมื่อเป็นเช่นนี้จะนำรั้วไปปิดกั้นห้ามขึ้นสะพานลอยดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 20.00 น. และเปิด 05.00 น. ของวันใหม่ทุกวัน และจะเพิ่มความถี่ของสายตรวจไปตรวจสอบให้มากขึ้น

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ